มะพร้าวนาฬิเกร์ กลางทะเลขี้ผึ้ง นั้นมันอย่างไร มีใจความสำคัญว่า ความทุกข์อยู่ที่ไหน ความดับทุกข์อยู่ที่ตรงนั้น เพราะฉะนั้นให้หาพระนิพพานให้พบจากท่ามกลางแห่งวัฏฏสงสารนั่นเอง*
มะพร้าวนาฬิเกร์ที่อยู่กลางทะเลขี้ผึ้ง ที่ว่าต้นมะพร้าวนาฬิเกร์ อยู่กลางทะเลขี้ผึ้ง ก็หมายความว่า นิพพานนั้นอยู่กลางวัฏฏสงสาร วัฏฏสงสารเหมือนทะเลขี้ผึ้ง คือเป็นได้ทั้งบุญทั้งบาป เมื่อร้อนมันก็เป็นอย่างหนึ่ง เมื่อเย็นมันก็เป็นอีกอย่างหนึ่งตามธรรมดาของขี้ผึ้ง แต่แล้วมันก็ต้องเป็นขี้ผึ้งอยู่นั่นเอง เมื่อสักว่าเป็นขี้ผึ้ง แล้วมันก็เป็นวัฏฏสงสาร ส่วนต้นมะพร้าวอยู่กลางทะเลขี้ผึ้งนั้น มันไม่ร้อน จึงเรียกว่าฝนตกไม่ต้องฟ้าร้องไม่ถึง อยู่ได้ กลางทะเลขี้ผึ้ง ซึ่งเต็มไปด้วยความร้อน ความเย็น ชนิดที่เป็นความทุกข์*
หลักคำสอนในศาสนาพุทธ ในเบื้องต้น คือให้ทำความดี ละเว้นการทำความชั่ว หากการปฏิบัติในระดับที่สูงขึ้นไป แม้แต่ความดี ก็ให้ปล่อยวาง ไม่ยึดถือมั่นค่ะ เพราะการยึดถือมั่นไม่ว่าจะในอะไรก็ทำให้ทุกข์ได้ทั้งนั้น
การปล่อยวางในความดี ไม่ได้หมายถึงไม่ทำความดีค่ะ แต่ความดีที่ทำนั้น ให้เป็นเพียงกิริยา อย่ายึดมั่นว่านั่นคือความดีที่ ฉัน ทำ ผลงานนั้นเป็นความดี ของฉัน
เมื่อไม่ยึดมั่น ก็ไม่หวังว่าจะมีใครเห็น และไม่หวังว่าจะได้รับผลตอบแทน จึงไม่ทุกข์ เมื่อกิริยาที่ทำไม่มีคนสรรเสริญ ไม่มีผลตอบแทนใดๆ จึงอยู่ได้อย่างสงบ
เป็นความหมายของ ผู้พ้นบุญ ค่ะ
...................................................
* พุทธทาสภิกขุ พจนานุกรมธรรมของท่านพุทธทาส ( หน้า ๑๙๔ ) ธรรมสภา ๑ / ๔ ๕ ถนนบรมราชชนนี กรุงเทพ
สวัสดีค่ะ น้องณัฐ
แวะมาทักทายยามเช้าค่ะ
สบายดีนะค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับข้อคิดดีๆ
สวัสดีค่ะ...
"เมื่อไม่ยึดมั่น ก็ไม่หวังว่าจะมีใครเห็น และไม่หวังว่าจะได้รับผลตอบแทน จึงไม่ทุกข์ เมื่อกิริยาที่ทำไม่มีคนสรรเสริญ ไม่มีผลตอบแทนใดๆ จึงอยู่ได้อย่างสงบ"...ขอบพระคุณมากค่ะสำหรับธรรมยามเช้า
สวัสดีค่ะ
ขอบพระคุณข้อพิจารณาอันงามของวันนี้ค่ะ
มาชม
ผมได้เคยไปยืนดูต้นมะพร้าวนี้อยู่บนเกาะกลางสระในสวนโมกข์เลยละนี่...
เป็นปริศธรรมของท่านเจ้าคุณอาจารย์พุทธทาส ภิกขุ จริง ๆ นะครับ...
สวัสดีค่ะ...
ขอบพระคุณสำหรับปริศนาธรรมนะคะ...
น้อมรับข้อคิดและปริศนาไปพิจารณาค่ะ
สวัสดีค่ะ
เพราะนาฬิเก ก็เกิดหนังสือเล่มนี้ค่ะ นำมาฝากนะคะ