ด้วยความที่ผมสนใจพระธาตุพนม เคยอ่านเรื่องแปลกๆที่มีผู้เขียนผู้เล่าไว้มากมายมาตั้งแต่ยังเด็ก โดยเฉพาะเรื่องพญานาค ถึง วันนี้สิ่งเหล่านั้นผุดขึ้นมาในหัวผมเหมือนกับการกรอเทปกลับ ผมเลยตั้งใจจะไปกราบพระธาตุอีกเป็นครั้งที่สามในวันอาทิตย์ที่ ๒๗ มีนาคม ซึ่งเป็นวันเดินทางกลับ อย่างน้อยก็เป็นการ "ไปลา" ก่อนกลับ เช่นเดียวกับตอน "มาไหว้" เมื่อเดินทางมาถึงเมื่อสามวันก่อน
ผมออกจากโรงพยาบาลแต่เช้า ก่อนหกโมงเสียอีก แต่ท้องฟ้าสว่างแล้ว ปั่นจักรยานที่พี่บี..สิริกร ฤทธิธาดา อุตส่าห์เอามาให้ เมื่อรู้ว่าผมตั้งใจจะเดินฝ่าลมหนาวผิดฤดูไปใส่บาตรแถววัดพระธาตุฯอีกครั้งคนเดียว
พอมีพาหนะคู่ใจ ผมก็ไปโลด จุดหมายแรกของผมวันนี้คือ พญานาคหรือพญางูที่สำคัญที่สุดในอุษาคเนย์..แม่น้ำโขง
ตอนผมไปถึงตรงริมโขง
เป็นช่วงเวลาที่พระสงฆ์กลุ่มใหญ่ออกบิณฑบาตเดินเรียงแถวผ่านตรงนั้นพอดี
มีชาวบ้านนำกระติบข้าวเหนียวอย่างเดียวมานั่งรอใส่บาตรพระกันหลายคน
เป็นภาพที่น่าประทับใจจริงๆ และทำให้ผมเข้าใจความหมายของคำว่า
บิณฑบาต ที่แปลตรงตัวว่า การตกลงของก้อนข้าว
ชัดเจนมากขึ้น
ส่วนพวกนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่มาจากจังหวัดสุรินทร์ รวมทั้งตัวผมด้วย ก็อาศัยซื้อขนมจีบใส่ถุงพลาสติกจากรถเข็นที่น่าจะขายอยู่ตรงนั้นเป็นเจ้า ประจำเป็นของใส่บาตร
ตอนใส่บาตรพระรูปสุดท้าย ผมนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นคนเดียว ตรงหน้า..ริมฝั่งโขง คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ ญาติพี่น้องที่ปัตตานีอีกครั้ง โดยเฉพาะคุณย่าที่ผมเรียกอาม้า..คนที่พาผมไปวัดและรู้จักการใส่บาตรมา ตั้งแต่เด็ก ภาพอดีตที่เคยตามผู้ใหญ่ไปใส่บาตรหน้าศาลากลางจังหวัดในวันสำคัญต่างๆผุด ขึ้นมา แล้วน้ำตาจากไหนไม่รู้ก็เอ่อเบ้า ..อยากให้ทุกคนอยู่่ด้วย มาทำบุญด้วยกัน
ผมปั่นจักรยานจากริมโขงตามถนนที่ตัดตรงเข้าสู่องค์พระธาตุพนม ซึ่งมีผังที่ตั้งหันหน้ามาทางทิศตะวันออกสู่แม่น้ำสายสำคัญสายนี้อย่าง ชัดเจน ผ่านซุ้มประตูเรืองอร่ามรัษฎากร ที่มีประติมากรรมรูปยักษ์สองตนเพศชายและเพศหญิงนั่งคุกเข่ารักษาการณ์คู่กันอยู่ ตามสองรูปข้างล่าง
