สวัสดีค่ะ.. หลายวันก่อนคนเขียนได้รับจุลสารปิงฟ้าวิลันดา ฉบับที่ 7 ของเดือน กรกฎาคม พอพลิกไปอ่านหน้าเมนูปิงฟ้าฯ ก็นึกอยากจะร้องกรี๊ด ๆ กระทืบเท้าเร่า ๆ ทิ้งตัวลงไปนอนชักดิ้นชักงอบนพื้น แต่ด้วยความที่คนเขียนเป็นกุลสตรีที่คิดว่าตัวเองน่ารักพอประมาณ ก็เลยต้องระงับอากัปกิริยาอันไม่น่าดูนั้นไว้ ได้แต่ร้องฮึ่มมม ๆ ๆ อยู่ในใจ นึกงอนพี่'วดีเป็นที่สุด (( ป.ล. พี่'วดี ถ้าเข้ามาอ่าน หนูจะบอกให้ว่างอนจริง ๆ นะ ฮึ )) เมนูปิงฟ้าฯ ฉบับนี้สอนทำน้ำพริกอ่องค่ะ ใครเคยลิ้มรสน้ำพริกอ่องบ้างคะ? ไม่อยากจะคุยว่าคนเขียนทำอร่อย โฮ่ะ ๆ ๆ อ๋อ กลับไปยังเรื่องที่คนเขียนงอนกันใหม่ คือว่า จุลสารปิงฟ้าวิลันดา ฉบับที่ 3 ของเดือนมีนาคม ที่คนเขียนได้รับการยัดเยียดให้เป็น บ.ก. จำเป็น คนเขียนก็ถามพี่'วดี ว่า " เมนูปิงฟ้าฯ หนูขอทำน้ำพริกอ่องนะ เพราะหนูทำเป็น ทำอร่อย และชอบทำ อิอิ " แต่ราชา'วดี นักเขียนคนโปรดตอบกลับมาว่า " มีเมนูให้ทำแล้ว เราจะให้ทำจิ้นส้มเงี้ยวล่ะ " .... หง่ะ บังคับกันนี่หว่า <---- ได้แต่บ่นอุบอิบในใจ ไม่กล้าหือท่านค่ะ TT_TT
ตอนแรกงง ๆ ค่ะ ไม่รู้ว่าจิ้นส้มเงี้ยวคืออะไร? แต่พอพี่'วดีบอกว่าก็อันเดียวกับข้าวเงี้ยวนั่นแล ก็ถึงบางอ้อ เออ..แต่ก็ไม่อยากทำอยู่ดี ไม่มีอารมณ์ทำ ลีลา แต่เอ..ถ้าทำไม่ได้ก็เสียชื่อคนเขียนสินะ ฮึดค่ะ พริ้นท์วิธีทำออกมาอ่าน แล้วก็..ไปเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามแม่บ้านของเจ้านายว่า " เคยทำไหม? " พี่เขาบอก " ไม่เคยทำเลย ไปซื้อเอาสิ " เริ่มลังเล เอ.. แอบซื้อ พี่'วดีก็ไม่รู้นี่นา โฮ่ะ ๆ ๆ แต่ไม่เอาดีกว่า วิธีทำก็ท่าจะไม่ยาก อืมมม..แต่ว่าคนเขียนเห็นเลือดไม่ได้นี่สิ เห็นแล้วจะเป็นลมทุกที แต่ก็อยากทำเองนะ เชื่อมั่นในเสน่ห์ปลายจวักของตัวเองมาก ๆ เชื่อว่าหากคนเขียนทำออกมาต้องอร่อยเหาะ
และแล้ว..อีกหลายวันต่อมา ก่อนจะเข้าออฟฟิศก็แวะข้างทาง บอกแม่ค้าว่า " พี่ ๆ มีข้าวเงี้ยวขายไหมคะ? หนูซื้อ 4 ห่อ " แฮ่ะ ๆ ๆ ก็ต้องตัดใจซื้อข้าวเงี้ยวห่อละ 5 บาท ค่ะ แหม ก็บอกแล้วไงว่าคนเขียนเห็นเลือดแล้วจะเป็นลม แล้วข้าวเงี้ยวนี่ส่วนประกอบสำคัญก็คือเลือด นี่นา TT_TT
โฮ่ะ ๆ ๆ ไปถึงออฟฟิศก็จัดแจงเรียกหาแม่บ้านให้หยิบจานออกมา แกะห่อข้าวเงี้ยวลงใส่จาน ตกแต่งด้วยเครื่องเคียง ถ่ายรูปแชะ ๆ ๆ ออกมา ใครไม่รู้ก็คิดว่าคนเขียนช่างเป็นแม่ครัวที่มีความสามารถเหลือเกิน แหม๊ แหม ให้ทำเองก็ทำได้อร่อยนะคะ แต่คงจะไม่ดีถ้าคนเขียนต้องลมจับทุกทีที่ลงมือทำเมนูนี้ (( แฮ่ะ ๆ ๆ หลายคนคงหมั่นไส้ แล้วบ่นอุบว่า แหม มันแถไปได้เรื่อยเชียวนะ ))
ขออนุญาตนะคะพี่'วดี ขอยืมวิธีทำในจุลสารมาแปะไว้ใน blog เน้อ(( ขอในใจ ))
อื้อ ได้ เราไม่ว่าหรอก (( หูแว่ว ๆ คล้าย ๆ จะได้ยินเสียงหวาน ๆ อนุญาตมาในสายลม ถ้าขอนะ เหอ ๆ ๆ -- แปลว่ายังไม่ได้ขอ แต่แหม ก็เจ้าตัวไม่อยู่นี่ จะโทรบอกก็เกรงใจ แฮ่ะ ๆ ๆ ))
เมนูจิ้นส้มเงี้ยว
ไม่ใช่อาหารของคนเมืองหรอกนะคะ แต่เป็นอาหารของคนเงี้ยวหรือจาวไต หรือไทยใหญ่ แต่เนื่องจากแถบภาคเหนือมีชนเผ่าต่าง ๆ มากมายอาศัยอยู่รวมกันมานาน อาหารการกินของคนเมืองเหนือกับของเขาต่างก็คุ้นลิ้นกันดี ภาษาคำเมืองจิ้นส้มแปลว่าแหนม เงี้ยวแปลว่าชาวไทยใหญ่ (( อันนี้พี่'วดี เธอบอกว่าไม่กล้าฟันธงนะว่าแปลว่าแหนมของชาวไทยใหญ่ ))
แต่ในภาษาคำเมืองเหนือเรียกจิ้นส้มเงี้ยว ว่า " ข้าวกั๊นจิ๊น " กั๊นแปลว่าคั้น จิ๊นแปลว่าเหนือ แต่ข้าวกั๊นจิ๊นไม่ใช่ข้าวคั่นเนื้อแต่อย่างใดนะ กลับเป็นข้าวคลุกเลือด
สิ่งที่ต้องเตรียม.. ข้าวสวยสักชาม เลือดสักครึ่งถ้วยตวง ( เลือดไก่ เลือดหมู เลือดวัวก็ได้นะ ตามใจคนทำก็แล้วกัน ) ใส่เกลือลงในเลือดเล็กน้อยและใส่ใบตะไคร้ขยี้แหลก ๆ ลงไปสักขยุ้มเพื่อดับคาว
วิธีทำ..
1. เอาข้าวสวยกับเลือดมาคลุกกัน ห่อใบตองกลัดไม้ เรียงให้ดีในลังถึง นึ่งสัก 10 นาที ให้คะเนว่าเลือดสุก เพราะข้าวสวยเรานั้นสุกอยู่แล้ว
2. เจียวกระเทียม และทอดพริกแห้ง ปอกหอมแดง หั่นชิ้นโต ๆ เป็นเครื่องแนม
วิธีกิน..
พอได้กลิ่นหอม ๆ ก็ยกหม้อลง แกะห่อใบตองออก จะได้ข้าวรูปร่างเป็นห่อแหลม ๆ แข็งตัวพอสมควร เพราะเลือดสุกแล้ว ก็เลยทำให้ข้าวอยู่ทรง แกะใส่จานสวย ๆ ตักกระเทียมเจียวราดลงบนข้าว วางพริกคั่วลงไปตกแต่งให้สวยงาม วางหอมแดงหั่นลงไปแล้วแต่ชอบใจ ก็ลงมือละเลียดชิมหรือจะตั้งหน้าตั้งตาโซ้ยยยได้เลยค่ะ
ป.ล.1 พี่'วดี ก็คือ ราชา'วดี นักเขียนคนโปรด นักเขียนนวนิยายเล่มหนาปึ้กชื่อ ปิงฟ้าวิลันดา ที่คนเขียนซื้อแล้วแต่ยังไม่ได้อ่านเพราะเอาให้พี่สาวสุดที่รักไป
ป.ล.2 จุลสารปิงฟ้าวิลันดา เป็นจุลสารรายเดือน เพื่อการสื่อสารจากเพื่อนถึงเพื่อนชาวปิงฟ้าวิลันดา
สวัสดีค่ะ คุณต้อม
หิว ๆ .... เห็นแล้วน้ำลายหก .. แม้มิได้ปรุงเอง แต่ฝีมือตกแต่ง แล้วเนียนมากค่ะ
... แต่รู้สึกว่าจะน้อยเดียวไปนิด นะคะ ... รำๆ อย่างนี้ จานเดียวคงไม่อยู่ท้องแน่เลยค่ะ คุณนางเอก
... คิดถึงค่ะ ...
จัดภาพได้น่ารับประทานมากเลยค่ะ
พี่ก็เคยทานข้าว"กั้นจิน" ลองดู อร่อยดี แต่ส่วนประกอบเครื่องปรุงจากเลือด ทำให้รู้สึกสยองๆ ลบความอร่อยไปเกือบหมดเลยค่ะ
ขอคุยว่าทำน้ำพริกอ่องอร่อยมากๆเหมือนกัน เวลากลับบ้านที่เชียงใหม่ หลานๆจะขอให้เราทำให้ทาน โดยยอป้าว่า " ป้าทำน้ำพริกอ่องอร่อยที่สุดเลย หนูไม่เคยทานที่ไหนอร่อยเท่าที่ป้าทำ" ป้าคนนี้บ้ายอเลยต้องทำให้ทานค่ะ
สวัสดีค่ะ
จัดดูน่าทานมากค่ะ แต่ไม่เคยทานเลย ว่างๆอาจลองชิมค่ะ
ว๊ายยย!! น้ำลายหกใส่ข้าวเงี้ยวจานสวย ได้ไง ๆ เดี๋ยวตีเพี๊ยะเลย o_O (( รีบขยับจานให้ห่างจากคุณปู และแลซ้าย - หันขวา โอ๊ะ เจอผ้าสีตุ่น ๆ มอ ๆ วางใกล้มือ หยิบมาซับ ๆ น้ำลายคุณปูได้ทันควัน แฮ่ะ ๆ ๆ ))
โฮ่ะ ๆ ๆ เนียนค่ะ เนียน ฝีมือการตกแต่งแสร้งทำเอง (( เราไม่บอกก็ไม่มีใครรู้นี่เนอะ คุณปู )) เนียนนนนนนน จนหาใครเทียมมิได้
แหม..งั้นจะเป็นคุณนางเอกผู้มีเสน่ห์ปลายจวักได้ไงล๊าววว? ก็คุณปูอุดส่าห์เลือกเฟ้นตำแหน่งนี้มาเองนี่ แหม ทำลืม ๆ ๆ
คิดถึงเหมือนกันค่ะ มากกว่าด้วย เอ้า
ขอบคุณค่ะ ที่ชม ปลื้มใจเป็นอย่างยิ่งค่ะ ^_^
อันเมนูที่มีชื่อว่า " ข้าวเงี้ยว " นี้ ต้อมไม่ได้ทานบ่อยค่ะ เนื่องจากพอจะตักเข้าปากทีไร มักจะจินตนาการไปถึงภาพของเลือดสด ๆ ข้นคลั่กทุกที แต่ก็อร่อยนะคะ
