ปรีดาแห่งชีวิต


หลายๆ ท่านคงจะเคยตั้งคำถามกับตัวเองหรือกับคนอื่น ๆ ว่า "อะไรคือความต้องการของชีวิต"    ค่ะ  ตัวคนเขียนก็เคยตั้งคำถามนี้กับตัวเองบ่อย ๆ    ใช่สินะ..อะไรกันที่เป็นสิ่งปรารถนาของชีวิตเรา?    สิ่งใดเล่าที่จะมาเติมเต็มชีวิตเราไม่ให้รู้สึกขาดพร่อง?   

จนกระทั่งคนเขียนได้มาอ่านบทความของคุณประภาส  ชลศรานนท์ จากหนังสือชุดคุยกับประภาส  ลำดับที่ 7 เท่าดวงอาทิตย์  ซึ่งเป็นการรวมบทความและจดหมายจากคอลัมน์ "คุยกับประภาส" ในหนังสือพิมพ์มติชนฉบับวันอาทิตย์ ที่เป็นที่รู้จักและคุ้นเคยกันดีของนักอ่าน     หลาย ๆ ท่านคงจะเคยได้ยินชื่อของชายผู้นี้    ผู้ซึ่งคนเขียนมองเขาเป็นผู้ชายที่มีความคิดมหัศจรรย์คนหนึ่งเลยทีเดียว    แต่บางท่านอาจจะมองเห็นเขาเป็นผู้ชายที่มีความคิดบิด ๆ เบี้ยว ๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง    แต่ท่านรู้หรือไม่ว่า   ชายผู้นี้เป็นหนึ่งในสามของผู้ก่อตั้งนิตยสารไปยาลใหญ่และสำนักศิษย์สะดือที่เคยสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับกลุ่มหนุ่มสาวและวงการวรรณกรรมไทยในยุคหนึ่งมาแล้ว

คนเขียนขอนำบางส่วนในงานเขียนนั้นมาเขียนไว้ในบันทึกนี้....

สองพันกว่าปีก่อน    ปราชญ์เฒ่าผู้มีชื่อเสียงยืนยาวมาถึงทุกวันนี้ก็เคยถูกตั้งคำถามจากศิษย์หนุ่ม  "ท่านโสเครติส  สิ่งใดคือความต้องการในชีวิตของข้าพเจ้ากันแน่"  นักเรียนผู้นี้มาจากตระกูลอันมั่งคั่งได้ถามปราชญ์แห่งกรุงเอเธนส์ "เงินทอง  ชื่อเสียง  หรือภรรยาผู้เลอโฉม"    และไม่ว่าโสเครติสจะอธิบายว่า  แต่ละสิ่งที่พูดมานั้นย่อมมีความหมายต่อชีวิตไม่เหมือนกัน และไม่เท่ากัน    มันขึ้นอยู่กับห้วงเวลา    ศิษย์ผู้สงสัยในชีวิตผู้นั้นก็ยังคงพะเน้าพะนอพะนึงโสเครติสเพื่อหาคำตอบให้ได้ดั่งใจตัวเอง

เมื่อทนความรบเร้าไม่ไหว    โสเครติสจึงตัดสินใจจูงมือศิษย์หนุ่มไปยังริมแม่น้ำ    "ท่านจะพาข้าฯ ไปแห่งใด" ศิษย์ถามด้วยความสนเท่ห์

"เจ้าอยากรู้มิใช่หรือว่า สิ่งใดคือปีติแห่งชีวิตเจ้า" โสรเครติสพูดพลางดึงมือลูกศิษย์ลงไปในแม่น้ำ

"ที่นี่มีคำตอบหรือ?"  ศิษย์หนุ่มถามเมื่อทั้งคู่เดินลุยน้ำมาถึงระดับเอว

ไม่ทันขาดคำ  โสรเครติสก็ใช้มือทั้งสองข้างผลักลูกศิษย์ขี้สงสัยจมลงไปในน้ำ    ผลักไม่ผลักเปล่า    หนำซ้ำยังใช้มือกดหัวให้จมน้ำอยู่อย่างนั้น    ศิษย์หนุ่มถูกกดน้ำก็พยายามดิ้นทุรนทุราย    โสเครติสเห็นลูกศิษย์ดิ้นก็ไม่ยอมปล่อย    กลับออกแรงกดมากขึ้น    ครั้นพอคะเนได้ว่าลูกศิษย์ตัวเองเริ่มจะหมดลมหายใจ    โสเครติสก็ปล่อยมือ    ทันทีที่ทะลึ่งพรวดขึ้นมาหายใจได้    ศิษย์จึงรีบต่อว่าต่อขานโสเครติสอย่างหนัก "ท่านอาจารย์จะสังหารข้าฯ หรืออย่างไร?"

"ตอนที่ข้าเอามือกดหัวท่านไว้    ท่านหายใจออกไหม?"  โสเครติสถามหน้าตาเฉย    ลูกศิษย์รีบตอบ "ท่านวิกลจริตหรือเปล่า..ท่านโสเครติส    ใครจะไปหายใจออก"

โสเครติสรุกต่อ "แล้วตอนที่ท่านกำลังจะหมดลม    ท่านต้องการสิ่งใดมากที่สุดในชีวิต?"  คำถามนี้ไม่ว่าใครก็ตอบได้    ว่าแล้วโสเครติสก็ตอบเอง "อากาศใช่ไหม?  และตอนนี้ท่านได้มันแล้วนี่    ท่านดีใจไหมที่ได้อากาศหายใจ    แล้วทีนี้ท่านรู้หรือยังว่าชีวิตต้องการอะไร?"