เมื่อมาถึงหน้าวัดพระธาตุซึ่งมีชื่อเต็มๆว่า วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร บ่งบอกถึงความเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ผมปั่นจักรยานวนรอบด้านนอกวัด สัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากวัดดังๆหลายแห่งที่ผมเคยไปสัมผัสมา นั่นคือความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่ใกล้เคียง มีการจัดสรรพื้นที่ด้านข้างให้เป็นที่ขายของ ไม่ให้ความเป็นตลาดรุกล้ำเข้าไปในวัด สมกับความเป็นศาสนสถาน ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่ขาดความสำรวม
ที่ซุ้มประตูด้านหน้า ตรงหน้าบันมีข้อความสำคัญเขียนไว้ชัดๆว่า ธรรมะ ต้องชนะอธรรมเสมอ ตามภาพข้างบน
พอก้าวเข้าไปภายในวัด ความแตกต่างจากวัดดังๆทั่วไปอีกเรื่องหนึ่งก็สัมผัสได้..ความสงบและสะอาด ไม่มีเสียงประกาศผ่านไมโครโฟนชักชวนให้ทำบุญหรือซื้อวัตถุมงคล ไม่มีกิจกรรมค้าขายเอาเป็นเอาตาย
ผมตั้งใจ ว่าการเดินทางมากราบพระธาตุเช้าวันนี้ จะไม่รีบเข้าไปกราบพระธาตุก่อน แต่จะเปิดใจเรียนรู้ธรรมะจากทุกสิ่งรอบตัวที่ได้พบเห็น โดยจะเดินเวียนจากรอบนอกก่อนแล้วค่อยๆเข้าไปข้างในทีละน้อย ซึ่งจะขอถ่ายทอดเป็นภาพถ่ายที่จะเขียนแยกไว้ในอีกบันทึกหนึ่ง
ขอวกกลับมาเรื่องพญานาค
วัฒนธรรมอิสานมีความเชื่อมโยงกับพญานาคอย่างแนบแน่น ผ่านความเชื่อเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมา ประเพณีต่างๆ รวมถึงประติมากรรมที่ปรากฏอยู่ทั่วไปหมดภายในวัดพระธาตุพนม
พระพุทธรูปปางนาคปรก ตั้งอยู่เบื้องหน้าพระมารวิชัยศาสดา พระประธานในหอพระแก้วเดิม หน้าองค์พระธาตุพนม
เสาไฟลวดลายเป็นพญานาคเกี่ยวกัน
ลายปูนปั้นรูปพญานาตรงซุ้มประตูทางเข้าไปบริเวณองค์พระธาตุด้านใน
ไม้เท้าหัวพญานาคของญาครูขี้หอม พระสังฆราชแห่งแคว้นล้านช้างที่นำชาวบ้านมาบูรณะพระธาตุพนมเมื่อ ๓๐๐ กว่าปีก่อน
ลายปูนปั้นรูปพญานาคทั้ง เจ็ด ด้านหลังแท่นประดิษฐานพระมารวิชัยศาสดา พระประธานในหอพระแก้วเดิม หน้าองค์พระธาตุพนม ในภาพเห็นแค่ห้า เพราะมีราวโลหะสีเงินบังไปสอง
ความเชื่อว่าองค์พระธาตุพนมมีพญานาคถึงเจ็ดตนเป็นผู้ดูแลรักษา และปรากฏเป็นลำแสงประหลาดในยามค่ำคืน เป็นเรื่องที่ผมเคยอ่านสมัยเด็ก ถึงวันนี้ผมพยายามหาคำตอบในอีกแง่มุมหนึ่ง เป็นไปได้หรือไม่ว่านี่เป็นกุศโลบายของคนโบราณที่จะสอนอะไรเราด้วยบุคลาธิษฐาน หรือ การสอนหลักธรรมโดยเปรียบเทียบให้เป็นบุคคล
