เมื่อวันที่ 6 กพ.49 ดิฉันได้เข้าร่วม "โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการการเป็น CKO :Chief Knowledge Officer,KF : Knowledge Facilitator รุ่นที่ 2 สำหรับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบงานด้าน QA ของหน่วยงานสายสนับสนุน (Non-Teaching) และผู้บริหารสำนักงานเลขานุการคณะ (Office KM)" ณ ทรัพย์ไพรวัลย์ แกรนด์โฮเต็ล แอนด์รีสอร์ท
ดิฉันรู้ดีว่าความรู้เกี่ยวกับ KM ของตนเองนั้นก็มีเพียงน้อยนิดที่ได้จากการอ่านศึกษาในตำรามาแบบคร่าวๆ ...และเมื่อได้อ่านกำหนดการของโครงการครั้งแรกที่ได้รับ ก็ค่อนข้างหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน (ก็จะอะไรซะอีกล่ะ พวกศัพท์วิชาการเฉพาะทางเพียบ ก็แอบวิตกจริตเล็กๆ ว่าจะต้องเข้าใจยากแน่ๆ เลย) แต่เมื่อเริ่มเข้าอบรมแล้วบรรยากาศไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้ในตอนแรกค่ะ
อ.วิบูลย์ได้สร้างบรรยากาศความคุ้นเคยให้กับพวกเรา (ประมาณกว่า 40 ชีวิต) โดยให้ชักภาพหมู่ร่วมกันเป็นหลักฐาน (ว่ามาราชการนะ ไม่ได้แอบหนีงานไปไหน...อันนี้แอบคิดเอาเองค่ะ 555) จากนั้นก็แนะนำความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ KM และไปนั่งรวมกันเป็นวงกลมโดยให้แต่ละคนแนะนำตนเอง (ใช้หลักการ Dialogue และ Deep Listening) พร้อมบอกว่าคาดหวังอะไรจากการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ สำหรับดิฉันได้บอกไปว่าตนเองเป็นผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์ และจะสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม (ขอยืมคำพูด อ.รุจโรจน์มาหน่อยนะคะ) อีกทั้งอยากมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์กับพี่ๆ น้องๆ หน่วยงานอื่นๆ และคาดหวังว่าจะได้รับความรู้เพื่อนำไปถ่ายทอดกับบุคลากรในหน่วยงานต่อไป (เพื่อเป็นการสานต่อ KM ให้ครบวงจร)
จากนั้นให้แบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม คือ
กลุ่มสำนักงานเลขานุการคณะ 2 กลุ่ม กลุ่ม QA-Non Teaching 2 กลุ่มๆ ละประมาณ 10 คนดิฉันอยู่กลุ่ม QA2 ค่ะ อ.วิบูลย์ให้พวกเราแต่ละคนซึ่งมาจากต่างหน่วยงานร่วมกันบอกเล่าถึงการดำเนินงานด้าน QA และผลสำเร็จที่ภาคภูมิใจ (ใช้หลักการ Storytelling --ส่วนนี้เรียกว่าหัวปลาทู Knowledge Vision : KV เป้าหมายของการ ลปรร.) และให้เลือกผลสำเร็จที่เด่นที่สุดมานำเสนอ (นำมาเป็น "ขุมความรู้" เป็นส่วนที่ให้ความสำคัญกับการ ลปรร. ซึ่งเป็นหัวใจของ KM --เราเรียกว่าตัวปลาทู Knowledge Sharing : KS)
โดยกลุ่มของเราเลือก QA ของกองกิจการนิสิตค่ะ เพราะเห็นว่ามีกิจกรรมที่น่าสนใจ คือมีการประเมินหน่วยงานย่อยในกองกิจฯ โดยนำองค์ 10 มาเป็นหลักในการประเมิน
จากนั้นให้กลุ่ม 1-2 และกลุ่ม 3-4 รวมกลุ่มกันและนำขุมความรู้ที่ได้มารวมกัน และกลั่นกรองออกมาให้เป็น "แก่นความรู้" ประมาณกลุ่มละ 5-10 ข้อ ของแต่ละด้าน คือด้านภารกิจหลักของสำนักงานเลขานุการคณะ (กลุ่ม 1-2 ) และด้าน QA (กลุ่ม 3-4)
ช่วงท้าย รศ.มาลินี ธนารุณ ได้มาให้ความรู้ด้าน KM กับพวกเราให้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนในการเป็น CKO, KF ที่ดี สรุปแล้วอาจารย์เปรียบเทียบ KM เป็นปลาทู 1 ตัวค่ะ โดย (ชำแหละ) แบ่งได้ดังนี้
ท้ายสุด อ.วิบูลย์ให้พวกเรา (ที่เหลือ) ได้มาฝึก Dialogue และ Deep Listening อีกครั้ง เกี่ยวกับ AAR (After Action Review) โดยให้พูดถึงสิ่งที่เราคาดหวังในตอนแรก และเมื่ออบรมจบแล้วได้ตามสิ่งที่คาดหวังหรือไม่ และจะนำสิ่งที่จากวันนี้ไปทำอย่างไรต่อไป