ผ่านมาอีกพันกว่าปี....  ปราชญ์อีกคนหนึ่งชื่อ นัสรูดิน    ก็ได้ทำอะไรแปลก ๆ เพื่อตอบคำถามของผู้ต้องการพบกับความปรีดาแห่งชีวิต   นัสรูดินเป็นปราชญ์ที่บางคนให้คำจำกัดความที่น่างุนงงว่า "คนโง่ที่ฉลาดที่สุด"    ด้วยเป็นคนที่มีวิธีคิด  วิธีพูด  ที่ผิดแผกจากผู้คนทั่วไป    เรื่องเล่าของนัสรูดินมักเป็นเรื่องเล่าที่เล่าต่อกันมาปากต่อปาก    รวมทั้งเรื่องนี้ด้วย

วันหนึ่งนัสรูดินเดินทางมาพบกับชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ทางเท้า    มือข้างหนึ่งหยิบทรายขึ้นมาโปรยเล่นอย่างไร้จุดหมาย    "เธอเป็นอะไรหรือ?"  นัสรูดินถาม  "ดูเธอหดหู่มาก    เกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือ"

"เปล่าเลย  ชีวิตข้าฯปกติดี"  ชายหนุ่มตอบ  "ปกติดีเกินไปด้วยซ้ำ    ข้าฯมีงานที่ดี  มีชีวิตที่สุขสบาย  แต่มันต้องมีอะไรมากกว่านี้สิ"  ชายหนุ่มยังคงใช้มือกอบทรายขึ้นมาโปรยเล่น  "ข้าฯ เดินทางท่องเที่ยวไปทั่ว  เพื่อค้นหาว่าชีวิตมันต้องมีอะไรมากกว่านี้ที่จะทำให้ข้าฯ รู้สึกปีติ  หรือท่านรู้ว่าอะไรคือความยินดีของชีวิต"

นัสรูดินไม่ตอบโต้สิ่งที่ชายหนุ่มคร่ำครวญ    เขามองไปที่กระเป๋าสะพายหลังที่ชายหนุ่มถอดวางพิงไว้ข้างตัว    แล้วนัสรูดินก็หยิบกระเป๋าของชายหนุ่มขึ้นมา    แล้วก็เอามาสะพายไว้ที่หลังตัวเอง    ขณะที่ชายหนุ่มกำลังนึกว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง    นัสรูดินก็ออกวิ่งไปพร้อมกับกระเป๋าที่สะพายอยู่ข้างหลัง

"ท่านจะเอากระเป๋าข้าฯ ไปไหน?"  ชายหนุ่มร้องตะโกน    นัสรูดินไม่ฟัง    ยังคงวิ่งต่อไป    ชายหนุ่มรู้สึกประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก    และทันทีที่พอจะตั้งสติได้    เขาก็รีบออกวิ่งตามนัสรูดินไป    "เอากระเป๋าข้าฯ คืนมา"  ชายหนุ่มวิ่งไปพลาง  ตะโกนไปพลาง

ด้วยความเป็นคนที่รู้จักถนนหนทางแถวนั้นเป็นอย่างดี    นัสรูดินจึงวิ่งลัดเลี้ยวเข้าซอกเข้าซอยอย่างชำนาญ    ส่วนตัวชายหนุ่มก็ไม่ละความพยายามที่จะวิ่งให้ทันนัสรูดินให้ได้    แต่ดูเหมือนนัสรูดินจะแกล้ง    เพราะทันทีที่ชายหนุ่มทำท่าจะวิ่งทัน    นัสรูดินก็จะเร่งฝีเท้าเข้าตรอกหายไปอย่างรวดเร็ว    แต่เมื่อไรที่นัสรูดินทิ้งห่างชายหนุ่มมากเกินไป    นัสรูดินก็จะชะลอฝีเท้าลงให้ชายหนุ่มเจ้าของกระเป๋าเห็นหลังไวๆ    หลังจากวิ่งวนไปวนมาอยู่พักใหญ่    นัสรูดินก็วิ่งมาถึงจุดเดิมที่ชายหนุ่มคนนั้นนั่งอยู่    แล้วจู่ ๆ นัสรูดินก็วางกระเป๋าสะพายหลังของชายหนุ่มลงที่เดิม    แล้วก็ไปแอบซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้บริเวณนั้น

เมื่อชายหนุ่มมาถึง และได้เห็นกระเป๋าตัวเองวางอยู่    สีหน้าของชายหนุ่มแสดงความยินดีอย่างออกนอกหน้าที่ได้พบกระเป๋าของตัวเองที่ดูเหมือนเพิ่งถูกวิ่งราวไปเมื่อกี้    เขาเอากระเป๋าขึ้นสะพายหลังและทำท่าเหมือนจะกระโดดด้วยความปรีดา    นัสรูดินซึ่งแอบมองอยู่เห็นดังนั้น    ก็ค่อยๆ เดินเลี่ยงหลบออกไป    เรื่องเล่าของนัสรูดินก็จบลงเพียงนี้....

