หวานชีวิต


หนึ่งความประทับใจ ในมุมมองงานเขียนจากนวนิยาย เรื่อง คำมั่นสัญญา ของ ทมยันตี กับมุมมองคำถามบางประการ จากความทรงจำ และจากความประทับใจ ที่จดจำได้ดีถึงคำสั่งสอนในวัยเยาว์

หวานชีวิต

 

อ้างอิง - ภาพ Kati1789

วันวาน

ที่นั่งนึกขำชีวิต

เวลาคิดถึงเรื่องราวรอบตัว

 

เหมือนเวลาเด็กๆ ถามไถ่กัน เหมือนเช่นตลกเล่นมุขเด็กๆ ว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ด้วยคำตอบที่ว่า โตขึ้นอยากเป็นผู้ใหญ่ ฟังทีแรกก็ยังพอขำ แต่พอฟังไปฟังมาจนบ่อยครั้งเข้า ผมกลับคิดว่า ช่างเป็นมุมมองที่น่ารักน่าสนใจ และที่สำคัญ คือ เป็นแก่นแกนของความจริงในชีวิตคนเรา

สำหรับการคิดถึงชีวิตเบื้องหน้า

เมื่อพ้นวัยเด็กก็ต้องโต

ผ่านเด็กสู่ผู้ใหญ่

 

ซึ่งสำหรับความผิวเผินมากมายบนโลกใบนี้ ที่ทำให้ได้มีโอกาสตระหนัก ว่าความจริงของชีวิต ล้วนเป็นเรื่องซับซ้อน และ เรื่องราวอันง่ายดาย ปะปนกันไปตามแต่หัวใจของเราจะรับรู้ หรือ ตามแต่วันวัยจะสอนสั่งให้เราได้ตระหนัก ว่าความจริงใดคือแก่นแท้ของชีวิต และ สิ่งใดไม่ใช่

ครั้งหนึ่ง

ผมเคยนั่งขำกับประโยคที่ว่า

กินของขม ชมเด็กสาว เล่าความหลัง

 

นั่งขำไปขำมา กับคำคล้องจองที่ช่างรวบรัดหมดจด และอธิบายความได้อย่างชัดเจน สำหรับวันวัยที่ผ่านไป และบทสรุปของชีวิตยามเฒ่าชะแลแก่ชรา เมื่อคิดว่า สุดท้ายของความจริง และคำพูดสั่งสอนบางประการ น่าจะเป็นสิ่งที่งดงาม หากเราได้เข้าใจรหัสที่แฝงอยู่ภายใน

เหมือนเช่นการสอนสั่งเรื่องความหวาน

ความหวานภายในของชีวิต

ที่ผูกพันกับบางเรื่อง

 

เช่นที่เคยรับรู้แบบตลก ว่าอย่าให้หมากินน้ำตาล เพราะจะทำให้หมาดุ กระทั่งเมื่อเติบโตจนเข้าใจข้อมูลบางอย่างที่ว่า เพราะน้ำตาลจะทำให้หมามีความเครียด ดังนั้นการหลีกเลี่ยงน้ำตาลก็จะทำให้ หมาไม่เครียด และไม่แสดงความดุหรือความกร้าวร้าวออกมา ไม่นับกับคำพูดประชดประชัน ของเพื่อนบางคน ที่ล้อเลียนตัวเอง ในฐานะคนเมืองเพชรว่า

คนเมืองนี้มันดุ

เพราะน้ำตาลโตนดมันหวาน

คนมันเลยดุ ตามความหวานของน้ำตาล

 

เช่นเดียวกับ คำแม่สอน ที่เคยนั่งดุนั่งบ่นตอนเป็นเด็ก ให้ชีวิตเรียนรู้ความจริง ว่าควรอดเปรี้ยวไว้กินหวาน หรือทนทานกับความยั่วยวนของชีวิตให้ได้ เพื่อเรียนรู้ว่า ความหวานในบั้นปลายนั้น หอมลิ้นและอิ่มใจเพียงใด จนแม้จนรอด จนถึงวันวัยที่เริ่มกินของขม ผมก็ยังคงจำคำของแม่ขึ้นใจ

เช่นเดียวกัน กับคำมากมายในหนังสือ

เรื่องราวความหวานในอักษร

กับการบอกสอนชีวิต

 

ที่ผมจดจำได้ ถึงงานประพันธ์ชิ้นหนึ่งของ คุณทมยันตี ซึ่งแอบซ่อนรหัสความจริงแห่งชีวิตบางประการเอาไว้ ในงานเรื่อง คำมั่นสัญญา เมื่อพี่สารินของน้องดา ถามคุณจ่าไหว หรือพ่อของตัวเอง หลังจากขึ้นไปนั่งร่วมโต๊ะกับท่านผู้การ จนอดติดรสมือของคุณนายรจนา จนต้องอดเปรยกับพ่อว่า เวลาผัดกับข้าว พ่อใส่น้ำตาลลงไปหน่อยสิ

 

 

  

จ่าไหว ตอบลูกชาย

ด้วยคำพูดที่ผมจำจนขึ้นใจ

ขึ้นใจจนถึงวันนี้ว่า รสหวานจะติดง่ายลูก

 

สำหรับคำของพ่อ ในฐานะของจ่า ที่ติดพันชีวิตกับนาย ในฐานะทหารผู้ต้องการวางมือจากทุกสิ่งอย่าง ผู้พ้นจากมือพิฆาตในกองทัพ ผู้ต้องการหลีกพ้นจากหนามแหลมในชีวิต และผู้ต้องการละเลิกจนอยากก้าวพ้นจากวังวนอันวุ่นวายของชีวิต คำตอบบางอย่างที่ทำให้ผมจำจนขึ้นใจ

เช่นเดียวกับที่จำได้ ถึงความประทับใจของเพื่อน

ที่รักเรื่องราวในเนื้อหาสำคัญของนวนิยาย

จนอดไม่ได้ที่จะชื่นชอบ พี่สาริน

 

สำหรับความจริงในชีวิตตัวเอง ความจริงในชีวิตของเพื่อน ที่ต่างเดินทางผ่านวันเวลา ผ่านบททดสอบมากมาย หลายเรื่องราวที่เพื่อนร้องไห้ หลายเรื่องที่เราร้องไห้ หลายเรื่องที่นำพาความทุกข์มาเล่าสู่กันฟัง ความหมายของชีวิตตามรายทาง ที่ต่างคนต่างเดินทางค้นหา

บางครั้งก็พบบ้างไม่พบบ้าง

บางคราวก็เหน็ดเหนื่อย จนนอนไม่หลับ 

บางคราวก็อดทน จนแทบจะกั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

 

สำหรับคำตอบที่ชีวิต ยังคงต้องดำเนินต่อไป หลายเรื่องราวในชีวิต ล้วนต้องอาศัยการพิสูจน์ อาศัยประสบการณ์ที่เพียงพอ จนกว่าจะเข้าใจว่า สิ่งใดที่เหมาะสมกับชีวิต สิ่งใดควรตระหนัก ตระเตรียมและเท่าทัน ต่อความเปลี่ยนแปลง ที่ชีวิตกำลังจะได้เผชิญหน้า

สำหรับคำตอบบางอย่าง ที่คุณทมยันตีทิ้งไว้

มีคำตอบน่าสนใจว่า สารินยังเด็กเกินไป

กว่าจะเข้าใจประโยคนี้

 

สำหรับชีวิตของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ที่จ่าแก่ๆคนหนึ่ง พยายามเลี้ยงดูบอกสอนลูกชาย ให้เข้าใจในความหมายของชีวิต เข้าใจในการอดทน เข้มงวด และวางตัว เพื่อไปสู่เป้าหมายของชีวิต สำหรับบางสิ่งอย่าง ที่สอนให้ในแต่ละบรรทัด แต่ละบทตอน ของเรื่องราวที่บอกสอนให้เราเข้าใจ

ความหมายสำคัญ

ของการที่ชีวิตผ่านพ้นไป

หรือชีวิตต้องพยายามให้ผ่านพ้นไป

 

สำหรับเรื่องราวที่ชีวิตต้องอดทน ผมอดนึกถึงบางบทบางตอนในนวนิยาย คำมั่นสัญญา ระหว่างนั่งกัดกิน ช็อคโกแลตรูปช้างไปพลาง ระหว่างที่พักชีวิตก่อนจะเริ่มต้นทำงาน หลังจากเดินทางสู่จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งหนึ่งที่ผมมีโอกาสนั่งกัดความหวาน ขณะที่ความรู้สึกหนึ่งก็คอยเตือนตัวเอง ให้เข้าใจ ให้ตระหนัก และให้รับรู้ ในความจริงที่ชีวิตต้องพึงระมัดระวัง ในแต่ละก้าวย่าง

สำหรับคำตอบของพ่อ ที่บอกกับลูกชาย

สำหรับความหมายที่มีไว้จดจำ

สำหรับวันที่เหน็ดเหนื่อย

ผมเพียงจดจำได้ ถึงความหมายที่ชีวิตควรเรียนรู้

 

 

หมายเลขบันทึก: 320604เขียนเมื่อ 16 ธันวาคม 2009 06:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 03:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ละเมียด ละไม ละเอียด อ่อนหวาน

ผสมผสาน ความคิด ปุจปริศนา

ประทับใจ ถ้อยเรียงรส พจนา

คำมั่นสัญญา ล้วนตรึงตรา พาติดใจ

....

หวานชีวิต น่ารักซะค่ะ เก็บเรื่องนี้อ่านเรื่องสุดท้าย

มิรู้คลาย อยากเสพหวาน ผ่านงานศิลป์       ค่ะ

หากแต่รสอาหาร ต้องอ่อนหวาน เป็นอาจิณ

ให้ถวิล ควรบ่มรัก ประจักษ์ใจ ไปเนิ่นนาน ...

...

ขอบคุณมากมายนะคะ สำหรับบันทึกดีๆ เพิ่มพลังใจ ไปทำงาน

 

 

 

เวลาเหมือนสายน้ำครับ ไหล ไปเรื่อย อ่านบันทึกนี้แล้ว คล้ายมองเห็นว่า สายน้ำสายนี้มีแสงระยิบที่ผิวน้ำ ดูงดงาม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท