"ซินเดอเรลโล่ทัวร์" Day 2


ยังไม่ได้อ่านภาค 1 กดที่นี่ "ซินเดอเรลโล่ทัวร์" Day 1

เช้าวันที่สองของการเดินทางตื่นด้วยอาการงุนงง ตื่นเองก่อนนาฬิกาปลุก 5 นาที อาบน้ำแล้วลงไปทานอาหาร รอสักพักตามเวลานัดผู้ร่วมทริปก็ไม่ปรากฎ โทรหาพี่แป๋วรายงานตัวสถานการณ์ฟากนี้เพื่อไม่ให้ต้องเป็นห่วง ผ่านไปห้านาทีเทพก็ปรากฏกายเลยนั่งกินกันไปก่อน สักพักจนเกือบจะกินเสร็จอ.ธวัชชัยก็วิ่งกระหืดกระหอบลงมา อาจารย์เลือกซัดข้าวจานใหญ่ เราสองคนที่มาก่อนล่อแต่อาหารฝรั่งปนจีน (ปาท่องโก๋) แบบเบาๆ และมั่วๆ ที่ตักมาด้วยอาการงุนงง เสร็จสรรพก็ไปเก็บของ เช็คเอ้าท์แล้วออกเดินทาง

เป้าหมายแรกคือปราสาทหินพนมรุ้ง ผู้เขียนกับอ.ธวัชชัยคุยจ้อเช่นเคย แต่วันนี้เพราะจะไปโบราณสถาน topic เลยเป็นเรื่องเกี่ยวกับศาสนวิทยาเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รถไต่ขึ้นเขาสูงไปจนถึงจุดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าชม จากนั้นราชรถก็ไปเกยอยู่ด้านหลังของปราสาท ท่านเทพเคยมาเที่ยวแล้วเลยทำหน้าที่เป็นไกด์บรรยายให้เด็กตาดำๆ สองคนฟังถึงทางขึ้นและจุดชม แต่ละคนตาแป๋วเพราะไม่เคยมา จากนั้นก็เดินดูเรื่อยเจื้อย มีเสียงประกอบ โห หา อื้อหือ ทุกๆ สามสิบวินาทีจากอ.ธวัชชัย จริงๆ ผู้เขียนก็ตื่นเต้น แต่กลัวเสียฟอร์มเลยร้องในใจ : P



เราสองคนเห่อมาก ผลัดกันถ่ายรูปอย่างเมามัน พอดีอ.ธวัชชัยใช้กล้อง Canon 400D อยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหาในการใช้ 40D เพราะ function ใกล้เคียงกัน ผู้เขียนพอจะทราบมาบ้างว่าปราสาทหินพนมรุ้งนี่ผ่านกระบวนการบูรณะมาแล้วโดยวิธีอนาสติโลซิส เรื่องกรรมวิธีบูรณะชนิดนี้เคยเขียนคอมเม้นท์ไว้ในบันทึกของดร.ยุวนุช เลยขอคัดมาให้อ่านกัน



-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
Anastylosis เป็นคำภาษากรีก หมายถึง "การบูรณะปฏิสังขรณ์" (Restoration) "การตั้งเสาขึ้นใหม่" (Re-Erection of Columns) ปัจจุบันก็ให้คำจำกัดความคำนี้ว่า "การประกอบขึ้นใหม่ของชิ้นส่วนที่มีอยู่แต่แยกหลุดออกจากกัน" (The Reassembling of Existing but Dismembered Parts)

วิธีซ่อมแบบอนาสติโลซิสมักจะใช้กับโครงสร้างที่สามารถบอกได้ชัดว่ามีส่วนใดบ้าง เช่น อิฐก่อ หินก่อ หรือไม้ขอนสัก และไม่ใช่โครงสร้างประเภทเสาหินเดี่ยว เช่น กำแพงอิฐ ฉาบปูน และเป็นการบูรณะปฏิสังขรณ์ที่มุ่งหวังทำให้เห็นลักษณะโครงสร้างของซากอาคารให้ชัดเจน โดยการนำกลับสู่รูปทรงเดิมและใช้วัสดุดั้งเดิมที่เหลืออยู่

วิธีทำ
ก็คือ ถ่ายภาพและบันทึกรหัสของหินทุกก้อน รื้อหินลงมาแล้วเสริมความมั่นคง จากนั้นประกอบขึ้นไปใหม่ทั้งหลัง อองรี มาร์ซาล ชาวฝรั่งเศสเป็นคนที่คิดวิธีนี้โดยไปศึกษามาจากพวกฮอลันดาซึ่งบูรณะบุโรพุทโธที่อินโดนีเซีย แล้วนำมาใช้ที่ปราสาทบันทายสรี ประเทศกัมพูชาเป็นที่แรก โดยครั้งนั้นเป็นทำงานร่วมกับอองรี ปาร์มองติเยร์ ซึ่งเป็นผู้ขุดค้น ส่วนอองรี มาร์ซาล เป็นผู้ก่อเรียงหินขึ้นไปด้วยวิธีนี้ การบูรณะด้วยวิธีอนาสติโลซิสจะต้องอยู่ภายใต้กฏการอนุรักษ์ และมีหลักฐานทางโบราณคดีมาสนับสนุนการบูรณะ วิธีนี้เป็นวิธีเดียวในการก่อสร้างขึ้นใหม่ที่ได้รับการยอมรับให้ใช้กับแหล่งมรดกโลก

----------------------------------------------------------------------------------------------------------


(รูปอภินันทนาการจากเทพเพื่อเติมเต็มบันทึก)

หลังจากกลับมาได้ถามน้องชายที่ร่ำเรียนทางด้านโบราณคดีเกี่ยวกับปราสาทหินพนมรุ้งเพิ่มเติม ก็ได้ความว่า หินทรายสีชมพูที่นำมาก่อสร้างปราสาทเป็นหินจากแหล่งตัดหินบ้านกรวดที่ห่างไปหลายสิบกิโลเมตร (ชักลากมาไกลและยังนำขึ้นไปก่อสร้างบนภูเขาสูงได้นี่สุดยอด) บริเวณนั้นน่าจะเป็นชุมชนเขมรโบราณ เป็นแหล่งตัดหินและเป็นแหล่งเตาเผาเครื่องถ้วยเคลือบสีน้ำตาล ซึ่งแตกต่างจากเตาศรีสัชนาลัย โดยในเขมรไม่พบหลักฐานเตาเผาเครื่องถ้วย ทำให้เราสันนิษฐานได้ว่า อาจจะเป็นความชำนาญของชุมชนบริเวณนี้ จึงผลิตแล้วส่งไปยังศูนย์กลางของอาณาจักร

นอกจากนั้นยังได้ทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูที่ปรากฎอยู่บนหินว่าไม่ใช่เกิดขึ้นเพราะการซ่อมแซมอย่างที่ผู้เขียนเข้าใจแต่แรก แต่การเจาะรูถูกทำขึ้นเพื่อกรณีต่างกันสองอย่าง 1. รูวงกลม คือการเจาะรูเพื่อสอดเชือกในการชักลากหิน 2. รูสี่เหลี่ยม สังเกตได้ว่าจะเรียงกันเป็นแนว และไม่ทะลุตลอดแผ่น เป็นกรรมวิธีการตัดหินแบบโบราณ โดยจะเจาะรูเรียงกันเป็นแนวแล้วใช้ลิ่มไม้สี่เหลี่ยมสอดเข้าไป จากนั้นหยอดน้ำจนไม้ขยายขนาดดันหินให้แตกออกจากกัน ซึ่งเทคโนโลยีการตัดหินเช่นนี้ได้รับมาจากอินเดีย



วิชาการจ๋ามาแป๊บนึง ขอเล่าเรื่องเที่ยวต่อ เด็กน้อยสองคน อ.ธวัชชัยและผู้เขียนถูกทอดทิ้งให้ท่องเที่ยวกันตามลำพังเนื่องจากท่านเทพง่วงนอนและเพลียเลยอยู่เฝ้าราชรถ ดูกันได้สักพักจนรู้สึกว่าเหนื่อยมากแล้วจึงเดินกลับไป นึกว่าจะไม่ได้เที่ยวอีกที่ต่อ แต่ปรากฏว่าได้ยินคำสั่งให้คนรถขับไปปราสาทเมืองต่ำ แอบร้องเย้ในใจ ระหว่างทางก็เม้าธ์เรื่องปราสาทหินกันต่อ อ.ธวัชชัยอินกับโบราณสถานมาก จินตนาการไปถึงชีวิตในสมัยอาณาจักรขอมว่าเป็นยังไง ภาพมุมที่เห็นเป็นภาพเดียวกับที่คนในอดีตได้ดู นึกแล้วขนลุก แถมด้วยเรื่องแอตแลนติส ; P