อ่านจบแล้ว    ท่านผู้อ่านคิดว่าปราชญ์ทั้งสองท่านและรวมไปถึงคุณประภาสต้องการที่จะบอกอะไรกับเราคะ?    ^_^

หมายเลขบันทึก: 143215เขียนเมื่อ 31 ตุลาคม 2007 10:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 21:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (53)
วัสดียามเช้าเจ้า....คุณต้อมนักปรัชญาสาวน้อย อิ อิ พี่จะบอกว่าอ่านสนุกดี แสดงว่าพิมพ์ภาษาไทยเก่ง หากพี่เขียนยาวอย่างนี้พิมพ์ จิ้มๆๆน่ะเป็นชั่วโมง อ่านแล้วไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี แต่จะส่งหนังสือเล่มบางๆ มาให้ยืมอ่านหนึ่งเล่ม หากสนใจเรื่องแบบนี้ หนังสือเล่มที่อยากให้อ่านจะเข้ากั๊น เข้ากัน กับความปรีดาแห่งชีวิตค่ะ
  • มาเติมอาหารสมองค่ะ
  • คนเรามักแสวงหาความสุข....แต่ทำไมมันถึงได้หนีห่างจากเราไปเรื่อยๆ.....ยิ่งไล่..มันก็ยิ่งหนี....
  • หยุดอยู่กับที่....ความสุขอยู่รอบๆ ตัวเรานี่เอง
  • ขอบคุณค่ะ
  • สวัสดีเจ้า พี่นุช..
 เมื่อคืนต้อมอ่านหนังสือของคุณประภาสเจอบทความนี้พอดี  ก็เลยตั้งใจว่าจะต้องนำมาเขียนบันทึกให้ได้    เพราะคงมีอีกหลายๆ ท่านที่เคยตั้งคำถามกับตัวเองเหมือนที่ต้อมก็เคยคิด    ว่าแล้ว..พอเช้านี้มาถึงออฟฟิศก็หาช่วงเวลาว่างอันน้อยนิดที่มีรีบพิมพ์ ด้วยประการล่ะฉะนี้    เพราะหากไม่รีบทำ    ปล่อยไว้ให้ผ่านไปหลาย ๆ วัน    ต้อมก็จะลืมค่ะ    ยิ่งอยู่ในช่วงวุ่นวายของงานประจำและงานอดิเรกแบบวันนี้ด้วยแล้ว    อยากจะร้องแง ๆ อยู่เหมือนกันค่ะ  พี่นุชขา ขอกราบขอบพระคุณพี่นุชล่วงหน้าด้วยเลยค่ะ    และหนังสือ "หลวงปู่ฝากไว้"  บันทึกคติธรรมและธรรมเทศนาของ หลวงปู่ดูลย์  อตุโล ที่พี่นุชกรุณาส่งมาให้พร้อมหนังสือ "ปริศนาแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่น" นั้น  ต้อมยังไม่มีโอกาสได้นั่งอ่านดี ๆ เลยค่ะ   รอภารกิจตัวอวบอ้วนของอาทิตย์นี้ให้ผ่านล่วงไปคงจะมีเวลาได้นั่งละเลียดอ่านด้วยใจที่เป็นสมาธิมากกว่านี้    เชียงใหม่เริ่มหนาวแล้วนะค๊า   และต้อมก็ใช้วิธีจิ้มๆ เอาเหมือนกันค่ะ  ^_^
  • อ่านแล้วสนุกดีน้องต้อม
  • ชอบๆๆ
  • อยากอ่านอีก
  • ได้หนังสือจากพี่นุชด้วยดีจังเลย
  • มาช่วพิสูจน์อักษร
  • ยืนยาวมาถึงทุหวันนี้ก็เคย
  • อิอิอิ
  • ไปทำงานก่อนนะ

 ได้มีโอกาส เข้ามาแสวงหาความรู้จากคุณต้อมอีกแล้วนะครับ ผมเองก็เคยรู้สึกแบบเดียวกับที่คุณต้อม นำมาเล่า แต่ถ้าเราไม่เคยได้เจอได้อ่านหรือได้เห็น มาก่อนเราก็อยากที่จะรู้นะครับ ว่าจริงๆแล้วเราต้องการอะไร และอะไรสำคัญต่อการมีชีวิตของเรา ของบางอย่างเราคิดว่ามันจำเป็นที่สุดและต้องการมันมาก แต่ที่จริงแล้วมันอาจที่มีค่าน้อยกว่าสิ่งที่เราไม่เคยมองเห็นค่าของมันด้วยซ้ำ ดีครับถ้าคุณต้อมเจออะไรดีๆที่มันมีประโยชน์ก็นำมาเล่าให้ฟังอีกนะครับ=^_^=

  • สวัสดีค่ะ คุณครูกั๊ต..

ค่ะ  ต้อมว่าคนเรามักจะไม่รู้สึกพอในสิ่งที่ตนเองมีอยู่  ^_^   

เคยได้ยินไหมคะ ที่เขาว่ากันว่า ความสุขนั้นคล้ายผีเสื้อ    หากเราวิ่งไล่จับ..มันก็จะโบยบินหนีไปให้ไกลจากเรา    แต่หากเพียงเราหยุดอยู่นิ่ง ๆ มันก็จะบินเข้ามาจับใกล้เรา

สวัสดีวันพุธค่ะ  ^_^

  • ท่านพี่ขจิต โจ บา เอ เจ้าคะ..