นามของพญานาคทั้งเจ็ด คือ ศรัทธา ศีล หิริ โอตตัปปะ พหุสุตะ จาคะ และปัญญา ตรงกับ อริยทรัพย์ทั้ง ๗ พระธรรมซึ่งเป็นทรัพย์อันประเสริฐ ที่จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติหรือครอบครองไปถึงซึ่งความหลุดพ้นจากทุกข์หรือพระนิพพานได้ หลักธรรมที่ช่วยปกปักรักษาพระศาสนาและผู้ปฏิบัติ..พญานาคผู้ปกปักรักษาพระธาตุพนม
สวัสดีค่ะ
เคยไปนมัสการหลายครั้งเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ได้เรียนรู้เหมือนบันทึกของคุณหมอ ได้แต่ไปกราบไหว้ และเที่ยวชมไป ที่ชอบและอยากมาบ่อย ๆคือหมูเย็นค่ะ ที่นี่มีแห่งเดียวในประเทศไทย
ชอบบรรยากาศริมโขงตอนเช้า ๆ แลกการนั่งเรือข้ามฝั่งค่ะ
เลานึกถึงบรรพบุรุษ น้ำตาก็เอ่อเช่นเดียวกัน อย่างเช่นเห็นของที่พ่อ แม่ หรือปู่ ย่า ยาย ชอบทาน จะน้ำตาไหล คิดว่า หากท่านอยู่ก็จะซื้อให้ทาน หรือจะทำทุกอย่างให้พวกท่านมีความสุขค่ะ
สาธุ....ค่ะคุณหมอ
สวัสดีค่ะ
มาติดตามอ่านข่าวน้ำท่วมภาคใต้ค่ะ ได้โอกาสแวะมารับเม้นท์จากคุณหมอ
อากาศที่พิษณุโลก ๑ วันมี ๓ ฤดูกาลค่ะ วันนี้ตอนเช้มืดหนาว ฝนตก และตอนนี้เริ่มร้อน แล้วค่ะ
ตอนนี้ไม่อยากเดินทางค่ะ อยู่บ้านเงียบ ๆ รู้สึกดีค่ะ
สวัสดีค่ะ
ขอมาแวะอิ่มใจ อิ่มบุญด้วยคนน่ะค่ะ
พระธาตุพนมยังไม่เคยไปเลยค่ะ
ดูสวย สงบ จริงๆ ค่ะ ชอบภาพที่ซุ้มประตูด้านหน้า ที่มีข้อความเขียนว่า
"ธรรม ต้อง ชนะอธรรม เสมอ"
ขอบคุณนะค่ะ
แล้วสรุปว่าแม่น้ำโขง มีพญานาค อยู่จริงๆ ป่ะค่ะ (เป็นความอยากรู้ส่วนตัวค่ะ)
เห็นด้วยอย่างมากค่ะ..
บันทึกไปนมัสการพระธาตุ ทริปนี้ เหมือนได้ติดตามไปนมัสการ ได้ติดตามไปร่วมทำบุญ และเที่ยวด้วยเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ..
on time
เก็บตกบันทึกการเดินทางอ.หมอ ครู พระ ขนาดเป็น armchair traveller ยังละเอียดปานนี้
เสมือนช่วงเรียนวิชาทัวร์วัด ค่อยๆ ละเลียดๆ ไปทีละด่าน ผ่านช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ลงมาธรณีประตู รู้สึกดีๆ มากค่ะ .. ทึ่งกับนัยยะ พญานาคทั้ง ๗ แบบเข็มขัดสั้นกันเลยค่ะ
ขอบพระคุณท่านไกด์กิติมศักดิ์ อ. หมอเต็ม เติมฝัน สุขสันต์วันปีใหม่ไทยนะเจ้าค่ะ :)
หมั่นสะสมอริยทรัพย์ทั้ง๗ ก็ชื่อว่าได้พบพญานาคทั้ง๗แล้วค่ะ....