คิดถึงวันที่นั่งดูบึงหลังโรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
.. ..เหลื่อมซ้อนซ้ำกัน
เกี่ยวพันแน่นหนา
แท้จริง มายา
เหมือน..รูปกับเงา
ยี่สิบกว่าปีผ่านไป ยังวนเวียนอยู่ที่เดิม ระหว่างรูปกับเงา
มิลฟอร์ด ซาวนด์
๒๘ มีนาคม ๒๕๕๑
๒๘ มีนาคม ๒๕๕๑ ๑๐.๐๙ น. เฟรชวอเตอร์เบซิน มิลฟอร์ด ซาวนด์ เกาะใต้ นิวซีแลนด์ผมมาถึงท่าเรือที่มิลฟอร์ด ซาวนด์ (Milford Sound)* ตอน ๑๐ โมงเช้าพอดี ก่อนเวลาเรือท่องเที่ยวที่ผมจองไว้ออกตอน ๑๑ โมง จึงมีเวลาเหลือถึง ๑ ชั่วโมงสำหรับเดินเล่นบริเวณนั้น
จากที่จอดรถ เขาทำทางเดินเท้ามีหลังคาลัดเลาะไปตามชายน้ำ พร้อมกับนิทรรศการแสดงความเป็นมาของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ นำไปสู่อาคารท่าเทียบเรือซึ่งมีเรือท่องเที่ยวจอดอยู่จำนวนมาก ตรงบริเวณท่าเรือนี้ เป็นจุดในสุดของอ่าวแคบๆที่อยู่ท่ามกลางเทือกเขาสูง ถ้าเป็นทางยุโรปก็จะเรียกว่า ฟยอร์ด (Fiord) แต่ที่นิวซีแลนด์เรียกว่า ซาวนด์ (Sound) น้ำตรงบริเวณนั้นเป็นน้ำกร่อยไม่ใช่น้ำเค็ม จึงได้ชื่อว่า เฟรชวอเตอร์ เบซิน (Freshwater Basin)
๒๘ มีนาคม ๒๕๕๑ ๑๐.๕๙ น. ท่าเรือ มิลฟอร์ด ซาวนด์ เกาะใต้ นิวซีแลนด์
จากท่าเรือ ถ้ามองออกไปด้านนอก จะเห็นยอดเขาสูงสลับซับซ้อนขนาบเวิ้งอ่าวแคบๆ ยอดเขาที่ดูเด่นและเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ คือ ยอดเขาไมเทอร์ (Mitre Peak) เพราะมีสัณฐานแหลมชะลูดเหมือนหมวกบาทหลวง ยังคงแอบตัวในม่านเมฆ เผยโฉมให้เห็นเพียงบางส่วนเท่านั้นตามสองภาพด้านล่าง
สิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องเตรียมตัว เวลามาที่นี่ คือ ยาทากันแมลง เพราะที่นี่มีแมลงดูดเลือด คือ sandfly จำนวนมาก แมลงพวกนี้มีชื่อในภาษาเมารีว่า เต นามู (Te Namu) ว่ากันว่าเป็นสมุนของเทพีแห่งยมโลกที่หวงแหนสถานที่งดงามเช่นนี้เอามากๆ เธอกลัวว่าพวกมนุษย์ที่บุกรุกเข้ามาจะติดอกติดใจกับสรวงสวรรค์แห่งนี้แล้ว ไม่ยอมกลับออกไป จึงเสกฝูงแมลงดูดเลือดพวกนี้มาก่อกวน มนุษย์จะได้ไม่อยู่นาน และเป็นการเตือนให้รู้ว่า พวกแกหนีความตายไปไม่พ้น ตามเรื่องเล่าข้างล่าง