ดิฉันได้พูดว่า "สิ่งที่ดิฉันได้รับเกินความคาดหวังค่ะ เพราะอย่างที่บอกไปตอนแรกว่าความรู้ด้าน KM ของตนเองก็มีเพียงเลือนลางเหลือเกิน แต่มาวันนี้เห็นภาพ KM ชัดเจนขึ้นค่ะ และจะนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในฝ่าย/งานตนเอง และจะพยายามขยายวงต่อไปสำหรับฝ่ายอื่นๆ ภายในสำนักหอสมุดค่ะ"
ดิฉันได้ปลาทูกลับมาเป็นของฝากเพื่อนร่วมงาน 1 ตัวค่ะ และจะพยายามเป็นตัวคูณที่ดี...ให้ได้ปลาทูหลายๆ ตัว เพื่อแจกจ่ายให้กับบุคลากรในหน่วยงานค่ะ
ดิฉันต้องขอขอบคุณ ดร.รุจโรจน์ (รอง ผอ.สำนักหอสมุด ฝ่ายวิชาการ) ที่ได้ให้โอกาสดิฉันเข้ารับความรู้ดีๆ ในครั้งนี้ ซึ่งเกือบพลาดไม่ได้มางานนี้ หากอาจารย์ไม่ได้ขอเพิ่มรายชื่อดิฉันเข้าร่วมสังเกตการณ์ และขอขอบคุณ ผศ.ดร.วิบูลย์ วัฒนาธร พร้อมด้วยทีมประกันคุณภาพที่ได้จัดกิจกรรมดีๆ มีสาระเช่นนี้ให้พวกเราได้รับความรู้ค่ะ
สะกัดความรู้ได้ดีมากครับ ในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง มีคนเข้ามาอ่าน 13 ครั้งแล้ว ผมคิดว่านี่คือหนึ่งในสุดยอดตัวคูณครับ และแอบหวังลึกๆ ว่า ชุมชนห้องสมุดมน. จะได้รับรางวัล CoP ของท่านอาจารย์วิบูลย์เป็นหน่วยงานแรกของมน.ครับ
อ่านแล้ว ดิฉันยิ่งรู้สึกว่าความรู้เรื่อง KM ของตัวเองก็ยังน้อยนิดและเลือนลางเหมือนกันค่ะ เพราะได้มีโอกาสฟังจากตรงนั้น ตรงนี้บ้าง ประปราย แต่คิดว่ามีหลายคนสนใจ และยังไม่มีโอกาสได้ฟัง ถ้าลองได้ขยายโอกาสแล้ว อาจได้ตัวคูณเพิ่มขึ้นๆ กว่านี้ก็ได้ค่ะ
พี่ขวัญ จุดประกาย KM ได้ดีจังเลยนี่ขนาดเป็นผู้สังเกตการณ์นะเนี้ยถ้ายังงัยข้าน้อยขอคารวะ และจะพยายามนำของฝากปลาทูตัวนี้ ไปศึกษาดูเพราะเรื่อง KM ในตัวที่มีอยู่ก็น้อยนิดเลือนลางเช่นกัน..และแล้วหน่วยงานเราก็มีผู้จุดประกาย KM เพิ่มอีกหนึ่งคนแล้ว..
เวลาผมอ่าน blog เช่นนี้ โดยส่วนตัวรู้สึกว่า การ dialogue จะช่วยให้เราเข้าใจอะไรๆ ดีขึ้น เช่น บันทึกนี้ มีคนเข้ามาสะท้อนความเข้าใจ ผมเข้ามาอ่านก็ได้อะไรมากขึ้น ดีมากครับ
ได้อ่าน "ชำแหละปลาทู" ของคุณขวัญ...แล้ว ก็ทำให้ตัวเองมานึกทบทวนดูว่า แรกเริ่มเดิมที...ตัวเราเองก็ไม่มีความรู้เรื่อง KMเลย ได้ยินได้ฟังใครพูด KM ก็จะสงสัยและมีงูสองตัวอยู่ในสมอง (งง) จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 49 รศ.มาลินี ธนารุณ ได้มาบรรยายให้ฟังที่บัณฑิตวิทยาลัย ทำให้รู้จัก KM เป็นครั้งแรก.. รู้จักปลาทู, รู้จักแม่น้ำ... ต่อมาก็ได้ไปดูงานที่ Nanyang Technological University สิงคโปร์ ได้รู้เพิ่มขึ้นอีกนิดว่า มี KM Programme at NTU จนได้เข้ามาอ่าน "ชำแหละปลาทู" และกลับไปอ่านหนังสือ KM ของ ดร.ประพนธ์ ที่แจกในโครงการสัมมนา CKO เมื่อวันที่ 9 ก.พ.49 ของหน่วยประกันคุณภาพ ซึ่งเสียดายมากที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ (เพราะติดภารกิจสำคัญ) วันนี้ก็จะขอเป็นส่วนของ KS คือ มีข้อมูล KM Programme at NTU และ ข้อมูล coP ของ NTU ที่ไปดูงาน เป็น Power Point ภาษาอังกฤษ จะส่ง file ให้ทุกท่านที่ต้องการข้อมูลค่ะ และปลาทูที่คุณขวัญนำมาฝาก...คงไม่ใช่เฉพาะหอสมุดเท่านั้น บุคลากรท่านอื่น ๆ ที่ได้เข้ามาอ่านก็จะได้รับความรู้ไปด้วย เหมือนเช่นตัวดิฉันเอง และหวังว่าต่อไปคุณขวัญ..คงมีเรื่องอื่น ๆที่จะมาSharing เสมอ ๆ
When you feel there is no one beside you Look for a star. น่ะค่ะคุณขวัญ เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