ไม่กี่วันมานี้ได้คุยเมลล์กับพี่สาวคนหนึ่งในโลกไซเบอร์ ว่าด้วยเรื่องของศีล 5 จนถึงท่านติช นัท ฮันห์ และวิถีเซน
ก็คุยกันว่า ถ้าโดยพื้นฐานของมนุษย์ทุกคนยึดปฏิบัติในศีล 5 แล้วโลกคงไม่สับสนและวุ่นวายอย่างทุกวันนี้ เพราะศีล 5 มีความหมาย คือ..
แล้วคนเขียนคุยกับพี่สาวถึงท่านติช นัท ฮันห์ ว่า ช่วงนี้กระแสของท่านมาแรง ใคร ๆ ก็คุยกันถึงแต่เรื่องของท่าน แต่ที่คนเขียนชอบที่สุดก็คำสอนของท่านที่ว่า ..
เมื่อเธอมีความรักอย่างแท้จริง
เธอจะไม่แบ่งแยก .. ไม่กีดกัน
ฉันรักเธอ ไม่ใช่เพราะเธอเป็นพุทธ มุสลิมหรือเชื่อในพระเจ้า
แต่เพราะเธอไม่กีดกัน และแบ่งแยกผู้อื่นออกไป
ถ้าเธอไม่มีวิธีการดูแลความรัก
ความรักจะเปลี่ยนเป็นความเกลียด
แต่ถ้าเรารู้จักวิธีเจริญสติ
ก็สามารถเปลี่ยนความเกลียดให้เป็นความรักด้วยเช่นกัน
แต่แท้จริงแล้ว ไม่มีการรักและการถูกรัก
เสน่ห์การสอนธรรมะของท่านอยู่ที่การสามารถนำมาประยุกต์ให้ทันกับยุคสมัยปัจจุบันนี้ได้ ให้เหมาะกับสังคมสมัยใหม่ที่มีความซับซ้อน โดยได้ขยายศีล 5 ให้มีความหมายที่กว้างขึ้น คำสอนของท่านเป็นธรรมมะที่ผสมผสานระหว่างมหายานและเถรวาทได้อย่างลุ่มลึก
ท่านติช นัท ฮันห์ เป็นพระภิกษุชาวเวียดนามที่ต้องอพยพจากแผ่นดินเกิดเพื่อลี้ภัยสงครามเมื่อหลายสิบปีก่อน ปัจจุบันงานเขียนและคำสอนของท่านได้ปรากฏขึ้นมากมาย
เสียดายนักที่กลางเดือนที่แล้วมีพี่คนหนึ่งชวนให้ไปร่วมกิจกรรมอบรมกับคณะของท่านแล้วไม่ได้ไป น่าเสียดายจริง ๆ
คุยกันเรื่อยเปื่อยจนถึงเรื่องของวิถีเซน พี่สาวว่า .. " เมื่อทันใดที่นึกถึงเซน จะนึกถึงภาพคนแก่เคราขาวยาวเฟื้อยนั่งตกปลานิ่ง ๆ ริมแม่น้ำเล็ก ๆ มีกระแสธรรมเย็นใส ณ ที่ตรงริมแม่น้ำเล็ก ๆ นั้นรู้สึกเหมือนมีถ้อยคำแว่ว ๆ ออกมาจากท่าทีสงบเย็นนั้น การกระทำที่ผ่านความสงบนิ่งของจิต ไม่ร้อนรน ไม่มีอคติ ใสเย็นเหมือนน้ำ ร่มรื่นดั่งธรรมชาติรอบกาย สะท้อนร่มเงาของความคิดและการกระทำนั้นพึงถือได้ว่าเป็นกระแสเดียวกับธรรมชาติ ที่แม้ไม่ก่อประโยชน์กับผู้คนให้เห็นเป็นรูปธรรม แต่ก็เกิดประโยชน์กับตัวเอง..อย่างน้อย "
อืมมม .. คนเขียนอ่านเมลล์ของพี่สาวไปแล้วก็นึกตาม ท่าจะจริงแฮะ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
คำสอนของท่านติช นัท ฮันห์
เหมาะที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับสังคมไทยในปัจจุบัน
คุณ ขจิต คะ ..
คุณ รินทร์ คะ ..
นี่ ต้อมก็พยายามที่จะนำคำสอนของท่านมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันด้วยล่ะค่ะ
สวัสดีครับ
อ่านความคิดเห็นของอาจารย์แล้วต้อมอมยิ้มแก้มบานเลย เพราะนั่นล่ะ..ตอนที่ได้รับเมลพี่สาว แล้วเธอบอกว่านึกถึงภาพคนแก่เคราขาวยาวเฟื้อยนั่งตกปลานิ่ง ๆ ริมแม่น้ำเล็ก ๆ มีกระแสธรรมเย็นใส
ทันใดนั้น ความคิดซนๆ ของต้อมก็ครวญเพลงออกมาว่า "ฉ๊านนนนั่งตกปลาอยู่ริมตลิ่งงงง แปลกจายยยเสียจริงปลาไม่กินเหยื่อออออออ...." เหมือนอาจารย์เลย ฮ่าๆ