หลวงพี่ไพศาล..พระไพศาล วิสาโลมีตารางบรรยายวันแรกเพียงวันเดียว คือ วันศุกร์ที่ ๒๕ มีนาคม ช่วงเช้าผมเป็นคนบรรยายสลับ ส่วนช่วงบ่ายเป็นคิวพี่ฟ่ง...กานดาวศรี ตุลาธรรมกิจ
หลังบรรยายเสร็จในช่วงบ่าย หลวงพี่ก็จะเดินทางกลับชัยภูมิเลย เนื่องจากการเดินทางด้วยรถยนต์ใช้เวลากว่า ๕ ชั่่วโมง แต่ก่อนกลับท่านตั้งใจจะไปกราบพระธาตุพนมก่อน เนื่องจากตัวหลวงพี่เองก็เพิ่งมานครพนมเป็นครั้งแรกเช่นกัน
ผมขอติดตามหลวงพี่ไปด้วย เพราะทางโรงพยาบาลได้ติดต่อตำรวจที่รับผิดชอบ ให้เปิดพระธาตุพนมพื้นที่ชั้นใน ซึ่งอนุญาตให้เฉพาะผู้ชายเท่านั้นเข้าไปได้
ตอนแรกผมคิดว่า จะได้เข้าไปเพียงบริเวณด้านในสุดที่ติดองค์พระธาตุ ซึ่งแค่นี้ก็นับว่าเป็นบุญใหญ่หลวงแล้ว แต่ปรากฏว่า คุณตำรวจเปิดประตูในองค์พระธาตุแล้วอนุญาตให้ทั้งคณะได้เข้าไปด้านในองค์พระธาตุและทำหน้าที่มัคคุเทศน์กิตติมศักดิ์บรรยายห้องต่างๆภายใน ซึ่งมีด้วยกันสี่ชั้น แต่ละชั้นจะต้องปีนบันไดสูงชันเกือบ ๙๐ องศาขึ้นไป ตามภาพข้างล่าง
ชั้นล่างสุด
ตอนที่เข้าไปภายในองค์พระธาตุ สัมผัสแรกคือความหอมของกลิ่นน้ำอบซึ่งอบอวลไปทั่ว ผมขนลุกซู่ด้วยความปิติเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน ตามรูปข้างล่าง ซึ่งคือฐานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ประดับพลอยและหินสีอย่างงดงาม
มีช่องทางให้เดินรอบฐานได้เท่าตัวคน และเมื่อปีนบันไดขึ้นไปไม่สูงนักจะมีชั้นพักเล็กๆ ให้ไปยืนพิจารณาสิ่งที่ตั้งอยู่บนฐาน ซึ่งก็คือกรุพระและของมีค่าที่ประชาชนนำมาถวายเป็นเครื่องสักการะพระธาตุ
ชั้นที่ ๒
มีลักษณะเป็นห้องโล่ง มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ไม่กี่องค์
และมีแผ่นจารึกพระนามาภิไธยของสมเด็จพระบรมราชินีนาถในวโรกาศเจริญพระชนมพรรษา ๖๐ ปี อยู่ด้านหน้า
ส่วนกำแพงทุกด้านมีลายปูนปั้นประดับพลอยและหินสีวิจิตรงดงามนัก
ชั้นที่ ๓
เป็นชั้นที่มีสิ่งก่อสร้างรูปสี่เหลี่ยมผนังเรียบทึบทาสีทองอยู่เต็มพื้นที่ มีทางเดินแคบๆให้เดินวนรอบได้เฉพาะคนเท่านั้น ถ้าไม่ทราบจะไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไร แต่ความจริงชั้นนี้ คือชั้นที่สำคัญที่สุด เพราะภายในผนังทึบที่เรียกว่าอูบมุงนั้น คือ ที่บรรจุพระธาตุที่ค้นพบหลังจากพระธาตุพนมองค์เดิมพังทลายลงมา และนี่คือที่บรรจุ พระอุรังคธาตุ หรือ กระดูกส่วนหน้าอกของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตามภาพในวิดิโอข้างล่าง
ตรงพื้นรอบๆอูบมุงนั้น มีคนเอาพระพุทธรูป ของมงคล สิ่งมีค่าทั้งเหรียญเงิน ธนบัตรสารพัด มาวางไว้เพื่อเป็นเครื่องสักการะองค์พระธาตุ
ผมนั่งคุกเข่าลง คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ ญาติผู้ใหญ่ พี่น้องของผม น้อมจิตเสมือนผมเป็นตัวแทนของทุกคน แล้วระลึกถึงพระพุทธคุณก่อนก้มลงกราบองค์พระธาตุอย่างตั้งใจที่สุด ผมไม่มีอะไรติดตัวมาและไม่คิดจะใช้ของมีค่าวางเป็นเครื่องสักการะ จึงตัดสินใจดึงเส้นผมกลางศีรษะของตนเองแล้ววางลงกับพื้นชิดอูบมุง อธิษฐานขอให้ตั้งมั่นในพระพุทธศาสนาตลอดไป
ชั้นบนสุด ชั้นที่ ๔
ทำเป็นบุษบุกลวดลายงดงามมากตั้งอยู่ตรงกลางห้อง วัตถุประสงค์เพื่อไม่ให้คนไปยืนค้ำอยู่ด้านบนขององค์พระธาตุซึ่งประดิษฐานอยู่ในชั้นที่ ๓
การได้มีโอกาสเข้าไปสักการะพระธาตุพนมถึงภายในองค์พระธาตุอย่างใกล้ชิดครั้งนี้ นับเป็นบุญครั้งยิ่งใหญ่ของผมในชีวิต เพราะน้องผอ.รพ. นพ.มนู ชัยวงศ์โรจน์ ซึ่งทำงานอยู่ที่ธาตุพนมเป็นสิบปี หรือพี่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่เกิดที่ธาตุพนมจนอายุ ๕๕ ปีแล้ว ก็เพิ่งมีโอกาสได้เข้ามาในองค์พระธาตุนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน
เป็นความบังเอิญที่ผมตัดสินใจมานครพนมก่อนหนึ่งวัน และได้ตามหลวงพี่ไพศาลมากราบพระธาตุวันนี้ นับว่าเป็นการได้ เกาะชายผ้าเหลืองทำบุญ เป็นบุญของตนเองจริงๆ และได้เรียนรู้ว่า
กราบนมัสการพระธาตุค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
ดิฉันรู้สึกมีบุญที่ได้ติดตามบันทึกของคุณหมอ มากราบนมัสการพระธาตุ ด้วยค่ะ..
ขอบคุณค่ะ คุณหมอ นาย เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี
on time
ติดตาม ตามติดไปด้วย ยังไม่เคยไปเหมือนกันครับที่นี่
สาธุ สาธุ สาธุ ขอบคุณมากค่ะ อาจารย์
ที่ทำให้เห็นภาพ ที่ไม่เคยเห็น และเป็นภาพที่ประทับใจ ประทับตามาก
อนุโมทนา สาธุ เป็นบุญตา จริงๆ ค่ะที่ได้ชม ภาพที่หาชมได้ยาก ภายในยิงวิจิตอลังการ ขอบคุณค่ะ
สาธุ...สาธุ....สาธุ....พบพระพุทธศาสนาแน่นอนก่อนจะนิพพานค่ะ....ขอบพระคุณอาจารย์มากนะคะ....ฐาณิญา วิสารวัฒนา