ต้อมรีบไปแก้ตัวอักษรแทบจะในทันทีที่ท่านพี่บอก  แล้วก็พิสูจน์ตัวอักษรท่านพี่กลับคืน  อิอิ 

นี่ของท่านพี่เจ้าค่ะ  >>  มาช่วพิสูจน์อักษร

  • คุณหมอกรำเพย คะ..
 สวัสดีค่ะ  สวัสดี  ^_^มนุษย์เราก็ชอบตั้งคำถามแบบนี้ทำนองนี้ หรืออาจจะต่างกันออกไป    หากได้คำตอบก็ดีนะคะ    และดูเหมือนต้อมจะเคยได้อ่านมาจากที่ไหนก็ไม่รู้    พระพุทธองค์ท่านสอนไว้ว่า จงอย่าเชื่อในอะไรที่พิสูจน์ไม่ได้ (( หากสมองน้อยๆ ของต้อมจำถ้อยความมาบอกเล่าผิดพลาดไป    ก็ขออภัยคุณผู้อ่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะเจ้าค่ะ  ^_^   )) ขอบคุณค่ะที่เข้ามาทักทายกัน ..
  • น้องต้อมคะ 
  • บางครั้งคนเราก็ไม่รู้ว่าอะไรที่มีความสำคัญชีวิตเรา
  • อ่านแล้วนึกถึง  บันทึกนี้ค่ะ
  • สวัสดีจ้าน้อง เนปาลี
  • (ทำไมต้อง เนปาลี อิอิอิ  มีเงื่อนงำ)
  • นิทานสนุกมากค่ะ..
  • อ่านจนเหนื่อยแทน นัสรูดินเลยนะ
  • อิอิอิ
  • สวัสดีเจ้าน้องต้อม
  • มาอ่านเรื่องดีๆ  พี่ก็ชอบอ่านหนังสือของประภาสฯ เหมือนกัน
  • มาบอกด้วยว่าได้แนะนำคุณครูเมษา ให้มาที่บล็อกของน้อง
  • เปิ้นชอบประดิษฐ์ประดอยของน่ารักๆ เหมือนกันเลยเจ้า

สวัสดีครับคุณเนปาลี

           เรื่องราวประมาณนี้ผมชอบอ่านมาก ๆ ครับ มันตอบคำถามส่วนใหญ่ที่วนเวียนอยู่ในหัวมนุษย์ทั่ว ๆ ไปได้ดีครับ  รวมทั้งผมด้วย ความสำเร็จ

  • นั่นสิคะน้องต้อมเรายังต้องการอะไรมากไปกว่านี้ละ
  • -----------------------
  • ขอบคุณ...ดิน น้ำ ลมไฟ ที่ให้ความสมบูรณ์ แก่มวลมนุษย์
  • ขอบคุณที่ตื่นขึ้นมามีลมหายใจ...อีกครั้งในวันใหม่
  • ยิ้มรับตะวันกับยิ้มให้สรรพสิ่งที่พบเจอในแต่ละวัน
  • -------------------
  • ไม่ทราบว่าใครเคยเขียนไว้ว่า....เวลาที่เราท้อแท้...หมดกำลังใจให้มองคนที่ลำบากกว่า...เราจะได้รับรู้ว่าเราแสนจะโชคดีเพียงใด
  • พี่ว่าความยินดีปรีดาและความสุขเล็กๆมีมากมาย....อยู่รอบๆตัวเราแต่เรามักมองไม่เห็นคะ...เพราะเรามัวแต่เร่งรีบ...
  • เหมือนพี่ตอนนี้ไงยังไม่ทำการบ้านเลย...คนอื่นทำกันหมดแล้ว...ว้ายการบ้านพี่นุชลอกใครไม่ได้ด้วย...
  • การบ้านของน้องต้อมได้แล้วค่า...ไว้พี่หายยุ่งจากพวกลิงรุ่นใหม่แล้วจะรีบทำให้นะจ๊ะ...
  • อิอิ...ลิงรุ่นนี้เป็นลิงนักร้อง-นักดนตรีด้วยละ...เอแล้วพี่จะเอาอยู่ไหมนี่พวกศิลปินนี่เอาใจยากซะด้วยสิ...เห็นท่าจะต้องตุนของเล่นไว้ลอกล่อเยอะๆ...ตัวไหนพอมีแววพี่จะส่งประกวด AF เลยดีไหมจ๊ะ....
  • อึ้งๆๆ
  • สงสัยรีบพิมพ์ไปหน่อย
  • ฮ่าๆๆ
  • ว่าแต่เขา ขจิต(อิเหนา) เป็นเอง
  • สวัสดีค่ะ คุณครูพี่รักษ์..

ค่ะ  จริงๆ แล้ว เราไม่รู้อะไรเลย

อ่ะๆๆ  เสื้อสีชมพูหว๊านนน - หวาน เนอะ ^_^

  • สวัสดีค่ะ คุณหมอ กะน้องหอยโข่ง..

ทำไมต้องเนปาลี  ก็เพราะต้อมชอบไงล๊าววว  อิอิ   ชอบค่ะ  ภูมิทัศน์กับอะไรมากมายของเมืองเนปาล    และเนปาลีก็หมายถึงชาวเนปาล  รวมถึงภาษาเนปาลีค่ะ    แต่ต้อมจะสะกดต่างไปจากคนอื่น คือ naepalee  อันนี้พิมพ์ผิดแต่ต้อมชอบ  เป็นความชอบส่วนตัว  อิอิ  ก็เวลาพิมพ์ nae- ดูสวยกว่าพิมพ์แค่ ne- นี่คะ   คุณหมออย่าขำความคิดเบี้ยวๆ ของต้อมน๊า  นะนะน๊า

