ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาพิมพ์บันทึกเท่าไร แต่เรื่องที่เกิดกับผมน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ขับขี่รถยนต์ท่านอื่นบ้าง
รถผมปักหัวลงไปทิ่มกับเนินดินข้างทาง ต่ำกว่าถนนประมาณ ๑ เมตร แล้วนิ่งสนิท เครื่องยนต์ยังทำงานอยู่ แรงกระแทกคงไม่มากนัก เพราะถุงลมนิรภัยผมไม่ทำงาน เข็มขัดนิรภัยก็ไม่กระตุก แต่ข้้าวของของผม ไม่ว่าจะเป็นเป้ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ กระเด็นไปกองอยู่ที่พื้นรถข้างหน้า
ผมสำรวจตัวเองแล้ว..ไม่เจ็บไม่ปวดตรงไหน จึงดับเครื่องแล้วเปิดประตูรถ เดินโซเซออกมา ไม่ได้บาดเจ็บอะไรหรอกครับ แต่มันหมดเรี่ยวหมดแรงไปเสียเฉยๆ ออกมายืนดูสภาพรถกลางฝน มันปักหัวทำมุมประมาณ ๓๐ องศากับพื้น กันชนหน้ายุบลงไปมิดกับเนินรก ถัดจากจุดนั้นไปด้านตรงข้ามคนขับอีกประมาณ ๑ เมตร คือ เหว
ผมนึกในใจว่า ไม่เจ็บและรถไม่ตกเหว ก็บุญเหลือเกินแล้ว
ระหว่างนั้น ฝนเริ่มตกหนักขึ้น มีชาวบ้านขับรถมอเตอรไซด์ผ่านมาพอดี เขาตะโกนถามผมว่า เจ็บมั๊ย
ผมบอกว่า ผมสบายดี
เขาจึงจอดรถลงมาคุยด้วย ผมถามว่า แถวนี้มีป้อมตำรวจมั๊ย
เขาบอกว่า อยู่ที่แยกราชกรูด ไม่ไกล แล้วอาสาพาผมไป
ผมกลับเข้าไปในรถ จัดแจงเก็บของใส่เป้ มองเห็นมือถือหลุดเป็นชิ้นๆ ก็เก็บมันยัดใส่กระเป๋ากางเกง เอาเป้สะพายหลังแล้วขึ้นมาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ ที่ต้องขับฝ่าฝนหนักลงเขามา ชนิดคนขับต้องใช้มือหนึ่งป้องหน้าไว้ สักพักเขาก็ไม่ไหว เพราะฝนหนักเหลือเกิน จึงต้องเลี้ยวรถเข้าหลบฝนที่บ้านคนหลังแรกทางซ้ายมือ
เจ้าของบ้านรับรู้ว่าผมประสบอุบัติเหตุ ก็พูดว่า ฝนเริ่มตกแบบนี้ก็คิดอยู่เหมือนกันว่า เดี๋ยวคงมีเรื่อง เพราะถนนช่วงนั้นมีรถบรรทุกปลาวิ่งผ่านเป็นประจำ แล้วน้ำคาวปลา..มันปลา จากรถ จะไหลนองพื้น
ระหว่างนั้นผมมีโอกาสเอาโทรศัพท์มาประกอบเข้าใหม่แล้วลองโทรฯดู ปรากฏว่าเจ้าแก่โมโตโรล่าคู่กายยังทำงานได้อย่างเหลือเชื่อ ผมโทรศํพท์หาเพื่อนผมที่เป็นหมอรังสีรักษาและเป็นนายทหารที่มาประชุมครั้งนี้ด้วย บอกเขาว่า เจออุบัติเหตุ กำลังติดฝน คงไปถึงที่โรงแรมตามโปรแกรมตอน ๖ โมงเย็นไม่ทัน แล้วบอกว่า ผมปลอดภัยดี
คุณหมอชนวัธน์ เพื่อนผมยังไม่ไว้ใจ บอกว่า เดี๋ยวจะหาทางมาที่เกิดเหตุ
ฝนหยุดสนิท พี่ที่ให้ผมซ้อนรถก็พาผมขับต่อไปป้อมตำรวจ ระหว่างทาง ผมถามพี่เขาว่า พี่มีธุระอะไรหรือเปล่า
เขาตอบว่า ไม่เป็นไร ไหนๆจะช่วยแล้ว ก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด
ผมฟังแล้วรู้สึกขอบคุณเขาจริงๆ ความจริงเขาอายุน้อยกว่าผมแน่ๆ แต่ตอนนั้นผมยังลืมตัวว่าตัวเองยังไม่แก่
ไม่นานเราสองคนก็มาถึงสามแยกราชกรูด มอเตอร์ไซด์เริ่มกระตุก น้องบ่าว..เขาบอกชื่อเล่นหลังผมถามเขา สงสัยว่าน้ำมันคงจะหมด จึงไปเติมน้ำมัน ผมอาสาช่วยค่าน้ำมันให้ ก่อนตรงไปที่ป้อมตำรวจเพื่อสอบถามความช่วยเหลือและรถยก
มีตำรวจประจำอยู่ที่ป้อม ๒ นาย ซึ่งถามผมว่า มีผู้บาดเจ็บ มีของหลวงอะไรเสียหายหรือเปล่า แล้วจัดการโทรศัพท์ติดต่อทางสถานีตำรวจ และอู่รถที่อยู่ตรงข้ามให้ทันที
ผมหันไปขอบคุณน้องบ่าว พร้อมทั้งแนะนำตัวว่าเป็นหมออยู่ม.อ. และให้เบอร์โทรศัพท์เขาไว้ เขาบอกผมว่าเป็นพ่อค้าขายสะตอ มีโอกาสมาหาดใหญ่บ่อยๆ ก่อนที่เราจะร่ำลากัน
คุณตำรวจฟังเราคุยกันอยู่ จึงเพิ่งรู้ว่าผมเป็นหมอ ก็อธิบายให้ผมฟังว่า ถ้ามีของหลวงเสียหาย จะต้องไปโรงพักเสียค่าปรับด้วย เพราะ มีทรัพย์สินราชการเสียหาย ระหว่างที่รอช่างและรถยก ก็เล่าให้ฟังต่อว่า แถวนั้นมีอุบัติเหตุบ่อยมาก โดยเฉพาะถ้าฝนเริ่มตกใหม่ๆแบบนี้ และเดี๋ยวอาจจะมีรายอื่นอีก
มีกำลังใจดีๆนะคะ
โชคดีนะคะ ที่ไม่เป็นอะไรมาก มาให้กำลังใจค่ะ
พี่แก้ว
อ่านด้วยใจ"ระทึก"ไปด้วยค่ะ อาจารย์
ดีใจไปด้วยที่ไม่เจ็บส่วนไหน
อาจารย์คาดเข็มขัดนิรภัยนะคะ ไม่งั้นส่วนต้นคอ อาจบาดเจ็บ
บุญพระคุ้มครองค่ะ
ระทึกด้วยครับ เรื่องรถบรรทุกปล่อยสิ่งของเรี่ยราดบนพื้นถนนจนเกิดอันตรายนี่เป็นประเด็นที่น่าคิดของบ้านเราครับ ผมเองก็เคยเจอมะพร้าวเป็นทะลายเลยครับ หักรถหลบแทบไม่ทันครับ
ปล่อยเคราะห์ไปนะครับอาจารย์...
เป็นกำลังใจครับ...
ขึ้นดอย ขับรถเองหรือเปล่าครับ อย่าประมาทนะครับ