น้ำพริกอ่อง ก็เป็นเมนูที่ทำง่ายและทำอร่อยด้วยค่ะ ใช้เวลาไม่นานด้วย ต้อมชอบทำและก็ทำบ่อยมากกว่าเมนูอย่างอื่นค่ะ (( ทำเป็นไม่กี่อย่าง แฮ่ะ ๆ ๆ )) และมักจะคุยโม้กับใคร ๆ ที่ทำไม่เป็นว่า .. เนี่ยนะ เธอเชื่อไหมว่า การทำอาหารทุกอย่างต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ โดยเฉพาะเมนูน้ำพริกเนี่ย โฮ่ะ ๆ ๆ แต่พอมาคิดไปคิดมาก็ เออ.. มันก็จริงนะ เพราะสัดส่วนของเครื่องปรุงที่คล้ายกันและเกือบจะเท่ากัน ก็ใช่ว่าจะทำออกมารสชาติคล้ายกันสักหน่อยนี่เนอะ
คุณคุณนายฯ เป็นสาวนาครเวียงพิงค์หรือคะ? โอ้ ถ้าคุณป้าบ้ายอกลับมาเชียงใหม่บ่อย ๆ อย่างนี้หลาน ๆ สุดที่รักก็ตัวกลมอ้วนพีน่ารักสิคะ ด้วยลิ้มรสน้ำพริกอ่องที่อร่อยที่สุดในโลกอยู่บ่อย ๆ อิจฉาค่ะ
โฮ่ะ ๆ ๆ หิวล่ะสิ .. คุณขจิตคงจะยังไม่เคยได้ลองทานข้าวเงี้ยวใช่ไหมคะ? มาเชียงใหม่ก็ลองหาดู น่าจะมีนะ ต้อมว่า
น้ำพริกอ่อง น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกตาแดง ปกติจะมีขายในตลาดเกือบทุกที่ค่ะ ลองหาดูนะคะ แต่จะหารสชาติอร่อยถูกปากได้หรือเปล่านี่ ต้อมไม่แน่ใจ อิอิ
ของที่บอกว่าจะฝากไปให้ .. วันนี้กำลังนั่งทำอยู่ค่ะ คาดว่าน่าจะทำเสร็จทันเอาไปให้ที่รีสอร์ทนะคะ แฮ่ะ ๆ ๆ ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะลำบาก เพราะคุณเจ้านายบินปร๋อไปเมืองจีนแล้ว
รสชาติของข้าวเงี้ยวก็ หอม ๆ มัน ๆ หวาน ๆ เค็ม ๆ พอกลมกล่อม น่ะค่ะ กลิ่นหอม ๆ จากใบตอง และเมื่อรับประทานกับกระเทียมเจียว หอมแดง พริกแห้งทอดก็อื้มมมมมมม เลยนะ จะแก้เลี่ยนด้วยแตงกวาเย็น ๆ ก็ชื่นใจค่ะ สำหรับแม่ครัวบางท่านก็เอาเนื้อหมูสับละเอียดลงไปผสมด้วยในขั้นตอนการทำข้าวเงี้ยว ตามอัธยาศัยค่ะ อร่อยค่ะ ^_^
ต้อมอยู่เชียงใหม่ค่ะ แต่คงไม่ได้ไปร่วมงานสัมมนาด้วย เสียดายมาก เพราะต้องทำงานค่ะ ไว้ถ้ามีโอกาสในครั้งต่อไปนะคะ
ขอบคุณค่า ^_^
ข้าวเงี้ยวโดยส่วนมากแล้วจะมีกลิ่นหอมและรสชาติกลมกล่อม เค็ม ๆ มัน ๆ หวาน ๆ ถ้าไม่คิดมากว่าส่วนผสมโดยส่วนมากเป็นเลือดก็ อร่อยค่ะ ต้องลองชิมดูน่ะค่ะ บางคนอาจจะชอบหรือไม่ชอบ นานาจิตตัง
เมื่อวานต้อมคุยเอมกับพี่'วดี ต้อมรับอาสาเป็น บ.ก.จำเป็น ทำจุลสารฉบับของเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ล่ะค่ะ เมนูปิงฟ้าฯ ที่จะทำก็คือ ลาบหมู แล้วจะเอามาลงใน blog นี้นะคะ
สวัสดีค่ะน้องเนปาลี
เคยทานแต่ขนมจีนน้ำเงี้ยวค่ะ ชอบอร่อย น้ำพริกหนุ่มก็ชอบ น้ำพริกอ่องยิ่งชอบ อาหารเหนืออร่อยมากชอบๆๆๆ แต่ข้างเงี้ยวนี่ยังไม่เคยทานค่ะ ไปเชียงใหม่รอบนี้ไม่ทราบว่าจะได้มีโอกาสรึปล่าวนะค่ะ
ขนมจีนน้ำเงี้ยว - ต้อมทำอร่อยด้วยล่ะค่ะ แฮ่ะ ๆ ๆ ก็หลายคนที่เคยชิมเขาชมงี้นี่นา ถ้าต้อมทำต้องเป็นเวอร์ชั่นน้ำข้น ๆ อุดมไปด้วยกระดุกหมู หมูบด มะเขือเทศลูกเล็ก ๆ ที่ทางเหนือเรียกว่า " บ่เขือส้ม " นั่นล่ะค่ะ
น้ำพริกหนุ่ม - ที่ต้อมเห็นเขาขายทั่วไป ไม่น่าทานเลยนะคะ มันดูลื่น ๆ แหย่ะ ๆ ยังไงก็ไม่รู้
น้ำพริกอ่อง - นี่ เป็นเมนูที่ทำได้ ทำบ่อย ๆ ค่ะ
ข้าวเงี้ยว - นี่ส่วนมากก็หาซื้อได้ในทั่วไปนะคะ ตามตลาด ห่อละ 5 บาท ค่ะ
อาหารเหนือลำแต๊ ๆ ค่ะ ต้อมเห็นด้วย
โหยยยยยยย .. ต้อมไม่โหดขนาดนั้นหรอกค่ะ แหม แหม๊ เดี๋ยวเถอะ ๆ
ต้อมก็ยังไม่เคยได้ลองทำเมนูนี้นะคะ แต่คิดว่าส่วนมากน่าจะใช้เลือดหมูน่ะค่ะ
มาเชียงใหม่คราวนี้ ต้องลองหาทานนะคะ อาจจะติดใจก็ได้ล่ะค่ะ
เสียดายนะคะ ต้อมอยู่ไกลจากรีสอร์ทที่ว่านี้มาก ไม่งั้นจะสรรหาเมนู "ข้าวเงี้ยว" นี้ ไปให้ทุก ๆ ท่านได้ลิ้มลองกัน
โห ๆ ๆ ได้ทีนี่รีบแซวเลยนะ แหม แหม๊
เขาว่ากันว่า .. (( เขาไหนก็ไม่รู้นะคะ 555 )) คนเลือดกรุ๊ปคุณขจิตนี่มักจะอารมณ์เบิกบาน โอ๊ววว ลั๊นนน ลา แต่ก็โกรธง่าย ลืมง่ายด้วย อิอิ
สวัสดีค่ะคุณ เนปาลี
ขอคุณมากนะคะที่ใช้กำลังใจสมาชิกใหม่
ขนมจีนน้ำเงี้ยวล่ะ เป็นอย่างไรคะ เลยไปฝึกงานที่ลำปาง กินแล้วอร่อยดี แต่มีวันหนึ่ง เขาทำให้กินที่ขอนแก่น (คนเหนือเจ๊า) ทำไมไม่อร่อยเลยไม่ทราบว่ามันขาดอะไร
ด้วยความยินดีค่ะ ^_^
ขนมจีนน้ำเงี้ยว ก็.. น้ำเงี้ยวที่ทานกับขนมจีนก็มีลักษณะคล้าย ๆ แกง น่ะค่ะ ไว้วันหลังต้อมจะเอาวิธีทำมาลงให้ดูกันนะคะ ต้อมทำอร่อยล่ะค่ะ ขอโม้ ๆ ๆ
ต้อมว่าที่เขาทำไม่อร่อยคงเพราะลืม " ใส่ใจ " ลงไปน่ะค่ะ
ขอยืนยันอร่อยสุดดดดดดด ใครไม่ลองไม่รู้ เพราะเราเองก็เพิ่งได้ชิม อร่อยจริงจริง เมนูนี้บันทึกอยู่ในใจแล้ว
มีประโยชน์ของมันไหมคะ
พอดีว่าจะเอาไปทำโครงงานนะค่ะ