ที่ถูกคือ  ประเทศ Nepal    / ชาว Nepalese    / ภาษา Nepali น่ะค่ะ

  • หวัดดีอีกทีจ้าน้องต้อม
  • ที่ถามนี่ ไม่ใช่ไม่รู้นะจี ว่า เนปาลีแปลว่าอะไร
  • พี่หมายถึง "ทำไม" ต้อง "เนปาลี" อ่ะค่ะ
  • อิอิอิ
  • ยังไม่เฉลยเงื่อนงำเลยนะจ๊ะ
  • เมื่อก่อน พี่ก็เคยอยากเป็น เนปาลี
  • ไปหลงเสน่ห์ คน เนปาลีเข้าให้น่ะจ้า
  • อิอิอิ

 

  • เจ้าหน้าที่เทศบาล
  • ให้มาตามว่า
  • ใครทำชิงช้าพัง
  • P
  • มาส่งไวรัส ความคิดถึง อีกรอบค่า 
  • ก็อย่างที่ท่านโสเครติสกล่าวไว้ล่ะค่ะ ความต้องการของชีวิต แต่ละสิ่งย่อมมีความหมายต่อชีวิตไม่เหมือนกัน และไม่เท่ากัน    มันขึ้นอยู่กับห้วงเวลา   

สวัสดีค่ะ คุณเนปาลี ชอบคำว่า คนโง่ที่ฉลาดที่สุด ก็คือคนที่รู้ว่าตัวเองไม่ควรประมาท ทำอะไรต้องมีสติอยู่เสมอ ออกไปทางธรรมะ+แนวปรัชญา เป็นสัจธรรมมากกกๆๆๆ

สวัสดีครับ คุณ เนปาลี  เป็นครังแรกครับที่เข้ามาเยี่ยม

  • ชื่นชมครับที่หยิบเอาข้อเขียนดี ๆ มาเล่าต่อ
  • คุณ ประภาส เป็นนักเขียนประเภท ร่ำรวยเรื่องเล่า มุมมองหลากหลาย ช่างสังเกต ที่น่าสนใจ คือ เป็นคนประเภทชอบตั้งคำถาม  ท้ายสุด น่าจะเป็นคนที่รุ่มรวยมุมคิด บางข้อเขียนเราอ่าน ๆ ไป จึงได้คิดว่า "คิดได้ไง"
  • ผมเข้าใจว่า คุณ ประภาส เขียนเรื่องนี้เพื่อจะบอกเราว่า "ทุกๆ วินาที เรามีสิ่งทีชีวิตควรจะยินดีปรีดาอยู่ตลอดเวลา "
  • ขอบคุณครับ และขออนุญาตมาเยี่ยมเยียนเรื่อย ๆ น่ะครับ

สวัสดีค่ะ

คุณต้อมถามว่า อะไรคือความปรารถนาของคนเรา ที่จะมาเติมเต็ม ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตไม่พร่อง

ความเห็นส่วนตัวย่อๆ สำหรับตัวเองเท่านั้นนะคะ....เรื่องนี้ จริงๆ เป็นเรื่องยาวค่ะ พูดกันได้นานๆ

ปัจจัยที่นำไปสู่ความสุขโดยตรงของคนเรา นอกเหนือจากลมหายใจที่มีอยู่

1. เริ่มจากความสัมพันธ์ที่ดี  ระหว่างสมาชิกในครอบครัว

2.คือเรื่องงาน  โดยเฉพาะงานที่เมื่อทำแล้วรู้สึกว่าตนเองมีประโยชน์และมีคุณค่าต่อสังคมหรือบุคคลอื่น จะทำให้เรามีความสุขเพิ่มมากขึ้น

 แต่เมื่อไรตกงาน ระดับความสุขจะลดลง ซึ่งไม่ใช่เพราะรายได้ลดลง แต่เกิดจากความรู้สึกในประโยชน์และคุณค่าของตนเองลดลง

3.สังคมรอบๆ ตัวและเพื่อนร่วมงาน  ถ้าเรามีความรู้สึกว่าคนรอบๆ ตัวเรามีมิตร ที่สามารถที่จะไว้วางใจได้ จะทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น

 มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งถามว่า  ท่านสามารถไว้ใจคนรอบข้างได้หรือไม่?

คำตอบจากประเทศต่างๆ ในโลกนี้ต่างกันมากเลย  ในประเทศบราซิลนั้นอยู่ที่ 5% ส่วนประเทศนอร์เวย์อยู่ที่ 64%

นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่ผู้วิจัย แกล้งทำกระเป๋าเงินตกลงบนท้องถนน โดยมีชื่อที่อยู่ของเจ้าของกระเป๋าอยู่ และพบว่าในประเทศที่มีอัตราการส่งกลับคืนสูงสุดนั้น เป็นประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย เช่นเดียวกัน 

 อยากจะรู้เหมือนกันว่า อัตราการส่งคืนในเมืองไทยจะเท่ากับเท่าใด

4.เป็นเรื่องของสุขภาพ  สุขภาพกลับไม่ได้เป็นปัจจัยอันดับแรก ที่ส่งผลต่อความสุขของคน

เข้าใจว่าเป็นเพราะเราสามารถปรับตัว และยอมรับต่อสุขภาพของเราได้เป็นอย่างดี เช่น คนเป็นเบาหวาน ความดัน ก็ยังมีความสุขดี ถ้าปัจจัยความสุขอื่นๆ ไม่บกพร่อง

พี่มีญาติคนหนึ่ง  ใน 1 เดือนหาหมอ 25 วัน เขาก็มีความสุขและอารมณ์ดี อาจเป็นเพราะชอบคนมาดุแลเอาใจ

5.ความอิสระส่วนตัว หรือ Personal Freedom  มีคนที่เขียนหนังสือที่เป็นนักเศรษฐศาสตร์คนหนึ่ง เขามองเรื่องของ Personal Freedom เป็นเรื่องมหภาค

 จากการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างประเทศต่างๆ จะพบว่าในประเทศที่ประชาชนมีสิทธิมีเสียง รัฐบาลที่มีคุณภาพ (ปราศจากการทุจริตและระบบการบริการที่มีประสิทธิผล) ประเทศปราศจากความรุนแรง ประชาชนในประเทศนั้น จะมีความสุขมากกว่าประเทศที่มีลักษณะตรงข้าม 

5.เรื่องค่านิยมของแต่ละคน (Personal Value หรือ Philosophy of Life) ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

 เนื่องจากความสุขของแต่ละคน ย่อมจะมาจากตัวเราเอง  คนเราจะมีความสุขเพิ่มมากขึ้น เมื่อพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อไม่เปรียบเทียบกับผู้อื่น เราจะพบความสุขจากภายในตัวเราเอง

นำรูปจากเวียดนามมาฝาก ไปเที่ยวมาเมื่อ 3 ปีที่แล้วค่ะ

 

 

 

 

น้องต้อมค่ะ ขอบคุณที่นำข้อคิดดี ๆ มาเขียนเล่า น้องต้อมเป็นสาวน้อยใจดีน่ารักนะค่ะ ขอบคุณคะคุณ sasinanda ที่แบ่งปันแง่มุมปัจจัยที่นำไปสู่ความสุข

แอบย่องมาถามคะ พรุ่งนี้วันที่ 3 แล้วนะค่ะ

แอบย่องมาอีก จะไม่อยู่ตั้ง 5 วันคะ ก็เลยหอบห่อความคิดถึงมาหอบใหญ่ และยังมีอีกยังไม่หมด หอบมาฝากไว้ก่อน ค่อย ๆ แกะนะค่ะ เกรงว่าจะปล่อยไปกับลมหนาว

  • น้องต้อม...
  • มาด้วยความคิดถึงค่ะ.....
  • ช่วงนี้เวลาน้อยจัง...เข้าweb ก็ได้นิดหน่อย....กำลังง่วนอยู่กับงานค่ะ....
  • คิดถึงน่ะ
  • แวะมาบอกว่ากลับบ้านแล้วคะ
  • เอาการบ้านไปอ่านด้วย
  • อิอิ..บาย
  • สวัสดีค่ะ
  • มีแต่คนคิดถึงมากันเต็มบ้านเลย
  • น้องสาวไปไหนนะ
  • แต่ก็ไม่เป็นไรคนกันเองทั้งนั้น
  • ไม่เกรงใจละนะ  เดี๋ยวหาอะไรทานก่อน
  • เมนู ไม่ขึ้นหลายวันแล้ว ยังพอมีเหลือในตู้เย็นหรือป่าวน๊า.......
  • ฮือๆๆๆๆ
  • น้องต้อมหายไป
  • ใครพบช่วยส่งคืน
  • gotoknow ด้วยครับผม
  • มาช่วย อ.ขจิตประกาศ
  • น้องต้อม พรุ่งนี้ลงสมัครเสร็จแล้วรีบมาเขียนบันทึกเน้อ
  • คนเข้าคิวรออ่านเพียบ
  • อ้อห้ามทวงการบ้านพี่ด้วย..อิอิยังไม่ได้ทำ
  • พี่นารี
  • น้องต้ม เอ้ย น้องต้อมหายไป
  • ฮือๆๆๆๆ
  • ก็อก ก็อก ก็อก
  • น้องต้อมไม่อยู่
  • น้องขจิตขาเรามายึดบ้านน้องต้อมซะเลยดีไหม
  • เอหรือมัวแต่ยุ่งหาเสียง
  • น้องต้อมขา...พี่ๆคิดถึงเจ้า...
  • อิอิ...น้องต้อมไม่ยอมออกจากบ้าน
  • ยึดบ้านดีกว่า...นี่เลยแปะหัวใจมนุษย์ต่างดาวใว้ข้างฝาบ้านเลยฮ่าๆ
  • Love
  • คิดถึงคะ
  • น้องต้อมค่ะ.......
  • ตามน้องอ๊อด (คุณnaree..).มาแอบดูหัวใจมนุษย์ต่างดาวค่ะ.....รูพรุนเลย..สงสัยโดนแทงหัวใจเน๊าะ.....แต่สวยจังเลย....(เจ็บป๊ะ จ๊ะ...)
  • .....วันนี้งานน้องต้อมคงยุ่งตั้งแต่เช้าเลยนะซิน่ะ.....อย่าลืมพักผ่อนบ้างนะจ๊ะ
  • คิดถึงจ๊ะ.....อ้อ!...  ออนเอ็มไม้ได้ค่ะช่วงนี้ระบบเป็นไงไม่รู้....ครูหญ้าบัวเปิดเอ็มไม่ได้เลยค่ะ...ฮือ...ฮือ..ใครแนะนำที....
  • แวะมาเยี่ยมในวันที่แสนจะวุ่นวาย
  • อิอิ..ตอนนี้ทุกคนหัวเป็นน็อตแล้วตัวจะเป็นอะไร..ฮ่าๆ

 P
อ้อยควั้น

  • สวัสดีค่ะน้องต้อม
  • พี่แวะตามมาอ็อดมาค่ะ อิอิ
  • ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณเนปาลี ยุ่งอยู่ใช่ไหมค่ะ หายเงียบไปนะค่ะ คิดถึงค่ะ

สวัสดีค่ะ ทุกๆ ท่าน  ^_^   ช่วงนี้ภารกิจรัดตัวอวบอ้วนเหลือเกินค่ะ  ก็เลยทำให้ห่างหายไปจากบันทึกบ้าง

  • คุณหมอกาแฟกับน้องหอยโข่ง .. ธุค่า  ทำไมต้อง"เนปาลี"  ก็เพราะอยากลองไปใช้ชีวิตอย่างคนเนปาลีบ้างล่ะมั้งคะ  อิอิ 

 

  • ท่านพี่ขจิต .. ตอนนี้เจ้าหน้าที่เทศบาลเขาสืบทราบมาว่า ท่านพี่น่ะจ้างวานใครก็ไม่รู้มาเลื่อยเอาเหล็กไปขายอ่ะดิ  อิอิ  ระวังเถอะ  เขาจะไปจับเข้าซังเต  โทษฐานทำให้ต้อมไม่มีชิงช้านั่ง

 

  • คุณทะเลดาวคะ .. ความต้องการของคนเรามันปรับเปลี่ยนไปได้ตามปัจจัยโดยรอบ เนอะๆ    คิดถึงค่ะ  คิดถึง

 

  • คุณ berger0123 คะ .. คนที่มีสติ นับเป็นคนที่มีปัญญา ค่ะ    
  • สวัสดีเจ้า พี่ดวงพร.. ต้อมว่าความคิดของคุณประภาสเปิ้นมีความน่าสนใจนะเจ้า  เรื่องโน้น - เรื่องนี้ เปิ้นก่อสามารถนำไปแตกยอดความคิดได้หลากหลาย  เป๋นคนตี้เก่งแต๊เก่งว่า    และขอขอบคุณเจ้าที่แนะนำบันทึกของคุณครูเมษาฮื้อ  ขอบคุณเจ้า

 

  • สวัสดีค่ะ  คุณสุมิตรชัย ..  ค่ะ  มนุษย์เรานี่ส่วนมากก็เจ้าปัญหาทั้งนั้นนะคะ   ชอบคิดโน่น - คิดนี่  ชอบค้นหาในคำตอบ  รวมทั้งต้อมด้วยเหมือนกันค่ะ 

 

  • คุณพี่ naree .. ต้อมว่าคนเรามีความต้องการได้เรื่อยๆ ไม่มีจำกัดเลยนะนั่น    จะมากหรือน้อยก็ต่างกันไป    และต้อมเห็นด้วยค่ะว่าความยินดีปรีดาและความสุขเล็กๆ มีอยู่รอบๆ ตัวเรา    เพียงแต่บางทีเราละเลยไปก็เลยมองไม่เห็น  วิ้ววว..
  • สวัสดีค่ะ  คุณภีรตา .. ขอบคุณนะคะที่เข้ามาทักทายกัน    ต้อมนิยมความคิดของคุณประภาสเหมือนกันค่ะ    หลายๆ ครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมหนอ ผู้ชายคนนี้ถึงได้มีมุมมองตลอดจนเรื่องเล่าได้มากมายและหลากหลายได้ถึงเพียงนี้    และ  ค่ะ..ต้อมเองก็เข้าใจว่าคุณประภาสต้องการที่จะบอกอะไรกับเรา

 

  • สวัสดีค่ะ  คุณพี่ศศินันท์ ..  ขอบคุณค่ะ  ที่มาบอกเล่าแบ่งปันกันถึงปัจจัยที่นำเราไปสู่ความสุข    อันนอกเหนือไปจากการที่ได้มีลมหายใจอบู่บนโลกใบนี้     ความสุขของคนเรามีเยอะแยะมากมายและหลากหลายนะคะ    เพียงแต่บางครั้งเราไม่คาดคิดเท่านั้นเอง   ^_^
  • เย้...น้องต้อมมาแล้ว..ทุกคนคิดถึงคะ
  • อิอิกว่าพี่จะฝ่าด่านเน็ตล่ม
  • เอ๋ย...ฝ่าโจทย์เอาบันทึกใหม่ขึ้นได้ก็แทบแย่
  • Have a nice day นะคะ
  • พี่หมูคะ ..  คิดถึงงงงงงงงง ค่ะ  ความสุขของต้อมอีกอย่างหนึ่งก็คือการได้คิดถึงพี่หมู อิอิ  อ้อนๆๆ เสียเลย   ได้อ้อนพี่หมูแล้วมีความสุข

 

  • ธุคุณครูหญ้าบัว ค่ะ ..  คิดถึงค่ะ  เหมือนเราไม่ได้คุยกันมาเป็นระยะเวลาชาติหนึ่งได้  TT_TT  ออนเอมก็ไม่เจอะเจอกันเลยนะคะ    รีบๆ หาเวลามาออนเอมไวๆ นะคะ ครูขา

 

  • คุณพี่ naree .. กลับบ้านดีๆ นะคะ  อิอิ  ต้อมรู้ว่าพี่มีหน้าตาเป็นอาวุธ 
  • ครูรักษ์ ขา..  วันนี้ต้อมตะกายมารับความคิดถึงจากทุก ๆ ท่าน ได้แล้วค่ะ  ^_^   อ่าวววๆๆ  นี่ตกลงมาหาต้อมเพราะคิดถึง หรือมาหาอะไรหม่ำกันแน่  โหยยย..อุตส่าห์ดีใจ  ฮึ

 

  • ท่านพี่ขจิต .. ที่ ฮือๆๆๆๆ นี่ ดีใจใช่ไหมล๊าววว  หนูหายไปน่ะ   และถ้าวันไหนเรียกชื่อเค้าไม่ผิด  จะให้รางวัลนะเออ  ด้วยการสนับสนุนจากคุณพี่นารี อิอิ  เป็นมะเหงก 2 โป้ก 

 

  • คุณพี่ naree ขา .. ป่านนี้การบ้านที่ต้อมให้ไปมิกองสุมล้นโต๊ะพี่แล้วรึ?   นี่ที่รอส่งไปให้อ่านมีอีกเพียบบบบบบบ   รู้หรือไม่?
  • ครูหญ้าบัว ขา..  ออนเอมไม่ได้ลองลบของเก่าทิ้ง  ลงโปรแกรมใหม่ดีกว่า อิอิ  ลองดูนะคะ  แต่หากยังไม่ได้ก็ไปถามพี่อ๊อดค่ะ  haha  น้องต้อมก็โลว์เทคเหมือนกัน   ดีไม่ดี  จะแนะนำว่า ซื้อคอมพ์ใหม่เถอะน๊า  แฮ่ะๆๆ

 

  • สวัสดีค่ะ  คุณพี่อ้อยควั้น ..  ต้อมอยากได้คนมาดูแลสุขภาพให้ค่ะ  อิอิ 

 

  • คุณ berger0123 ..  มาแล้วค่ะ  ต้อมกลับมาแล้ววววววว    คิดถึงเหมือนกันค่ะ   วันนี้ต้อมดีใจมากที่สามารถตะกายมาหาทุกๆ ท่านได้   ดีใจๆๆ
  • คุณพี่ naree ..  เย้ๆ นี่ดีใจใช่ไหม  อิอิ   และการบ้านต้อมล่ะ   ทวงๆๆ  ต่อไปเจอกัน ต้อมจะทวงๆๆ การบ้าน 

คิดถึงมากเลยนะครับ...

แต่ช่วงนี้เวลาไม่ค่อยมีเลยไม่ได้เข้ามาทักเยี่ยม..

หนังสือทำมือฉบับพิเศษ (ฉบับข้ามคืนเดียว)  เสร็จแล้ว "เสยงจากโลกแคบ" ...

ในเร็ววันนี้จะส่งไปให้นะครับ

  • อิอิแวะมาเยี่ยม
  • มาแอบดูทำอะไรอยู่นะ
  • โปรเจ็คใหญ่ที่จะแจกปลายปีเสร็จหรือยังคะ
  • ลูกค้ามารอแล้วนะคะ
  • สวัสดีเจ้า คุณแผ่นดิน..

คิดถึงคุณแผ่นดินและหนุ่มน้อยอีกสองคนเหมือนกันค่ะ ^_^

แต่ช่วงนี้ต้อมก็ไม่ค่อยได้มีเวลาเข้ามาพบปะพูดคุยกันผ่านในบันทึกเลย   พอสบโอกาสก็จะรีบเข้ามาทันทีเลยค่ะ

หนังสือทำมือของคุณแผ่นดิน  ขอจองด้วยคนค่ะ ^_^

  • ท่านพี่ naree ..

หนังสือต้อมยังรวบรวมต้นฉบับไม่เสร็จค่ะ  งั้นเอากอดใหญ่ๆ ไปแทนก่อนได้ป่ะ?  อิอิ  1 กอดใหญ่ แถมกอดเล็ก  ^_^

นี่ แล้วจะบ่นทำไม   ในเมื่อต้นฉบับก็ร่อนไปให้เกือบทุกวันนิ  อิอิ 

 

สวัสดีค่ะน้องต้อม ช่วงหลังๆไม่ค่อยได้แวะเวียนมาคุยกับน้องต้อมเลย ขอโทษนะค่ะ

วันก่อนนั่งๆๆ นึกถึงตอนเด็กๆ เป็นช่วงวันที่คิดว่ามีความสุข จึงคิดจะเขียนเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ชักไม่ค่อยแน่ใจว่าสุขที่ว่าสุขจริงรึปล่าว ขอบคุณนะค่ะ

  • สวัสดี อ.แป๋ว ค่ะ..

ช่วงระยะเดือนสองเดือนที่ผ่านมา  แม่หมอต้อมทำนายว่า  อ.แป๋ว ชีพจรลงเท้า   ต้องเหาะเหินเดินอากาศ  ข้ามฟ้าไปโน่น  ขึ้นรถ-ลงเรือ (( เอ๊ะ  ลงเรือ นี่ ชักจะไม่ค่อยแน่ใจ )) โดยตลอด   อิอิ  

อย่าขอโทษเลยนะคะ   ต้อมก็แวะเวียนไปแอบอ่าน - แอบติดตามบันทึกของ อ.แป๋ว เสมอ  ให้หายคิดถึง 

โดยส่วนตัวต้อมแล้ว  ต้อมคิดว่า มนุษย์เรามีความต้องการที่ไม่มีสิ้นสุด ค่ะ  เรื่องโน้น-เรื่องนี้ เยอะแยะไปหมด  ซึ่งก็เปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยและสิ่งแวดล้อมอีกเหมือนกัน

ขอบคุณ อ.แป๋ว นะคะ ^_^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท