จากที่เคยเล่าให้ฟังในบันทึกก่อนๆ
ว่าคุณพ่อคุณแม่ของครูมิมทำสวน และที่บ้านก็เป็นบ้านสวน
นอกจากจะมีสวนมะขามหวานแล้ว แม่ก็ยังปลูกผักสารพัดชนิดไว้ข้างๆ
บ้าน ทั้งที่เป็นผักสวนครัว เช่น กระเพรา โหรพา ใบสะระแน่
มะกรูด มะละกอ ผักชี ผักหอม ฯลฯ และก็ผักที่จะเอาไปขายที่ตลาด
เช่น คะน้า มะเขือ ฟักทอง แตงกวา ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ
ฯลฯ
แต่ช่วงนี้มันแล้งมาก
อากาศก็ร้อน จึงทำให้ผักที่บ้านเหลือไม่กี่ชนิด แม่บอกว่ารดน้ำไม่ไหว
เพราะอากาศมันร้อนเหลือเกิน
นอกจากผักของแม่แล้ว
บริเวณรอบๆ บ้านก็ยังมีผลไม้นานาชนิด ที่พ่อปลูกไว้
และดอกไม้ประดับอีกส่วนหนึ่ง ไม่ได้จัดเป็นสวนสวยงาม แต่พ่อจะปลูกรวมๆ
กันไว้ เพื่อง่ายต่อการรดน้ำ
โชคอนันต์
เขียวเสวย
น้ำดอกไม้
มะม่วงแก้วมง
พ่อจะขยันปลูก ขยันดูแล
แต่ไม่ค่อยกินเท่าไหร่ ฝ่ายกินจะเป็นแม่มากกว่า อย่างเช่น
ชมพู่ลูกใหญ่ๆ แม่ชอบกิน แต่พอไม่ค่อยกิน
ครูมิมก็ไม่รู้ว่าท่านชอบหรือไม่
แต่มีผลไม้อย่างหนึ่งที่พ่อชอบมาก ก็คือ มะม่วง
ที่บ้านจะมีอยู่หลายชนิด ทั้งมะม่วงแก้ว เขียวเสวย น้ำดอกไม้
โชคอนันต์ เพชรบ้านลาด แต่ที่พอภูมิใจจะนำเสนอวันก็คือ
มะม่วงแก้วยักษ์ พ่อบอกว่ามันคือ มะม่วงแก้วมง
เวลาสุกอร่อยมากเพราะเนื้อเยอะ
พ่อจะชอบกินมะม่วงแก้วมงสุกกับข้าวเหนียว
(กินแบบคนแก่)
หน้าบ้านครูมิมจะมีต้นมะม่วงใหญ่อยู่ 2 ต้น
พ่อก็จะเอาสมุนของพ่อไปผูกไว้กับต้นมะม่วง
เหตุที่ต้องผูกมันอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่ว่ามันดุ หรอกนะคะ แต่ว่ามันซนมาก
ปล่อยไม่ได้ไม่งั้นต้องมีเรื่องปวดหัวกันแน่นอน
โดยที่ไม่ต้องเดาเลยเพราะมันจะทำความเดือดร้อนให้พ่อกับแม่ทันที เช่น
กัดไก่ของบ้านข้างๆ เป็นต้น
แต่คนสวนใหญ่จะกลัวเพราะนึกว่ามันดุมากจึงต้องผูกไว้
แต่พ่อก็ไม่เคยบอกใครเลย เพราะอยากให้คนกลัว
ที่สำคัญขโมยก็จะได้กลัวด้วย เข้าตำราโบราณแป๊ะเลยค่ะว่า
เลี้ยงหมาไว้เฝ้าบ้านจริงๆ เจอราด
เป็นพันธุ์อะไรครูมิมก็ไม่อาจเดาได้เนื่องจากครูมิมเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ยังไม่ลืมตาเสียอีก
แม่มันมาคลอดไว้หน้าบ้านแล้วก็ตาย ทีจริงมี 2
ตัวแต่อีกตัวตายไปตอนอายุ 1 เดือนแล้ว ส่วนตัวสีดำลายนั้น ชื่อ
โต
(ตอนเด็กหัวมันโตมาก) เป็นพันธุ์พิบูลเทอเรีย
ที่ต่างประเทศเข้านิยมเลี้ยงไว้กัดต่อสู้กัน จึงเชื่อว่ามันดุมาก
แต่เชื่อไหมค่ะ ว่าเจ้าโตติ่งต๊องมาก แบบว่าเสียหมาไปเลย ไม่เคยดุเลย
แต่คนกลัวเพราะมันหน้าตาหน้ากลัว พ่อตั้งใจซื้อมาไว้เฝ้าสวนมะขาม
แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะมัน เสียหมาเสียแล้ว
ครอบครัวของครูมิมอยู่ตามอัตภาพ แบบเศรษฐกิจพอเพียง
มีความสุขกับสิ่งรอบๆ บ้านของเราถึงแม้ไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง
แต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรนัก แค่นี้ก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือค่ะ
กับชีวิตที่ได้เกิดมาครั้งหนึ่ง
....ภูมิใจที่สุดที่ได้เกิดเป็นลูกพ่อแม่