บันทึกเรื่องนี้ใช้ภาพประกอบค่อนข้างเยอะนะครับ เพราะต้องการให้หลาย ๆ ท่านที่ไม่มีโอกาสมาแวะชมด้วยตนเอง ได้เห็น ได้รู้ถึงพัฒนาการของการบูรณะสถานที่สำคัญของเมืองพิษณุโลกแห่งนี้
หลายปีมาแล้วที่ตั้งศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมืองพิษณุโลก เป็นที่ตั้งของโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม (ร.ร.ชายประจำจังหวัด) และต่อมาจึงมีการย้ายสถานที่ตั้งโรงเรียนออกไปอยู่บริเวณถนนเลี่ยงเมืองสุโขทัย เพราะกรมศิลปากรมีโครงการบูรณะสถานที่แห่งนี้ในชื่อ "โครงการบูรณะพระราชวังจันทน์"
หลังการย้ายโรงเรียนออกไป ค่อยมีความคืบหน้าของการบูรณะ ฯ จนกระทั่งประมาณปลายเดือนตุลาคม ต่อเนื่องถึงเดือนพฤศจิกายน 2552 สังเกตเห็นว่ารั้วของโรงเรียนที่เคยมีถูกรื้อถอนออกไปทำให้เห็นสภาพภายในของสถานที่แห่งนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
(มุมมองจากฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำน่าน)
ภาพที่ zoom เข้าไป (แนวด้านหน้าพระราชวังจันทน์)
นี่คือป้าย "พระราชวังจันทน์" อ.เมือง พิษณุโลก ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์พระรูปของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครับ
ภาพด้านหน้าซ้ายของ ศาลสมเด็จพระนเรศวร ฯ
ภาพด้านหน้าขวา ศาลสมเด็จพระนเรศวร ฯ
และต่อไปนี้คือองค์พระรูปของสมเด็จพระนเรศวร ที่ประดิษฐานในศาลแห่งนี้
ผู้คนที่ศรัทธาในพระองค์ท่าน ที่ได้ไปถวายสักการะด้วยตนเอง บางคนได้นำรูปปั้นไก่ชนมาถวาย ฯ และวางไว้โดยรอบของศาล ฯ แห่งนี้
ภาพด้านบนจะเป็นรูปปั้นไก่ชนในขนาดต่าง ๆ ครับ
หากเดินออกไปทางด้านหลังของศาล ฯ จะพบกับป้าย "พระราชประวัติ" ของพระองค์ที่มีผู้สรุปข้อมูลติดไว้ ครับ
และหากท่านใดอธิษฐานตามเจตนาเรียบร้อยแล้ว จะสวดพระคาถาบูชาพระองค์ท่าน มีผู้ทำป้ายหินอ่อนนี้ไว้ให้ได้อ่านเพื่อบูชาด้วย
และภาพที่จะแสดงต่อไปนี้คือแนวพระราชวังจันทน์ชั้นใน ชั้นกลาง ชั้นนอก ที่กรมศิลปากรกำลังบูรณะ เพื่อให้เห็นร่องรอยของประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองพิษณุโลก
หลาย ๆ ท่าน สงสัยเช่นเดียวกับผมหรือไม่ครับ ? ว่าก่อนหน้านี้ทำไมกระทรวงศึกษาธิการจึงก่อสร้างโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม อยู่บนแนวพระราชวังจันทน์แห่งนี้ โดยที่ไม่มีใครพบเห็นซากสิ่งก่อสร้างของพระราชวังจันทน์ และหรือทักท้วงใด ๆ
ผลของการบูรณะพระราชวังจันทน์ ณ ปัจจุบัน ทำให้มองเห็นเค้าโครงของพระราชวังจันทน์ ตามภาพที่แสดงไปแล้ว และเมื่อทางการได้จ่ายเงินชดเชยเพื่ออพยพบ้านเรือนที่อยู่ในแนวของโครงการ ฯ ออกไป ทำให้เกิดทัศนียภาพที่ดี และสวยงามมากครับ
ภาพด้านบนเป็นอาณาเขตของ "วัดพระศรีสุคต" เดิม ที่ก่อนหน้านี้ถูกบดบังโดยบ้านพักของทางราชการ และหน่วยงานราชการบางหน่วย เมื่อรื้อถอนและโยกย้ายออกไปจึงเห็นโบราณสถานแห่งนี้ขณะที่สัญจรไปมาบนถนน
สำหรับภาพนี้ ผมยืนอยู่บริเวณด้านหลังของ "ศาลสมเด็จพระนเรศวร" และมองย้อนไปทางทิศใต้ จะเห็นอาณาบริเวณของ "วัดวิหารทอง" ใกล้ ๆ ศาลาประชาคมจังหวัดพิษณุโลก ครับ
กว่า "พระราชวังจันทน์" เมืองพิษณุโลก จะมีสภาพดั่งที่เห็น ได้ใช้เวลาค่อนข้างนานครับ แต่จะนานพอเพียงที่จะทำให้ "คนไทย" ทุกคนมีจิตสำนึก "รักชาติ รักแผ่นดินไทย" โดยไม่หวังกอบโกยผลประโยชน์ทุกเรื่องเข้าตนเองหรือไม่ ใครจะให้คำตอบได้ครับ กับสถานการณ์เมืองไทยปัจจุบันที่อดีตนายทหารบางคน บอกเล่าผ่านสื่อว่า "ไทยในปัจจุบันยังรบสู้โจรใต้ไม่ได้ ยังคิดจะรบกับเขมรอีก ดีที่ ..... ช่วยเคลียร์แล้ว" (เฮ้อ...คิดได้อย่างไรนะ ท่านคงจะลืมคำถวายสัตย์ปฏิญาณต่อในหลวง ต่อธงชัยเฉลิมพลที่เคยเปล่งออกจากปากตนเอง ในขณะที่รับราชการ)
เก็บรายละเอียดได้ดีมากค่ะท่าน ติดตามอ่านความคืบหน้าต่อค่ะ
พิษณุโลกเป็นเมืองที่รักและเคารพในองค์สมเด็จพระนเรศวรเหมือนสุพรรณบุรี
พระองค์เป็นที่เคารพ สักการะของปวงชนชาวไทย ตลอดมา
แม้กระทั่งในหลวงองค์ปัจจุบัน หลายคนบอกว่าเคารพ
แต่กลับมีพฤติกรรมตรงกันข้าม น่าจะช่วยกันทำหน้าที่ของตน
ไม่ว่าตำแหน่งใด ๆ หรือเป็นประชาชนทั่วไปนะครับ
ประเทศชาติเรา คงจะสงบสุข ร่มเย็น ร่ำรวยกว่านี้
นี่ยังเข้าใจ เรื่องสงครามยุทธหัตถี ผิดอีกแล้ว นะ
เขารบกันที่ลำน้ำทวน ตำบลตระพังตรุ ปัจจุบันคืออำเภอพนมทวน กาญจนบุรี