ภารกิจนี้ของเจ้าแมลงดูดเลือดดูท่าทางจะสำเร็จ เพราะไม่มีใครอยู่นานค้างคืน เที่ยวเสร็จก็กลับจริงๆ
ก่อนขึ้นเรือ ผมได้โอกาสนั่งจัดการอาหารกล่องที่มารีเตรียมให้ระหว่างชื่นชมความงามของ เวิ้งน้ำเรียบสนิท รอลุ้นให้ฟ้าเปิดมากกว่านี้
* มิลฟอร์ด ซาวนด์ (Milford Sound) ชื่อในภาษาอังกฤษมีที่มาน่าเบื่อมาก เพราะตั้งชื่อตามเมืองท่าในแคว้นเวลส์ แต่ชื่อในภาษาเมารี คือ ปิโอปิโอตาฮี (Piopiotahi) มีความเป็นมาโลดโผนจริงๆ ถ้าแปลตรงตัว มาจาก piopio=นกพื้นเมืองชนิดหนึ่ง tahi=หนึ่งเดียว หมายถึง นกตัวเดียว
ตามตำนานเมารีเล่าว่า นกตัวนี้เป็นสหายของวีรบุรุษคนหนึ่งชื่อ มาอูอี (Maui) พ่อหนุ่มคนนี้อาจหาญไปต่อกรกับเทพีแห่งยมโลก..เจ้าแม่แห่งความตาย เพื่อจะทำให้มนุษย์เป็นอมตะ และภารกิจนี้จะสำเร็จได้ เขาจะต้องมุดเข้าไปในตัวของเจ้าแม่ทางมดลูกแล้วโผล่ออกทางปากให้ได้ ตอนที่มาอูอีเห็นเจ้าแม่นอนอยู่ เขาก็ส่งสัญญาณให้บรรดาสหายนกๆทั้งหลายสารพัดชนิดเงียบเสียงจ๊อกแจ๊กตาม ประสา แล้วจัดการก้มหัวมุดลงไป แต่ขณะที่เขากำลังมุดหัวเข้าไปในร่างของเจ้าแม่นั้น ภาพที่เห็นมันคงดูพึลึกพิลั่นเอาการ ทำให้หนึ่งในบรรดาสหายนกที่ไม่ใช่เจ้าตัวข้างบนเกิดทนไม่ได้ ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทำให้เจ้าแม่ตื่น หลังจากนั้นเจ้าแม่ก็แผลงฤทธิ์ หนีบขาตัวเองเข้าหากันบดขยี้สำเร็จโทษพระเอกจนตาย เจ้านกตัวข้างบนเสียอกเสียใจอย่างมาก จึงบินลงใต้มายังสถานที่งดงามเช่นนี้เพื่อคร่ำครวญถึงสหายรักที่จากไป
สวัสดีค่ะคุณหมอ
มาขอบคุณแทนเด็กๆครับ
20ปีก่อนอาจารย์มาทำอะไรแถว พปก.ครับ
ผมมาทีหลังตอนนี้บึงอยู่หน้ารพ.
เขาย้ายบึงหรือสร้างตึกจนหันหน้ารพ.กลับไม่ทราบครับ
ภาพงามมากๆ ค่ะท่านอาจารย์ ชอบภาพสะท้อนน้ำ
เห็นภาพเหล่านี้ปูนึกถึง ฟยอร์ดค่ะ พอมาอ่านได้ความรู้ใหม่เลย
ยิ่งทำให้อยากไปเยือนเมืองในฝันนิวซีแลนด์นี้ค่ะเพราะมีซาวนด์เหมือนนอรเวย์
... แม้แต่นกปิโอปิโอยังมีสถานที่แห่งความทรงจำอันตราตรึงให้ได้กลับไประลึกถึง น่ารักจังเลยขอบพระคุณค่ะ
อาจารย์ใช้คำโปรยที่คล้ายๆกับที่พี่เขียนในอนุทินเมื่อวานว่า..
มีบางครั้งบางคราวที่ คนเราเหมือนมีความคิดฟุ้งซ่าน เมื่อตั้งสติได้ จะยอมรับกับตัวเองว่า ต้นเหตุของปัญหาคือความคิดของเราเอง
เคยไปนิวซีแลนด์นานมากๆแล้ว สวยประทับใจมากค่ะ
แวะมาเยี่ยมชมครับ ภาพสวยครับ
... ตามมาบอกต่อว่าท่านอ. ทำให้หนูคิดถึง การนวดหน้า ถึง ฝ่าเท้า อีกแล้วคะ ... ระหว่างการนวดหน้า มาถึง เท้า แล้วเผลอไปนวดหน้าอีก ต้องไปล้างมือก่อนนะคะ จริงๆ แล้ว … การนวดก็คลายเครียดได้อย่างนึงนะคะท่านอ. ยิ่งให้คนรู้ใจนวดให้นี่ ยิ่ง ... ตามมาชม นิวซีแลนด์ เมืองในฝันอีกรอบ ขอบคุณค่ะ ฝันดีนะคะ
.... มาเชิญชวน ท่านอาจารย์หมอ ไปบิลด์อารมณ์กับเพลงนี้ ค่ะ http://gotoknow.org/blog/lanandaman/306601
อืม.. ไม่เคยนึกเรื่องล้างมือก่อนนวดหน้าเลยนะเนี่ย นวดมาก็ไม่น้อย
ส่วนใหญ่จะโล่งอกที่เปลี่ยนท่านอนคว่ำเป็นนอนหงายซะที เพราะกว่าจะเสร็จนอนคว่ำทั้งหมด มันเริ่มปวดคอและอึดอัดแล้ว (แม้ว่าจะวางศีรษะบน ring แล้วก็ตาม)
นิทานแปลกดีนะครับ จินตนาการคนแต่งนี่แหวกแนวดี ตกลง mission ของพระเอกไม่สำเร็จ ตายค่อนข้างน่าหวาดเสียวไม่หยอกนิ พระเอกคงทำหน้าปั้นยากเวลาได้ยินเสียงเจ้านกหัวเราะเป็นครั้งสุดท้ายก่อนได้ยินเสียงกระโหลกตนเองแตก....
มารับรู้สัจจธรรมบางประการ และอิ่มเอมกับการเดินทางไปนิวซีแลนด์แต่ไปบางสถานที่ พอมาอ่านอนุทินของอาจารย์หมอ ทำให้ได้มีโอกาสกลับไปคิดถึงเวลาที่มีความสุขตรงนั้นอีกครับ
บางท่านอาจจะรู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นง่ามนิ้วเท้าก็ได้นะครับ (ได้ยินเสียงโอ้กอ้ากดังมาแว่วๆ หึ หึ)
ถ้าเลือกลาเวนเดอร์ หรือที่ผสม tea tree กลิ่นจะกลบกลิ่นอื่นๆไปเยอะเหมือนกัน หรือถ้านวดแบบ 90 minutes up เราก็มักจะสะลึมสะลือ กึ่งๆ semi-conscious
เห็นภาพเรืออาจารย์หมอแล้ว
ก็ระลึกถึงชีวิตในแต่ละวันของทุกชีวิต
เรือหากจอดเทียบท่าก็ไม่มีอันตรายอะไร
แต่เรือไม่ได้สร้างมาเพื่อจอดไว้ที่ท่า
แต่ทว่าต้องวิ่งออกจากท่าเพื่อฝ่าคลื่นลม
ไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง
เฉกเช่นเดียวกับชีวิตของทุกคน..
ภาพเรือในบันทึกช่างทำให้การกระตุ้นเตือนแห่งการหายใจเข้าออกแต่ละจังหวะ
มีประสิทธิภาพและเพิ่มประสิทธิผลให้กับชีวิตยิ่งนักขอรับอาจารย์หมอ..
สาธุๆๆ
Thank you krab