แป๊บเดียวเราก็มาถึงปราสาทเมืองต่ำโดยไม่รู้ตัว รถมาจ่ออยู่หน้าทางเข้า ผู้เขียนกับอ.ธวัชชัยก็เข้าไปเที่ยวกันสองคนเช่นเคย ที่นี่ทำให้เรารู้ว่าเราสองคนบ้าถ่ายรูปไม่แพ้กัน 555 ถ่ายแหลก ปีนสั่งได้ หันซ้ายขวาสั่งได้หมด จริงๆ ถ้าไม่เกรงใจคนที่มาเที่ยวอยากจะยืนชูแขนตะโกนว่า I'm the king of the world! ปราสาทเมืองต่ำนี่ได้ชื่อเพราะมันอยู่ต่ำกว่าปราสาทพนมรุ้ง น้องชายบอกว่างั้น ที่เหลือบอกว่าถ้าเล่าเดี๋ยวยาวเกิน อ่านกันสามวัน ผู้เขียนชอบที่นี่มากกว่าพนมรุ้ง เพราะเล็กแต่สวย รายละเอียดต่างๆ น่าประทับใจ ตกลงว่าบารายที่ผู้เขียนเล่าให้อ.ธวัชชัยฟังนั้นถูกต้องครึ่งเดียว อันที่เห็นในรูปเป็นบารายทางศาสนาเปรียบเทียบเป็นสีทันดรสมุทรที่ต้องมีสะพานนาคพาข้ามจากโลกมนุษย์ไปสู่สวรรค์ (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสะพานนาค หรือบันไดนาคได้ที่คอมเม้นท์นี้ http://gotoknow.org/blog/ithink/157316?class=yuimenuitemlabel&page=2#520510) แต่บารายที่ชุมชนใช้กันจริงๆ น้องชายบอกว่าอยู่อีกด้าน ใหญ่โตมโหฬารสุดลูกหูลูกตาเป็นอ่างเก็บน้ำ

พอเราเที่ยวกันจนพอใจก็ได้ฤกษ์เดินทางกลับกรุงเทพฯ เป็นโชคดีที่ไม่เจอฝนเลยตลอดการไปบุรีรัมย์ครั้งนี้ จนมาถึงแถบปากช่องพึ่งจะเจอฝนกระหน่ำอย่างแรง เราแวะกินอาหารกลางวันแบบเลทไปพอสมควรที่โลตัส เข้าร้านพิซซ่าแต่กินสปาเก็ตตี้กัน มึนงงชีวิต อ.ธวัชชัยได้กาแฟไปฝากอ.จัน พอใจอิ่มท้องง่วงเพลีย ครบหมดแล้วก็เดินทางกลับ ระหว่างทางก็คุยกันตลอดสากเบือยันเรือรบ คนขับทำเวลาได้เป๊ะมาก ถึงสนามบินพอดีตามกำหนด ร่ำลากัน 30 วินาทีตามประสาคนไม่เรื่องมาก จากนั้นก็บ้านใครบ้านมัน แยกย้าย ผู้เขียนถึงบ้านก่อนคนอื่น จบทริปด้วยความม่วนอกม่วนใจขนาด หวังว่าจะมีแบบนี้อีก ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม มีสาระบ้างไม่มีบ้างตามสไตล์ "ซินเดอเรลโล่ทัวร์" ...สวัสดี

หมายเลขบันทึก: 183285เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2008 19:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:04 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (41)
  • อือม์ ดู ๆ แล้วบ้ากล้องใช้ได้เลย
  • ทั้งคู่.. (<--ชม)

บารายใหญ่ ขนาด 500 ม. x 1 กม. ก็เป็นอ่านเก็บน้ำสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ มีท่าศิลาแลงสองฝั่ง อยู่ใกล้ทางเข้า กับใกล้ลานจอดรถไงครับ

  • อิจฉาครับ  อิอิ
  • คนอยู่ใกล้แต่ไม่ได้ไปซักที
  • ต้องไปให้ได้แล้วครับงานนี้
  • 5555555

