บทบาทในการในการป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพนั้นไม่มีใครทำแทนให้กันได้ แม้แต่แฟนก็ยังทำแทนไม่ได้
ตอนที่ 2 ต้องทำเอง และ...ทำด้วยใจ
ทำไป...บ่นไป อย่างที่ น้องเสาะห้องเด็ก มาให้ความเห็นไว้ในบันทึกที่แล้วอย่างน่าอ่านว่า...
-
สวัสดีค่ะ พี่เขี้ยว
- อ่านแล้วเข้าใจถึงความรู้สึกเจ้าของโครงการและผู้เข้าร่วมโครงการดี เพราะเป็นคนหนึ่งที่เป็นคนไทยมีพุง
- เห็นใจคนทำโครงการที่มีความมุ่งมั่นให้ผู้อื่นมีสุขภาพดี
- ทุกอย่างอยู่ที่ใจของผู้เข้าร่วมโครงการ
- ถ้าใจไม่เต็มร้อยก็พยายามหาเหตุผลเข้าข้างตนเองว่าไม่พร้อมบ้าง ไม่มีเวลาบ้าง ทำใจไม่ได้ว่าต้องลดอาหารบางส่วน(ที่เกินความจำเป็น) อะไรต่างๆ นาๆ สารพัดมากมาย
- เสาะ เคยเป็นอย่างนั้นจริงๆ
- เมื่อเข้าโครงการคนไทยไร้พุงของ ศอ 12 ยะลา ได้รับองค์ความรู้ใหม่ ก็พิจารณาตนเอง ปฏิบัติตามบางส่วนโดยไม่ต้องมีใครบังคับ
- ขณะนี้นำหนัลดลง 3 กก. แล้วนะจ้ะ
กะเสาะ ห้องเด็ก
ใช่คะ...ทุกอย่างอยู่ที่ใจเรากำหนด ประกอบกับช่วงหลังๆมีโอกาสไปอบรมเรื่อง SLM กับ อาจารย์หมออมร หลายครั้ง จึงได้รับแนวคิดใหม่เรื่องการส่งเสริมสุขภาพ ว่า “ประชาชนสามารถแสดงบทบาทในการดูแลสุขภาพของตนเอง ครอบครัว ชุมชน สภาพแวดล้อมและสังคมโดยรวมได้อย่างยั่งยืน ด้วยความตั้งใจ เต็มใจ มีจิตสำนึกที่ดีและมีศรัทธาในการพัฒนา” เพราะว่า บทบาทในการในการป้องกันโรคและ การส่งเสริมสุขภาพ...ถึงเป็นแฟนก็ทำแทนไม่ได้
ช่วงนั้นท่าน นพ.สมพงษ์ สกุลอิสริยาภรณ์ ซึ่งดำรงตำแหน่ง ผอก.ศูนย์อนามัยที่ 10 ขณะนั้น ได้มาเยี่ยมๆมองๆที่คลินิกส่งเสริมตอนพักเที่ยงๆบ่อยครั้ง แล้ววันหนึ่งท่านก็เชิญเจ้าหน้าที่ คลินิกฯไปพบ
ท่านบอกว่า " งานส่งเสริมสุขภาพเป็นเรื่องที่ท้าทาย และน่าที่ทำงานเชิงรุก ลงไปทำจริงกับพื้นที่ /ชุมชนมากกว่าการตั้งรับอยู่ในโรงพยาบาล ลองเข้าไปคุยดูว่าชาวบ้านเขาต้องการอะไร อยากให้ช่วยอะไรในการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะในเรื่องที่กำลังรณรงค์ “ภาคีร่วมใจ คนไทยไร้พุง” เพื่อเป็นแนวทาง /รูปแบบที่สามารถเอาไปใช้ได้จริงและยั่งยืน กับชุมชนอื่นๆที่มีบริบทที่เหมือนกัน "
จึงเป็นที่มาของ “โครงการภาคีร่วมใจ..คนล้านนาไร้พุง”ตอนนั้นยอมรับว่ามืด 16 ด้าน (มากกว่า 8 ด้าน อิอิ ) ไม่รู้จะเริ่มยังไง และเริ่มกับชุมชนใด และที่ไหนดี ???? เพราะเท่าที่ผ่านมาเริ่มกับชุมชนบ้านตัวเอง (ศูนย์ 10 จากบันทึกที่แล้ว ) ยังไม่ค่อยจะได้ แล้วถ้าเป็นข้างนอกจะไหวไหมเนี่ย ???
เราจึงมานั่งทบทวนร่วมกันว่า คลินิกฯเรามีลูกค้ามากมายทั้งที่มาส่วนตัว จากหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นลูกค้าชั้นดี ใช้บริการติดต่อสม่ำเสมอมานานหลายปี เอ...แล้วเราจะเลือกหน่วยงาน(ชุมชน)ไหนดี ??? (มีคำถามอีกแล้ว )
เราทบทวนปัจจัยแห่งความสำเร็จ ในการเลือกองค์กร /ชุมชนที่จะไปประสานงานหรือทำโครงการ เพื่อไปหารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพด้วยตัวเองของชุนชนที่ผ่านๆ ต้องประกอบด้วย
1. ผู้บริหารหน่วยงาน /ชุมชน เห็นความสำคัญและร่วมมือ
2. สมาชิกชุนชนนั้นใส่ใจเรื่องสุขภาพ
3. ที่สำคัญต้องเป็นที่ต้องการของหน่วยงาน /ชุมชนด้วย
สุดท้ายเราเลือกโรงเรียนสันทรายวิทยาคม
ทำไมต้องโรงเรียนสันทราย ???
เพราะชุนชนนี้มีคุณสมบัติตามที่เราต้องการ โดยเฉพาะในข้อที่ 3 เนื่องจากโรงเรียนเป็นโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ เราสามารถต่อยอดลงไปถึงระดับนักเรียนได้ หรือแม้แต่ระดับผู้ปกครองที่เป็นชาวบ้านจริงๆ ที่เราไมสามารถไปหาที่ไหนได้พร้อมเพรียง เหมือนที่โรงเรียน
นพ.วิวัฒน์ อดีต ผอก.รพ.ลำพูน
กับ อาจารย์ชุมพล ผอก.โรงเรียนสันทรายวิทยาคม
กำลังร่ำลาหลังจากทาบทามกันเรียบร้อยแล้ว
กลับมาถึงที่ทำงาน...ต้องเตือนตัวเอง ค่อยๆคิด... ค่อยๆทำ ตอนนี้เราขอลงมือกับชุนชนครูก่อนแล้วกัน
อย่าลืมตามให้กำลังใจผู้เขียนและเพื่อนๆด้วยนะคะขอบคุณค่ะ