ดร.วัชระ งามจิตเจริญ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับวิธีการนับถือศาสนาพุทธของคนไทยไว้อย่างน่าสนใจ
ขอคัดลอกมาบันทึกไว้นะคะ
3) ความเชื่อและการปฏิบัติของชาวไทย
ชาวพุทธไทยมีแนวคิดและแนวปฏิบัติคล้ายกับชาวพุทธในศรีลังกาและพม่า ในด้านเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนาและการทำบุญ แต่ก็มีความแตกต่างในรายละเอียดปลีกย่อย ซึ่งขอแบ่งเป็นประเด็นย่อยเพื่อให้ง่ายต่อการอ่านดังนี้
(1) พิธีกรรมและการทำบุญ
ชาวพุทธไทยนิยมการตักบาตร บริจาคทาน และบริจาคเงินสร้างอุโบสถ วิหาร กุฏิและศาลาการเปรียญ คนแก่นิยมเข้าวัดถือศีลฟังธรรมทุกวันธัมมัสสวนะ (วันพระ) ชาวพุทธไทยนิยมประกอบพิธีกรรมในวันสำคัญทางศาสนา เช่น การเวียนเทียนในวันวิสาขบูชา และนิยมให้ลูกชายได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยเชื่อว่าได้ผลบุญมาก และเป็นการตอบแทนพระคุณของบิดามารดา
แต่ชาวพุทธไทยส่วนมากไม่ค่อยสนใจในการศึกษาพุทธศาสนาและการปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง มีส่วนน้อยที่สนใจศึกษาและปฏิบัติอย่างจริงจัง
ในส่วนที่สนใจศึกษาและปฏิบัตินั้น บางคนก็นิยมปฏิบัติกรรมฐานทั้งแบบสมถะและแบบวิปัสสนา วิธีปฏิบัติกรรมฐานที่แพร่หลายอยู่ในปัจจุบันมีอยู่ 3 สำนักใหญ่ หรือ 3 สายใหญ่คือ สายพองหนอ-ยุบหนอของวัดมหาธาตุ สายวิชชาธรรมกายของวัดปากน้ำภาษีเจริญ สายบริกรรมพุทโธของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต แต่ก็มีสายอื่นๆที่เริ่มแพร่หลายมากขึ้น เช่น สายของหลวงพ่อเทียน จิตสว่าง
(2) ความเชื่อ
นอกจากเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม นรก สวรรค์แล้ว ชาวพุทธไทยยังมีความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ โชคลาง และความเชื่อพื้นบ้านอื่นๆ มีเรื่องพระภูมิเจ้าที่ และขวัญที่อยู่ประจำตัวคน เป็นต้น
ชาวพุทธไทยนิยมทำบุญเพื่อชีวิตที่ดีในภพหน้า ไม่ค่อยปรารถนาจะไปนิพพาน ซึ่งก็เหมือนชาวพุทธพม่าปรารถนาภพหน้าที่ดีโดยเฉพาะการได้ไปเกิดในสมัยของพระศรีอาริยเมตไตรย
แนวคิดและแนวปฏิบัติของชาวพุทธไทยจึงมีอิทธิพลของความเชื่อท้องถิ่นและศาสนาพราหมณ์เช่นเดียวกับในลังกา เพียงแต่อาจจะน้อยกว่า ความเจริญทางด้านวัตถุหรือเทคโนโลยีสมัยใหม่และกระแสอารยธรรมตะวันตกที่เข้าสู่ประเทศไทยก็มีส่วนที่ทำให้ชาวพุทธไทยสนใจพุทธศาสนาและการปฏิบัติน้อยลงกว่าแต่ก่อน
พุทธศาสนาเถรวาทตามที่คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจและถือปฏิบัติกันอยู่โดยทั่วไปนั้น จัดเป็นพุทธศาสนาแบบชาวบ้าน เพราะมีการผสมผสานกับความเชื่อและพิธีกรรมที่เกี่ยวกับผีสางเทวดา และที่เกี่ยวกับศาสนาพราหมณ์
พุทธศาสนาแบบชาวบ้าน เป็นพุทธศาสนาที่ประนีประนอมให้เข้ากับความเชื่อพื้นบ้านในเรื่องผีบรรพบุรุษ ผีสางเทวดา นางไม้ ผีบ้านผีเรือน หรือกับความเชื่อจากคติพราหมณ์เรื่องขวัญ พระภูมิเจ้าที่ การดูฤกษ์ยาม และเทพเจ้าต่างๆ เช่น พระอินทร์ พระพรหม ความเชื่อและพิธีกรรมที่ไม่ใช่ของพุทะศาสนาเหล่านี้ปนมาอยุ่กับความเชื่อและพิธีกรรมของศาสนาพุทธ แม้จะไม่ถึงกับขัดแย้งกับหลักการสำคัญของพุทธศาสนาเถรวาท แต่ก็มีส่วนทำให้คนไขว้เขว หรือเข้าใจผิด ว่าเป็นความเชื่อหรือพิธีกรรมของพุทธศาสนา และทำให้คนห่างเหินจากแก่นแท้ของพุทธธรรม
ดังจะเห็นได้จากเหตุการณ์ที่ปัจจุบันคนไทยจำนวนมากนับถือพระพุทธเจ้าเหมือนกับพระเจ้าในศาสนาเทวนิยม โดยมีการสวดมนต์อ้อนวอน หรือบนบานขอความช่วยเหลือจากพระพุทธเจ้า และยังนิยมการบนบานหรือขอความช่วยเหลือจากสิ่งที่ไม่ใช่ สรณะ หรือที่พึ่งตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา เช่น ต้นไม้ จอมปลวก และสัตว์ที่มีลักษณะประหลาดหรือผิดปกติ การบูชาพระราหูเพื่อสะเดาะเคราะห์ ที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ก็เป็นอีกตัวอย่างของการเหินห่างจากหลักคำสอนที่แท้จริงของพุทธศาสนา เพราะไม่มีคติความเชื่อนี้ในพุทธศาสนาเถรวาท
นอกจากนี้ พุทธศาสนาในประเทศไทยยังมีการผสมผสานกับความเชื่อของพุทธศาสนามหายานอีกด้วย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การบุชาเจ้าแม่กวนอิมที่เป็นพระโพธิสัตว์ในพุทธศาสนามหายาน แม้แต่ในวัดบางแห่งก็มีการจัดสร้างรูปเคารพของเจ้าแม่กวนอิมไว้ให้คนสักการบูชา ซึ่งบางวัดได้สร้างรูปเคารพของเจ้าแม่กวนอิมไว้อย่างใหญ่โตยิ่งกว่าพระพุทธรูปเสียอีก
ลัทธิบูชาเจ้าแม่กวนอิม (ซึ่งถือว่าเป็นองค์เดียวกับพระอวโลกิเตศวรของพุทธศาสนามหายานในอินเดีย) ที่แพร่หลายในประเทศไทยนั้น เป็นคติความเชื่อของมหายานจีน ซึ่งคนไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่ก็ยังสืบทอดความเชื่อนี้อยู่ ผู้เขียนเห็นว่า อิทธิพลของความเชื่อนี้ได้แพร่จากคนไทยเชื้อสายจีน และชาวจีนในไต้หวัน ฮ่องกง ที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทยไปสู่คนไทยโดยทั่วไป จนแม้กระทั่งวัดในพุทธศาสนาเถรวาทก็ยังนิยมสร้างรูปเคารพของเจ้าแม่กวนอิมให้พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้สักการบูชา
ดังนั้น การจะเข้าถึงหลักธรรมหรือความเชื่อที่แท้จริงของพุทธศาสนาเถรวาท จึงต้องแยกแยะให้ออกว่า ส่วนใดเป็นของพุทธศาสนาเถรวาท ส่วนใดเป็นของลัทธิความเชื่ออื่น ในทางกลับกัน การศึกษาพุทธศาสนาเถรวาทอย่างลึกซึ้งจะทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า ความเชื่อและพิธีกรรมใดที่เป็นความเชื่อและพิธีกรรมของพุทธศาสนาเถรวาท หรือสามารถเข้ากันได้กับหลักการของพุทธศาสนาเถรวาทอย่างแท้จริง
อ้างอิงเรื่อง
ดร.วัชระงามจิตเจริญ พุทธศาสนาเถรวาท สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยะรรมศาสตร์ กรุงเทพ พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2552
อ้างอิงรูป
พระธรรมาจารย์เซิ่งเหยียน (อรุณ โรจนสันติ แปล) ปุจฉา วิสัชนา พุทธศาสนาที่เป็นสัมมาทิฏฐิ สำนักพิมพ์สุขภาพใจ 14/349 350 หมู่ 10 ถ.พระราม 2 บางมด บางขุนเทียน กรุงเทพ
วิธีวาดดอกกุหลาบดอกนี้อยู่ในบล็อคงานวาดสีน้ำนะคะ
มาทักทายด้วยความคิดถึง
มาชม
เป็นการวิเคราะห์ความเชื่อของคนในสังคมไทยผ่านมือระดับ ผู้ที่เคยบวชเรียนมานานและจบเปรียญธรรม 9 ประโยคหรือด็อกเตอร์ทางพระสงฆ์เลยนะครับ นั้นคือ รศ. ดร.วัชระงามจิตเจริญ...ที่ผมเคยเห็นใน ม.มจร. กรุงเทพ ฯ สมัยยังบวชอยู่ละครับ...
สวัสดีค่ะคุณครูอรวรรณ
ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
ภาพสวยจัง
เป็น บทความที่ให้ความรู้และแง่คิดที่ดีครับ
ขอบคุณมาก
สวัสดีค่ะอาจารย์ umi
อ่านเล่มนี้แล้วได้ความรู้มากค่ะ โดยเฉพาะการวิเคราะเรื่องอัตตา อนัตตา ของท่าน
ขอบคุณที่แวะมานะคะ
สวัสดีค่ะคุณ atozorama
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
ขอบคุณค่ะที่แวะมาค่ะ
ศาสนาพุทธ กับศาสนาพราหมณ์ มีพิธีกรรมที่เอื้อต่อกันครับทั้งโดยตรงและทางอ้อม
จริง ๆ ต้องดูว่าพื้นฐานเดิมของชนชาติแถวนี้เป็นอย่างไร อย่างคนไทยนั้นอิทธิพลเรื่องความเชื่อที่พิสูจน์ไม่ได้มีมาก่อนพุทธจะเข้ามา ทำให้เป็นพุทธที่เจือจางเอามาก ๆ ส่วนถ้าเป็นทางจีน พุทธเข้าไปยุคมหาปราชญ์ขงจื้อ พุทธเองจึงแสดงกำลังได้เต็มที่ พุทธในแนวของเซ็นจึงถือได้ว่าเป็นพุทธที่ยังเข้มข้น และเป็นดาบเล่มใหญ่ที่คนที่เข้าใจได้ จะเหมือนหลุดจากภพจากชาติเหมือนชั่วพริบตา
สวัสดีค่ะคุณ ศุภรักษ์ ศุภเอม
ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
สวัสดีค่ะ ขอบคุณบันทึกนี้นะคะที่ให้ความรู้
เห็นด้วยค่ะ คนไทยเราไม่เน้น ปฏิบัติบูชาบูชาเท่าที่ควร
เน้นบริจาคทานสร้างวัตถุมาก
สวัสดีค่ะคุณแดง
ขอบคุณนะคะที่แวะมา
เลยได้ไปร่วมสุขสันต์วันเกิดกับคุณครูใจดีด้วยค่ะ
ก๊อกๆๆ ทักทายกันวันหยุดค่ะ มาเรียนเรื่องศีล-ธรรมด้วยคนค่ะ
สวัสดีค่ะคุณครูบันเทิง
ขอบคุณค่ะที่แวะมา
ตามไปร้องไมโครโอเกะที่บ้านมาแล้วค่ะ ^_*
*** เห็นด้วยจริงๆที่ว่า....ชาวพุทธไทยส่วนมากไม่ค่อยสนใจในการศึกษาพุทธศาสนาและการปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง
***ที่เห็นส่วนใหญ่ เข้าถึงเพียงพิธรการเท่านั้น
*** ขอบคุณณัฐรดาค่ะ
สวัสดีค่ะพี่ตุ๊กตา
ตอนอยู่ชั้นประถม ดาวได้เรียนพุทธศาสนาเป็นวิชาเรียนวิชาหนึ่ง
ตอนนั้นก็เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า ทำไมพระพุทธศาสนาที่เรียน กับพุทธศาสนาชาวบ้านนั้นแตกต่างกัน...
โชคดีที่ที่บ้าน คุณพ่อซื้อหนังสือธรรมะไว้เยอะ
เลยพอทำให้แยกได้ว่า อันไหนพุทธ อันไหนพราหมณ์ และอันไหนเป็นการนับถือผีค่ะ
ขอบพระคุณสำหรับบันทึกดีๆ นะคะ
สวัสดีค่ะคุณmena
ขอบคุณจังค่ะที่แวะมา
สบู่นมแพะที่บ้านน่าสนใจจังค่ะ
ก่อนจะไปวิจัยลมหายใจเลยแวะมาเยี่ยมโยมพี่ณัฐรดาก่อน..
พุทธศาสนาในสังคมไทยเน้นเปลือกมากกว่าแก่นมานานแล้วขอรับ..
แต่มองอีกมุมบางครั้งเปลือกก็รักษาแก่นเพื่อรอคอยผู้มีปัญญามาใช้ประโยชน์นะขอรับ..
สาธุๆๆกับข้อคิดดีๆมีสาระขอรับ..