นายมอนแสง ลุงต๊อ ตัวแทนของคนที่มีเลขประจำตัว ๑๓ หลัก
ที่เกิดนอกไทย แต่กลมกลืนกับสังคมไทย
...............................................
มอนแสงเป็นใคร
...............................................
นายมอนแสง ลุงต๊อ เกิดเมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๖ เกิดที่เมืองปั่น ประเทศพม่า ต่อมาอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย ปี พ.ศ. ๒๕๓๖ แต่นายตี๊ม๊า ลุงต๊อ พ่อของนายมอนแสง อพยพเข้ามาในไทยปี พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยเข้ามาอาศัยอยู่ที่ บ้านเลขที่ ๒๕/ช หมู่ที่ ๕ บ้านหาดชมพู ต. ท่าตอน อ. แม่อาย จ. เชียงใหม่ นายมอนแสง ลุงต๊อ เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ จากโรงเรียนไทยทนุ บ้านสันต้นดู่ หมู่ที่ ๖ ต. ท่าตอน อ. แม่อาย จ. เชียงใหม่
...............................................
มอนแสงมีชื่อในทะเบียนราษฎรไทยเมื่อไหร่ อย่างไร
...............................................
ในวันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๒ สมาชิกครอบครัวลุงต๊อ รวมทั้งหมด ๕ คนประกอบด้วยนายติ๊มา ลุงต๊อ พ่อของมอนแสง, นางหมี่ ลุงต๊อ แม่ของมอนแสง,นางสาวเสียงหอม ลุงต๊อ พี่สาวของมอนแสง,เด็กหญิงเดือนหอม ลุงต๊อ น้องสาวของมอนแสง และตัวของมอนแสง ลุงต๊อ ได้รับการสำรวจเพื่อจัดทำทะเบียนประวัติชุมชนบนพื้นที่สูงตามแผนแม่บทฉบับที่ ๒ โดยสำนักทะเบียนอำเภอแม่อาย
ในการสำรวจครั้งนั้น นายมอนแสง ลุงต๊อ ได้รับเพียงแต่บันทึกให้มีชื่อและรูปถ่ายในแบบพิมพ์ประวัติชุมชนบนพื้นที่ แต่ไม่ได้รับการกำหนดหมายเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก ส่งผลให้นายมอนแสง ลุงต๊อจึงกลายเป็นบุคคลที่ไม่มีชื่อในระบบทะเบียนราษฎร ทำให้ไม่สามารถทำดำเนินการใดๆทางทะเบียนราษฎรได้ เช่นการทำบัตรประจำตัวบุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทย หรือได้ทะเบียนบ้านสำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในราษฎรอาณาจักรไทยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือในลักษณะชั่วคราว(ท.ร.๑๓)
ต่อมาในวันที่ ๑๕ ก.พ.๒๕๕๐ นายมอนแสง ลุงต๊อได้รับการสำรวจตามแบบ ๘๙ แห่งระเบียบสำนักทะเบียนกลางว่าด้วยการสำรวจและจัดทำทะเบียนสำหรับบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน พ.ศ.๒๕๔๘ จากโรงเรียนบ้านท่ามะแกง ตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย และได้รับเลขประจำตัวประชาชน ๐ ๕๐๑๐ ๘๙๐๐๔๙๙๖ รวมทั้งได้รับการเพิ่มชื่อในบ้านเลขที่ ๘๙ หมู่ ๗ บ้านท่ามะแกง ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
...............................................
มอนแสงอยู่ตรงไหนของห้องเรียนการจัดการปัญหาสิทธิในสถานะบุคคลของคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติในประเทศไทย
...............................................
เนื่องจากมอนแสง ลุงต๊อเป็นบุคคลที่เกิดนอกประเทศไทย จึงต้องเข้าเรียนในห้องเรียนที่ ๔ (บุคคลที่มีหมายเลขประชาชน ๑๓ หลัก แม้จะเกิดนอกประเทศไทย แต่ก็มีความกลมกลืนกับสังคมไทย) แม้ว่ามอนแสงจะเข้าเรียนร่วมกับเพื่อนร่วมห้องคนอื่นที่มีคุณสมบัติในการพัฒนาสถานะบุคคลเหมือนกัน คือเป็นคนที่เกิดนอกประเทศไทย ที่ได้รับการสำรวจจากทางราชการให้มีชื่อในทะเบียนราษฎรและมีหมายเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก แต่สำหรับมอนแสงกลับจะมีความแตกต่างจากเพื่อนร่วมห้องเรียนคือ ตนเองมีชื่อในทะเบียนราษฎรแตกต่างจากสมาชิกร่วมครอบครัว
ซึ่งประเด็นนี้เพื่อนร่วมห้องเรียนจะไม่พบปัญหาดังกล่าวเพราะคนอื่นก็จะมีชื่อในทะเบียนราษฎรเช่นเดียวกับสมาชิกในครอบครัวของตัวเอง นักเรียนที่มีชื่อในทะเบียนสำรวจชุมชนบนพื้นที่สูงก็มีชื่อร่วมกับครอบครัวของตนเอง นักเรียนที่มีชื่อในแบบพิมพ์ประวัติผู้หลบหนีเข้าเมืองจากพม่าก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน
จากความแตกต่างที่เกิดขึ้น ทำให้ครั้งแรกในการเข้าห้องเรียนของมอนแสงไม่ค่อยมีความมั่นใจ เนื่องจากยังมีความสับสนเรื่องเอกสารของตัวเองที่จะแตกต่างจากคนอื่นๆในครอบครัว ทำให้ไม่แน่ใจว่าตนเองต้องทำอย่างไรหรือแก้ไขปัญหาไหนก่อน หลังจากได้รับความรู้จากการเข้าห้องเรียนที่มีทั้งความรู้เรื่องสิทธิในการอยู่อาศัยในประเทศไทย การพัฒนาสถานะบุคคล และที่สำคัญสำหรับมอนแสงคือความรู้ที่เกี่ยวกับทะเบียนราษฎร ทำให้มอนแสงได้รับความรู้เพิ่มขึ้นว่าทะเบียนราษฎรหากมีความผิดพลาดก็ยังจะสามารถแก้ไขได้ การเข้าเรียนครั้งที่ ๓ มอนแสงดูมีความมั่นใจมากขึ้น และประกาศตัวพร้อมที่จะร่วมกับครูในห้องที่ ๔ และพี่ๆทนายเท้าเปล่าของคลินิคฯเพื่อแก้ไขปัญหาของตนเองต่อไป
...............................................
แล้วจะแก้ไขปัญหาทางทะเบียนราษฎรของมอนแสงอย่างไร
...............................................
นายมอนแสง ลุงต๊อต้องยื่นคำร้องต่อเจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนอำเภอแม่อายเพื่อขอให้มีการกำหนดหมายเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลักในระบบทะเบียนราษฎร ตามเอกสารทะเบียนประวัติชุมชนบนพื้นที่สูงตามแผนแม่บทฉบับที่ ๒ เช่นเดียวกับคนอื่นๆในครอบครัว เมื่อได้รับหมายเลขประจำตัวประชาชนเป็นบุคคลประเภท “ ๖” แล้ว นายมอนแสงฯก็จะมีสิทธิที่จะได้จัดทำบัตรประจำตัวบุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทย หรือได้ทะเบียนบ้านสำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในราษฎรอาณาจักรไทยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือในลักษณะชั่วคราว(ท.ร.๑๓) และเจ้าหน้าที่ต้องจำหน่ายข้อมูลนายมอนแสง ลุงต๊อออกจากทะเบียนสำรวจบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน(บุคคลประเภท “๐”) ต่อไป
ซึ่งจากข้อมูลของทนายความตีนเปล่าประจำคลินิกฯ พบว่าการแก้ไขปัญหาทางทะเบียนราษฎรของนายมอนแสงฯมีความก้าวหน้าอย่างมาก หลังจากได้เข้าพูดคุยกับปลัดทะเบียนอำเภอแม่อายแล้ว ปลัดได้นัดให้นายมอนแสงฯนำพยานเอกสารหลักฐานและพยานบุคคลมาให้ถ้อยคำ ในวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๒ เพื่อประกอบคำร้องขอหมายเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก และขอมีบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยต่อไป แล้วจึงจำหน่ายบัตรผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน(บุคคลประเภท เลข ๐ )ต่อไป
...............................................
การพัฒนาสถานะทางกฎหมายและปัญหาที่มอนแสงต้องเผชิญ
...............................................
ปัจจุบันสถานะทางกฎหมายของนายมอนแสง ลุงต๊อ เป็นผู้หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว หากพิจารณายุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิบุคคล ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๘ เป็นบุคคลที่รัฐบาลไทยมีนโยบายให้สถานะเป็นบุคคลต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย (ตามยุทธศาสตร์ ในกลุ่มบุคคลที่มีชื่ออยู่ในระบบทะเบียนซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศไทยติดต่อกันเป็นเวลานานไม่ต่ำกว่า ๑๐ ปี จนกลมกลืนกับสังคมไทยและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศต้นทาง หรือไม่มีจุดเกาะเกี่ยวใดๆ กับประเทศต้นทาง)
นี่เธอ ถ้าจบ ป.โทแล้ว
มาเรียนกฎหมายให้เป็นเรื่องเป็นราวก็ดีนะ กกต. เขามีลาเรียนต่อไหมล่ะ
อยากคุยกับเธอจริงจังเรื่องอนาคตน่ะ เอาสักทีดีไหม
แล้วก็มาเขียนงานตามที่เคยสัญญากับอาจารย์ได้แล้วนะเธอ
ความคิดน่ะ เขามีไว้เผยแพร่
ป่านนี้คงสายเกินไปแล้วสิคะ