สวัสดีจ้ะน้องซูซานคนสวย

น้องถ่ายภาพ อ.ธวัชชัยได้หล่อมากๆ (ทุนเดิมหล่อและน่ารัก...อิอิ)

พี่เคยไปปราสาทหินพนมรุ้งหลายครั้ง แต่ยังไม่เคยไปถึงปราสาทเมืองต่ำเลย สงสัยคราวหน้าต้องหาโอกาสไปชมบ้าง จากภาพที่ถ่ายสวยและละเอียดมาก

นึกชื่นชมและทึ่งกับคนสมัยก่อนจริงๆค่ะ ว่าทำได้อย่างไร โดยที่ไม่มีเครื่องช่วยผ่อนแรงเลย แถมผู้คนก็ไม่ได้มากมายเหมือนสมัยนี้

ไปโบราณสถานแต่ละครั้งพี่ก็ชอบจินตนาการค่ะ ว่าสมัยก่อนเป็นอย่างไร แล้วคนในสมัยนั้นจะคิดมั่งมั้ยว่าจะมีเราหรือคนอื่นๆ มายืนดูและชื่นชมผลงานของท่านอย่างนี้

  • โอ้ยโย
  • เทพพาเที่ยวไม่ใช่ธรรมดา
  • แถมพกวิชาเกิน อุ้ยไม่ใช่ วิชาการเล็กๆ
  • ที่ยิ่งใหญ่  Anastylosis วิชาเข็นหินทราย(แทนครก)ขึ้นเขา
  • วิธีตัดหินด้วยไม้ แต่ที่เคยทราบมีวิธีตัดหินด้วยน้ำร้อนด้วยนะ
  • ยังไงยังไงก็ถ่ายเทพไม่สำเร็จ เพราะไม่เชื่อว่ากล้องรุ่นนี้ต้อง
  • ยกมือไหว้ก่อน55555555555

เที่ยวที่แล้วไม่ได้แวะไปปราสาทเมืองต่ำอ่ะ

ประสบการณ์คล้ายกันเลย ขากลับจากพนมรุ้งโดนฝนหนักมากที่ปากช่อง แต่ก็ยังหยุดซื้อผลไม้ข้างทางได้ทั้งๆ ที่มีฝน อิอิ

เรื่อง"บาราย"นี้เพิ่งเคยได้ยินรายละเอียดครั้งแรกก็ที่นี่แหละ

ตอนไปพนมรุ้งจะสังเกตว่าหินทุกก้อนจะมีรูตรงกลางสำหรับเสียบ น่าจะเอาไว้ยก เดาๆ นะ

แต่เรื่องการตัดหินโดยใช้ลิ่มเนี่ย เคยทั้งสารคดีทั้งของจีนและของกรีกนะ.. สรุปแล้วไม่รู้ใครทำก่อนเหมือนกัน แต่ก็เก่งกันหมดแหละ เพราะไม่ใช่ทำกันง่ายๆ ให้ได้ขนาดและยังมีเรื่องของการประกอบเข้าไปให้เป็นโครงสร้างอีก สมัยก่อน master builder เก่งจริง เป็นทั้งสถาปนิก วิศวกร และผู้บริหารงานก่อสร้าง ครบในคนเดียว ^ ^

ไม่ได้กอดลาแก้มยุ้ยเลยนะ จะแวะมาขอรูปสาวสวยใส่เสื้อสีชมพู ถ่ายหน้าครัวหน่ะ ฝีมือคนถ่ายเขาดี๊ดีนะตัวเอง

พี่ซูซาน ตามมาดูต่อคะ

ทั้งนายแบบ และนางแบบ โพสท่ากันเต็มที่เลยนะคะ

ภาพสวย.......สุดๆ

อ.วิบุล: อันนี้จำนนด้วยหลักฐาน 555 ขอยอมรับโดยดุษฎีค่ะ
คุณ Conductor: ตอนแรกนึกไม่ออก แต่มานึกออกตอนคุยกับน้องไปแป๊บนึงว่า อ้อ อ่างเก็บน้ำอันนั้นนั่นเอง ถ้าเจอรูปที่บอกเอามาเพิ่มได้นะ
พ่อครูบาฯ: ถ้าตามกำหนดแพลนเดิมก็ปลายฝนต้นหนาว แต่ไม่รู้ว่าแพลนจะเลื่อนเข้า เลื่อนออก หรือยกเลิก อันนั้นต้องขึ้นอยู่กับเทพเจ้าของแพลนค่ะ แต่ก็อยากไปอีกนะคะ
น้องสายลม: ต้องไปๆ อยู่ใกล้ไม่ไปนี่น่าเสียดาย คนอยู่สงขลาเขายังดั้นด้นมา และพกความประทับใจกลับไป
อ.หลินฮุ่ย: เรื่องภาพถ่ายตอบไว้ในตอนที่แล้วค่ะ ส่วนเรื่องการเที่ยวก็ว่าตามบันทึกเลยค่ะ เทพทรงโปรด
พี่ตุ๋ย: อ้อ เจอฝนที่เดียวกันเลย แต่ไม่ได้แวะซื้อตรงตลาดกลางดงแล้วเพราะหมดเวลา ส่วนเรื่องตัดหินนี่น่าจะเทียบได้นะว่าใครก่อนใคร ประวัติศาสตร์การรบ การเดินทาง การค้าขายมันทำให้ระบุได้ แต่คงต้องไปค้นคว้า อาจจะกรีกก่อนเลยก็ได้ กรีกไปอินเดียตามอเล็กซานเดอร์ไป จีนอาจจะหลังอินเดียด้วยซ้ำเทคโนโลยีแพร่ไปทางเส้นทางสายไหมก็เป็นไปได้ เปอร์เซียเองก็น่าจะมีแต่ไม่รู้ว่าตัดแบบนี้หรือเปล่า ฟันธงร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ถ้ายังไม่ได้ไปศึกษาละเอียด

ปราสาทหินพนมรุ้งให้เทพเจ้าอยู่ครับ จะแห้งแล้งไปหน่อยก็ไม่เป็นไร -- มีร้านค้าอยู่ตีนเขา และยอดเขา

ปราสาทเมืองต่ำ (ห่างพนมรุ้งไปทางประโคนชัยไม่เกินสิบนาที) สร้างให้สมมุติเทพและประชากรอยู่ครับ จึงมีร่องรอยของชีวิตในอดีตมากกว่า -- ร้านค้าดักอยู่ตรงลานจอดรถ แต่พ่อค้าแม่ค้าก็บ่นว่าขายไม่ค่อยได้ เลยช่วยซื้อทัพพีไม้มาสองอัน

พี่ลูกหว้า: น้องขออภัยที่มิได้กอดลา เพราะพี่ตัวเหนียวเหลือเกิน หุๆๆ ไม่อาบน้ำแล้วใส่ชุดใหม่ สวยแต่รูปนี่นา ^ ^ เดี๋ยวส่งรูปถ่ายให้นะ แต่เสียดายโฟกัสมันหลุด ไม่ชัดร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนรูปพี่ขจิต อันนั้นชัดสุดเลยล่ะ

มะปราง: ขอบใจนะที่ชม จริงใจหรือเปล่านี่ ชมเผื่ออาจารย์ขึ้นเงินเดือนหรือเปล่า ส่วนพี่นะ ให้มากสุดก็ยี่สิบบาท ทุ่มสุดตัวแล้ว

โห... พี่ ... คิดไปไกลแล้วคะ

กินข้าวฟรีสักมื้อก็พอ.. 5555

 

อ้าว ไม่บอกเลยอดช้อปเลยอ่ะ แบ่งมาอันนึงเลย โดยด่วน 555

ข้าวมันเกินยี่สิบแล้วเดี๋ยวนี้ แพงไปๆ

โรงอาหาร มอ. ข้าว + กับ 3 อย่าง ประมาณ 20 บาท

มาเลี้ยงที่นี่ แล้วกันนะค่ะ ^_^

trip นี้ผมมีรูปถ่ายเยอะอย่างเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กลับมาเที่ยวนี้ผมชักเริ่มคุ้นกล้อง แหะๆ

มะปราง: แหม มานี่พี่ก็เลี้ยงได้ เดี๋ยวไปเก็บเศษตังค์หล่นๆ ในรถเทพมาเลี้ยงแล้วกันนะ
อ.ธวัชชัย: เขาเรียกว่าเริ่มเป็นงานค่ะ งวดนี้กลับไปจับกล้องแล้วถ่ายน้องต้นไม้กับอ.จันบ้าง เดี๋ยวก็คุ้นเคยกันทั้งครอบครัว ถ่ายบ่อยๆ จะโพสต์ท่าเก่งค่ะ ^ ^

ปราสาทเมืองต่ำ สวยนะคะ ชอบจัง

ถ่ายรูปกันเยอะแยะเลย ดีค่ะ สวยๆทั้งนั้นเลยค่ะ

สวัสดีค่ะ 

  • ติดตามมาอ่านต่อจากภาคหนึ่งค่ะ
  • ปราสาทหินพนมรุ้ง ครั้งหนึ่งเคยไปกว่า 20 ปีแล้วค่ะ  
  • ขอบคุณค่ะที่ได้ดูภาพใหม่อีกครั้ง 

สวัสดีจ้ะ แม่น้องเล็ก

  • แสดงว่าหายเหนื่อยแล้วซี...คุยจ้อยๆเลย...เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกันน้อ...คนหนุ่มสาว....
  • วันเดียว เขียนบันทึกดีๆได้ตั้งสองบันทึก  เก่งจริงๆจ้ะ...
  • แบบนี้ใครเห็นน้องถือกล้องต้องวิ่งเข้าหา  เพราะจัดท่าโพสถ์ได้เยี่ยมจริงๆด้วย

.14 แง็ก ไม่บอกอะไรล่ะครับ ก็ตอนไปถ่ายรูปกันมา ร้อนตับแตก เห็นบ่นแต่หิวน้ำ จะกินน้ำ จะล้างหน้า -- แล้วร้านที่ซื้อก็อยู่ข้างหน้านั่นแหละ

จะเอาจริงๆเหรอ มันไม่ค่อยสวยหรอกนะ ตอนซื้อไม่ได้เลือก บอกแม่ค้าให้เลือกอันที่คิดว่า "ขายยาก" มาให้สักอันสองอัน -- แม่ค้าว่าของแกดีเหมือนกันโหม๊ด แต่หยิบอันสีคล้ำหน่อยมาให้

ระหว่างที่ใครกับใครไปถ่ายรูปนั้น มีรถทัวร์มาลงสองคัน ก็เป็นไปตามระเบียบคือไม่มีร้านค้าไหนขายอะไรได้เลย

ตอนกลับ แทนที่จะออกนางรอง เลยให้ย้อนกลับไปประโคนชัยใหม่ ให้คนขับรถซื้อกุ้งจ่อม (มาขายมั๊ง) คนขับรถได้กำไร ชาวบ้านขายของได้ด้วย

ชอบจังๆค่ะ น้องแก้มยุ้ยเขียนได้ทั้งสาระและความมัน ขอบคุณนะคะ อ่านแล้วชวนให้คิดด้วยว่า นี่ไงเขียนแบบเล่นๆแต่อ่านแล้วได้ทั้งเรื่องและรูปแบบลึกๆซะด้วย แบบนี้ครูสอนประวัติศาสตร์ควรจะมาเอาอย่างไปปรับใช้บ้างนะคะ ขนาดคนไม่ชอบประวัติศาสตร์แบบพี่โอ๋ยังเผลออ่านซะละเอียดเลย

มา Day 1 แล้วก็ต้องตามด้วย Day 2 เพื่อความสมบูรณ์ของชีวิต ครับ

ฉบับนี้ เป็นฉบับนำเที่ยวอย่างแท้จริง เพราะประกอบด้วยข้อมูลประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ครับ

ขอบคุณครับ :) CANON GANG หุ หุ

พี่แป๋ว: อย่าชมอ.ธวัชชัยเยอะ เดี๋ยวอ.จันไม่ยอมให้ออกไปไหนอีก : P แต่จริงๆ แล้วต้องบอกว่าจะดีกว่ามากถ้ามาเป็นครอบครัวพร้อมลูกชายสุดน่ารัก แล้วน้าคนนี้จะถ่ายรูปให้เอง คราวนี้รับรองว่าเจ๋งกว่ารูปเดี่ยวแน่นอน

ชอบเที่ยวโบราณสถานเหมือนกันเหรอ ดีจัง อย่างที่เคยบอกไว้ว่าน่าจะจัดทัวร์เที่ยวแบบนี้แล้วถ่ายรูปกัน เอาแบบ two in one เลย วิทยากรมีให้ใช้ฟรีด้วย สั่งได้

พี่ศศินันท์: สวยจริงค่ะ ปราสาทเมืองต่ำ ยิ่งคนไม่เยอะเหมือนพนมรุ้งเราจะรู้สึกซึมซาบได้ถึงความขลังเลย แอบคิดตลอดตอนเดินอยู่ในนั้นว่า สมัยก่อนเป็นยังไงบ้างหนอ

คุณกัญญา: ขอบคุณค่ะที่ตามอ่าน ไปแล้วไปอีกได้ แต่ละครั้งน่าจะรู้สึกไม่เหมือนกัน

พี่ติ๋ว: หายแล้ว ไม่หายก็ต้องหาย นี่ทำงานตั้งกะเมื่อคืนแล้วก็รีบตื่นมาทำต่อเมื่อเช้า นี่ก็ยังนั่งทำอยู่ ไปเที่ยวแล้วต้องไม่ให้เสียงานด้วย ไว้พี่ไปเที่ยวด้วยกันจิ จะถ่ายรูปให้ ลูกสาวพี่ส่งมาลองกล้องได้เลย สวยจริงคนโตนั่นน่ะ ถ่ายรูปขึ้นแน่นอน

แหม...พูดเล่นน่ะ ไม่เอาหรอก ไม่รู้เอามาทำอะไรเหมือนกัน ตอนนั้นมันหน้ามืด ตากแดดมามองในร่มไม่รู้เรื่องหรอก ตาพร่า หิวน้ำ ร้อน ทุกอย่างผสมกัน แต่ชอบที่นี่นะ สวยดี คุ้มค่าดำ แล้วซื้อของแบบนี้น่ะแม่ค้ารักแม่ค้าหลง ใจดีจริงๆ อ้อ...ว่าแล้ว ตอนแรกก็งงว่าจะกินกุ้งจ่อมเหรอ ตอนที่ออกมาถนนใหญ่สักระยะก็เห็นแยกที่เขาเขียนว่าพนมรุ้ง ยังนึกเลยว่าทำไมไม่ออกทางนี้ แต่เป็นแค่ผู้โดยสารเลยไม่กล้าเรื่องมาก กลัวโดนกดปุ่มเด้งออกไปจากรถ กลัวต้องอยู่บ้านเนวินมากกว่าอย่างอื่น ; P

พี่โอ๋: เอ่อ สาระบ้างไม่สาระบ้างปนๆ กันไปจะสนุกกว่าค่ะ ไร้สาระหมดก็เหมือนเม้าธ์เล่น สาระหมดก็หลับหน้าบันทึก ใครจะเอาวิธีไปประยุกต์ใช้ก็ไม่หวงห้าม ไม่มีลิขสิทธิ์ ตราบใดที่ไม่มา copy & paste บันทึกเรา 555 คงเข้าใจนะพี่ว่าหมายถึงอะไร

อ.วสวัต: เป็นแบบฉบับเฉพาะของซินเดอเรลโล่ทัวร์ค่ะ เลียนแบบยาก Canon Gang จงเจริญ ไว้หนอนน้อย 40D จะนำเสนอเรื่องราวท่องเที่ยวผ่านรูปให้ได้ชมกันอีกตามฤกษ์สะดวกนะคะ ขอบคุณที่ใช้บริการซินฯ ทัวร์

สรุปว่าเมืองไทยน่าเที่ยว เพียงแต่ศึกษาไปก่อน อย่าเป็นชะโงกทัวร์

มีรูปไหนควรลง slideshow project ไหมครับ

สวัสดีค่ะซูซาน

ในบรรดารูปทั้งหมด พี่ชอบรูปทางเดินที่ซูซานนั่งนะ

ส่วนหนึ่งคือจะชอบรูปหนทางที่นำสายตาอยู่เป็นทุนอยู่แล้ว

และรูปนี้ทำให้เกิดความสงสัยน่ารู้ว่า หนทางสมัยนั้น แยกยกส่วนด้านข้างขึ้นเหมือนฟุตบาทด้วยนั้นทำไมเพื่อใครเดิน

ดีใจที่ได้เจอกันอีก(อย่างเหลือเชื่อไม่นึกว่าจะไป)

ง่ะ มัวแต่หนุกหนาน เดี๋ยวคัดไปลงให้ค่ะ มีเยอะเหมือนกัน ทริปอื่นก็มี วัดโพธิ์มีเพิ่ม วัดพระแก้วก็มีอีก ซินฯ ทัวร์ก็ยังดีกว่าชะโงกทัวร์หน่อยนึงเพราะตามเก็บข้อมูลย้อนหลังมาเขียนให้อ่านได้ มี back ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

พี่สร้อย: ขอบคุณค่ะ ชอบรูปแบบ perspective เหมือนกัน คือบอกอ.ธวัชชัยเองเลยว่าขอแนวนี้ ถ่ายให้อาจารย์ไปเหมือนกัน คือทุกมุมที่ถ่ายจะมีทั้งสองคนเพราะผลัดกัน เราเลือกมุมที่จะถ่ายเอง แต่การจัด composition ของภาพนี่ขึ้นอยู่กับการมองของแต่ละคน รูปนี้ยกเครดิตให้อ.ธวัชชัยไปเต็มๆ ค่ะ หนูเป็นนางแบบอย่างเดียว

ดีใจที่ได้เจอพี่เหมือนกัน เสียดายที่คุยกันน้อยไป ลืมบอกในสิ่งที่ตั้งใจด้วยค่ะ งั้นขอบอกผ่านตรงนี้เลยแล้วกันนะคะ คืออยากไปบอกพี่ว่าเป็นกำลังใจให้เสมอ ในทุกเรื่อง ไม่ต้องรู้รายละเอียดว่าเป็นเรื่องอะไรก็ได้ แค่รู้ว่าน้องเอาใจช่วย ขออภัยที่ไม่ได้บอกใครว่าจะไป เพราะตั้งใจเซอร์ไพร์สเล็กน้อย

ซูซาน

ดูสวยงามไปหมด ทำให้ย้อนนึกถึงที่เคยไปเป็นสิบปีแล้วมั้ง มีญาติอยู่ใกล้แถวนั้นเยอะ ท่าทางจะร้อนมากเหมือนกันเนอะ

ได้ความรู้ดีด้วย ลืมไปแล้วนะเนี่ย ยังทำให้นึกไปถึงบูโรพุทโธเหมือนกัน

พี่อุ๊: สวยแต่ร้อน แต่ก็ทนได้เพราะชอบ ยิ่งเวลามีกล้องอยู่ในมือนะลืมหมดทุกอย่าง หุๆ นึกไปไกลนะ บูโรพุทโธก็อยากไปอยู่ ออยยิ่งอยากใหญ่เลย

ถ้าว่างๆ จะลองค้นหนังสือเรื่องเกี่ยวกับปราสาทเมืองต่ำมาเติมเต็มบันทึกนี้

โชคดีที่ไปและกลับมาก่อนข่าวนี้นะครับ

http://webboard.mthai.com/52/2008-05-20/378943.html

35. ค่ะโชคดีที่ไปทันเห็นสิ่งสวยงามก่อนถูกทำลาย แต่ไม่ดีใจเพราะเสียดายแทนคนอื่นที่ไม่เคยไปต่อไปนี้จะไม่มีโอกาสได้เห็นอีก ชั่วร้ายมาก ไม่คิดว่าจะมีเรื่องเลวร้ายแบบนี้

สวัสดีครับ

ดูรายการคุณพระช่วย

มีเพลงของสวีทนุช ด้วย

คุณธวัชชัย: เสียดายที่ไม่ได้ดูต่อ เปิดแป๊บเดียวจะทำงานเลยปิดค่ะ แต่ก็มี cd ฟังแล้วไม่เป็นไร ซื้อไปแจกคนอื่นก็หลายแผ่น

นึกว่าฝีมือน้องเราเนื่องจากไปดูก่อน กลับมาก็เกิดเหตุเลย ฮ่าๆๆ

อ้าวๆๆ อยู่ดีๆ ก็หาคุกมาให้ซะแล้ว เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยว อ้อ...ไม่ได้ๆ เดี๋ยวมีคนหาว่าน้องไม่เป็นกุลสตรีอีก ไม่กล้าทำร้ายพี่ขจิตแล้วล่ะ อยากเป็น lady กะเขาบ้างง่ะ

P เอ ทำไมมีเรื่อง สวีทนุช โผล่มาดื้อ ๆ คะ
แผ่นโปรดของดิฉัน..ตอนนี้...อย่ามาโทษฟ้า อย่ามาโทษฝน...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท