ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ฉันคิดว่าจะต้องเขียนถึงหนังเรื่องนี้ หนังที่ฉันบังเอิญได้ดูหลายครั้ง และแต่ละครั้ง..ก็เรียกน้ำตาฉันได้สม่ำเสมอ ฉันกำลังพูดถึงหนังดราม่าเรื่อง Pay It Forward เป็นเรื่องราวของเทรเวอร์ แมคเคนนี่ (Haley Joel Osment) เด็กชายวัยสิบสองขวบที่อาศัยอยู่กับแม่ (Helen Hunt) ที่ติดเหล้าและไม่มีเวลาให้เขา
วันหนึ่ง..ในชั้นเรียนวิชาสังคมศึกษาของเด็กมัธยมต้น มิสเตอร์ยูจีน ซิมโมเน็ต (Kevin Spacey) ครูสอนวิชาสังคมศึกษาที่ย้ายมาใหม่ได้ให้การบ้านแก่เด็กๆ โดยให้นักเรียน "คิดวิธีที่จะทำให้โลกดีขึ้น" และให้นำไปปฏิบัติด้วย แล้วเด็กชายที่ชื่อเทรเวอร์ ก็คิดทฤษฎีหนึ่งขึ้นมาเพื่อที่อยากจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งรอบๆ ตัวเขาให้ดีขึ้น คือถ้าเขาช่วยคนสามคนและทั้งสามคนนั้นก็ไปช่วยใครอีกคนละสามคนต่อไปเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ ก็จะมีคนทำความดีมากขึ้นเรื่อยๆ ทวีคูณ
เทรเวอร์ช่วยเหลือเจอร์รี่ ชายจรจัด ด้วยการพามาทานอาหารที่บ้านและสละเงินเก็บของตัวเองให้เจอร์รี่ไปซื้อเสื้อผ้า เจอร์รี่ก็มีเสื้อผ้าสะอาดไปสมัครงานและได้มีงานทำในที่สุด แล้ววันหนึ่งเขาก็แอบมาซ่อมรถที่บ้านของเทรเวอร์และแม่ของเด็กชายมาเจอ เขาก็เลยบอกว่าเขาได้รับการช่วยเหลือจากเทรเวอร์ก็เลยคิดอยากจะตอบแทน หากแต่เด็กชายให้เขาทำความดีด้วยการช่วยเหลือคนอื่นอีกต่อไป แต่แล้วในที่สุดเจอร์รี่ก็กลับไปเสพยาอีก เทรเวอร์เลยขีดชื่อของเจอร์รี่ออกจากแผนการของเขา ซึ่งจริงๆ แล้วเจอร์รี่ก็ได้ไปช่วยเหลือผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตายให้เปลี่ยนใจ
คนต่อไปที่เทรเวอร์คิดจะช่วยก็คือครูผู้ให้การบ้านชิ้นนี้แก่เขานั่นเอง ครูซิมโมเน็ตที่มีแผลเป็นเต็มไปหมดและไม่ยอมบอกว่าได้แผลเหล่านั้นมาได้อย่างไร เด็กชายชักพาให้ครูมารู้จักกับแม่ แต่แล้วพ่อของเขาก็กลับเข้ามาอยู่ในบ้านและสัญญากับแม่ว่าจะเลิกดื่มเหล้า แม่ของเขาก็ให้โอกาสพ่อ.. ครูซิมโมเน็ตโกรธแม่ของเทรเวอร์มากเพราะเขาเชื่อว่าพ่อของเทรเวอร์จะต้องทำร้ายเด็กชายเหมือนที่พ่อของเขาทำร้ายเขา พ่อชอบทำร้ายลูกเมียก็เลยทำให้เขาตัดสินใจหนีออกจากบ้านเมื่ออายุได้สิบสามปี และสามปีต่อมา..เขาก็กลับไปรับแม่มาอยู่ด้วย ทำให้พ่อโกรธเขามาก ทำร้ายเขาจนหมดสติ ราดน้ำมัน จุดไฟเผาเขา เป็นเหตุให้เขามีแผลเป็นอยู่เต็มตัว และเขาไม่มีวันลืมสายตาที่พ่อจ้องมองมายังเขาด้วยความสะใจหลังจากที่เขาตื่นฟื้นสติจากการถูกเผาทั้งเป็น
และแล้วทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่ครูซิมโมเน็ตคาดคิด พ่อของเทรเวอร์ก็แสดงธาตุแท้ออกมาจนได้ และแม่ก็ตัดสินใจไล่พ่อออกจากบ้าน
เด็กชายขอให้ครูช่วยแม่ของเขา "..เพื่อการบ้านของผม..เพื่อผม.."
คริส แซนด์เลอร์ ได้รับอุบัติเหตุการจากที่ถูกรถคนร้ายพุ่งชนและเขาได้รับการช่วยเหลือจากชายแปลกหน้าคนหนึ่งที่ยื่นกุญแจรถสปอร์ตสุดหรูให้ พร้อมกับบอกให้ทำความดีด้วยการช่วยเหลือคนอื่นต่อไปอีกสามคน และต่อมา..เขาก็ตามหาเจ้าของรถคันนี้และได้รับรู้เรื่องราวเพิ่มเติมว่าลูกสาวของชายผู้นี้ก็เคยได้รับการช่วยเหลือจากชายแปลกหน้าผิวดำ ก็เลยทำความดีต่อเนื่องแบบที่เขาทำ คริส แซนด์เลอร์ก็เลยเดินทางไปหาเจ้าของความคิดทฤษฎีส่งต่อความดีนี้ ในเวลาต่อมา..มีรายการโทรทัศน์มาขอสัมภาษณ์เทรเวอร์ เพราะกระแส Pay It Forward แพร่ไปในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเทรเวอร์คิดว่าเป็นผลงานของแม่ที่ช่วยยาย และยายก็ไปช่วยคนอื่นต่อๆ ไป จริงๆ แล้วก็คือทุกคนมีส่วนช่วยในการแพร่กระแสการส่งต่อความดีนี้
ประโยคหนึ่งที่เทรเวอร์ให้สัมภาษณ์และตรึงใจฉันตลอดจนใครๆ อีกหลายคน "....ผมคิดว่ายากที่เราจะเปลี่ยนคนที่คุ้นชินกับบางอย่างแม้จะรู้ว่าสิ่งนั้นไม่ดี เขาก็เลยยอมแพ้ ทุกคนก็เลยพ่ายแพ้...." แล้วในเวลาต่อมา..เทรเวอร์ก็ถูกแทงจนเสียชีวิตเพราะไปช่วยเหลือเพื่อนที่ถูกรุมทำร้าย
กี่ครั้งที่ได้ดูหนังเรื่องนี้..ฉันก็ร้องไห้ ฉันไม่อายด้วยที่จะร้องไห้ให้กับหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะฉากที่ผู้คนมากมายรู้ข่าวการตายเทรเวอร์ต่างก็ถือโคมไฟ และถือเทียนที่จุดวับแวมมาเคารพศพเด็กชายคนนี้ในยามค่ำคืนนั้น ฉากนี้บีบคั้นความรู้สึกของฉันเหลือเกิน และคุณเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหม..ว่า..ได้เคยทำความดีเพื่อใครบ้างแล้วหรือยัง? หรือเพียงแต่ใช้ชีวิตบนหอคอยงาช้าง บนเส้นทางเดินที่ไม่เคยจะสนใจคนรอบข้าง หรือดำเนินชีวิตบนเส้นทางที่ต้องประหัตประหารหรือโค่นล้มใครๆ หากเป็นเช่นนี้..แล้วสังคมจะเป็นอย่างไร? ทำไมเราไม่เริ่มที่ตัวเอง..เพราะถึงแม้เราจะเปลี่ยนโลกไม่ได้ หากแต่เราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้..ใช่ไหมคะ
ใครเป็นใครใน Pay It Forward <คลิกที่นี่>
คิด..คิด..คิด..ต้อมคิดอยู่เรื่อยว่าคนเราเกิดมาเพื่ออะไร? เกิดมาแล้วทำอะไรเพื่อคนอื่นหรือสังคมบ้าง? ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะเปลี่ยนโลกได้ไหม..แต่เราเปลี่ยนแปลงตัวเราได้ ใช่ไหมคะ?
หน่าๆๆ ตรวจการบ้านให้น้องดีๆ ผลบุญจะส่งให้ได้มีแฟน ^^
สวัสดีวันแม่ค่ะ ท่าน ^^
ขอบคุณที่แบ่งปัน - เป็นความเมตตา
เอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ประทับใจ >>>>
"..เพื่อการบ้านของผม..เพื่อผม.."
"..เพื่อการบ้านของผม..เพื่อผม.." นั้นมาจากตอนที่เทรเวอร์อยากขอให้ครูช่วยแม่เขา แต่ครูบอกว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยากค่ะ...
ตอนนี้ต้อมก็ร้องไห้ T_T
มาเยี่ยมค่ะ วันนี้มีความสุขจังค่ะ
พักนี้ อยากจัดบ้าน จัดดอกไม้ ลองไปดูนะคะhttp://lanpanya.net/goodthings/
สวัสดีค่ะ น้องเนปาลี
ชอบความคิด อารมณ์และความรู้สึก ของเนปาลี อ่านบทความแล้ว ชอบนะคะ เปลี่ยนใครไม่ได้ เปลี่ยนที่ตัวเราล่ะกันนะคะ
สวัสดีค่ะน้องต้อม
การทำเพื่อคนอื่นแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังมีคุณค่าเสมอค่ะ
สวัสดีวันแม่ค่ะ ^^ เชื่อว่าคุณพี่ศศินันท์มีความสุข เพราะรอยยิ้มเปล่งประกายฉายออกมาทางตัวหนังสือ
วันนี้ต้องเป็นอีกหนึ่งวันที่คุณพี่ศศินันท์มีความสุขแน่ๆ ด้วยมีลูกชายแสนดี มีหลานชายน่ารัก มีครอบครัวอันแสนจะอบอุ่น ^^ น่าชื่นใจไปด้วยค่ะ
ป.ล. ต้อมแวะไปอ่านบทความ/บันทึกที่ลานปัญญาบ่อยๆ ชอบที่เขียนค่ะ ^^
ขอบพระคุณที่แวะมาทักทายกันในวันดีๆ นะคะ ^^ และ..ไม่ว่าจะอะไรหรืออย่างไร เราเริ่มที่ตัวเรานั้น..ดีที่สุดค่ะ การที่จะไปบอกคนโน้นให้ทำอย่างนั้น-อย่างนี้ มันยากนะคะ เพราะขนาดเราเอง..ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเปลี่ยน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า..เราจะเปลี่ยนไม่ได้(เนอะ)
การทำเพื่อคนอื่น..แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่กับหัวใจอีกดวง..อาจจะมีความรู้สึกว่าช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน การทำดี..นี่จะทำให้เรามีความสุขและอิ่มเอมใจนะคะ
ทำไม อ.สร้อย หายไปหลายวันๆๆๆๆๆๆๆ....และดีใจที่ได้เห็นในบันทึกนี้ค่ะ ^^
ภาษารื่นรมย์
กรุงเทบ นี่ได้ตั้งใจพิมพ์หรอกนะ แต่ต้องการให้อ่านเป็นสำเนียงทองแดง ภาษาปักษ์ใต้บ้านเราครับ
งวดนี้ขอยกเว้นไม่ต้องหยอดกระปุกนะ
พี่ไข่คิดดี และทำดี ทุกลมหายใจ สำหรับคนไทยทุกคนและเพื่อนร่วมโลกครับ
แหม ไม่ยอมให้กะตังค์กระเด็นหล่นมาใส่กระปุกของพี่จ๊ะเลยนะๆๆๆๆๆๆๆ T_T ((งอน..เดินไปเก็บประปุกคืน)) ฝากไว้ก่อนๆๆ
ทำความดี..แค่คิดก็เจ๋งแล้วนะคะ และที่ดีที่สุดก็คือเราได้ลงมือทำ ^^
ป.ล. พี่ไข่คะ พี่จ๊ะลืมเราแล้วหรือยัง???????
น้องต้อมค่ะ
ต้อมชอบทฤษฎีส่งต่อความดีของเด็กชายเทรเวอร์คนนี้มากๆๆๆๆๆๆๆ+++++++ เลยนะคะ คิดว่าจะลงมือเขียนเรื่องราวโดยย่อของเนื้อหาหนัง และความคิดของตัวเองที่มีต่อเรื่องนี้ หากแต่ก็..ไม่ได้ลงมือเขียนเสียที
ความดีนั้น..ไม่ได้ทำยากเลย และกับการที่เราจะช่วยเหลือใครสักคนก็อาจจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับเขาแล้ว..มันอาจจะหมายถึงโอกาส หมายถึงกำลังใจ
อา(จารย์)จ๊ะว่าไหมคะ?
ก็ต้อมคิดว่าภาษาทองแดงต้อง "กรุงเต๊บ" นี่นา ^^ ครั้งหนึ่งนะ เพื่อนพูดภาษาใต้ ต้อมก็อู้คำเมือง คุยกันไปสักพักก็..ปรากฏว่าที่คุยๆ มานั่น เราต่างก็ไม่รู้เรื่องเลย อิอิ
พี่จ๊ะ..ป่านนี้จะเป็นอย่างไร (ประโยคนี้อยากครวญเป็นเพลงนะเนี่ย)....คงแอ่วสนุกสนานไปแล้วมั้ง
ด้วยความยินดีค่ะ ^^ อยากให้น้องๆ ได้ดูหนังเรื่องนี้ด้วย เพราะมีแง่คิดดีๆ เยอะ ว่าแต่ถ้าให้น้องๆ ดู..แม่หมูต้องเตรียมทิชชู่แจกด้วยนะคะ เป็นหนังดราม่าที่สะเทือนอารมณ์/ใจ สุดๆ คงเพราะนักแสดงถ่ายทอดบทบาทของตัวละครออกมาได้ชัดเจน
ถ้าอยากได้รายละเอียดเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ หรือเรื่องย่อ ก็ลองเสริช์หาในอินเตอร์เน็ตดูนะคะ มีคนเขียนถึงหนังเรื่องนี้เยอะเหมือนกันค่ะ
ครั้งหนึ่ง..ที่งอนพี่เซ็กซี่มาก+++ แล้วเธอบอกว่าจะบินมาหาพร้อมหิ้วเค้กของคาเฟ่ เดอ ตูร์ มาให้ด้วย น้องกะเหรี่ยงขี้งอนตอบไปเสียงสะบัดว่า.. "ไม่เอาหรอก ไม่ต้องมาด้วย เค้กที่ไหนก็เหมือนกันนั่นล่ะ ฮึๆๆๆ".... ก็งอนนี่
เธอตอบกลับมาด้วยเสียงนิ่งๆ แบบระงับอารมณ์เต็มที่ (ถ้าอยู่ใกล้ๆ ต้อมคงถูกบีบคอแน่ๆ -- เพราะเวลาอารมณ์เสีย เธอจะโหดมาก) ว่า.. "ไม่เหมือนกันหรอกค่ะ ต้อม ไม่เหมือนกัน......."
ไม่เหมือนกันจริงๆ ด้วย เพราะเค้กคาเฟ่ เดอ ตูร์ มีความรู้สึกดีๆ ของพี่กับน้องซุกซ่อนอยู่ แต่เค้กบ้านเรา..ก็คือบ้านเราไง อิอิ ตอบอา(จารย์)จ๊ะแบบกำปั้นทุบดิน
หวัดดีครับ
บันทึกนี้ดีจังครับ
คิดๆๆๆ
ทำดีกับคนอื่นๆ ได้ถึงสามคนหรือยัง
น่าจะเกินเนาะ...
เฮ้อ...ใช้หมองมาก..หิวข้าวแระ!!
อิอิ
ทำเยอะมากๆๆ นับไม่ถ้วนเลย แต่คงไม่ค่อยมีความหมายสำหรับใคร อิอิ หมอดูบอกว่า..ทำบุญกับคนไม่ขึ้น
ประชดตัวเองนิดหน่อย เพราะจริงๆ แล้วการทำความดีต้องไม่คิดมาก(หรือเปล่า) ขอเพียงเรามีจิตอันเป็นกุศล เราก็จะรู้สึกอิ่มเอมใจแล้วเนอะ และต้อมชอบทฤษฎีการส่งต่อความดีนี้มาก ถ้าผู้คนหันมาทำกันแบบนี้..โลกเราคงน่าอยู่ขึ้น
เมื่อกี้ ต้อมคุยเมล์กับพี่สาวคนสวย..และเธอก็คิดเช่นเดียวกัน หนังเรื่องนี้เป็นอีกหนังเรื่องโปรดของเธอ เธอว่าสมัยนี้คนเราส่งต่อความเกลียดชังกันมากเหลือเกิน
มื้อกลางวัน..ไม่รอแม่บ้านแล้วค่ะ แต่มีไก่ทอด น้ำพริกหนุ่ม ผัดไชโป๊วใส่ไข่ แจ่มไปเลย..อิจฉาไหมคะ?
คิดบวก..ได้กำไรค่ะ ^^
สวัสดีค่ะ
* คิดแล้วปฏิบัติด้วย...ดีมากค่ะ
คิดแล้วทำ..จึงส่งผลนะคะ ^^ ขอบพระคุณค่ะ
เขาเรียกว่า "เอา(แต่)ใจ(ฉัน)" หรือเปล่า??????? อิอิ ล้อเล่น ต้อมนะ ก็บอกตัวเองไม่ให้คาดหวัง และไม่ต้องไปใส่ใจกับผลลัพธ์ แต่ก็..อดที่จะคิดไม่ได้นี่ บางที..มันก็แล่นแวบๆ เข้ามาในหัว
เออนี่..ว่าแต่เอาเรื่องนี้มาเขียนจะไปสะดุดกับเรื่องของลิขสิทธิ์หรือเปล่า???????? เพราะลองคลิ้กเข้าไปถามที่ลุงกูเกิ้ล..ปรากฏว่ามีมาเพียบ แต่ละคนก็เล่าถึงหนังเรื่องนี้ในมุมมองของตัวเอง นี่ก็เป็นผลมาจาก "ทฤษฎีส่งต่อ.." หรือเปล่าคะ?
เชียร์ให้หาหนังเรื่องนี้มาดูค่ะ ^^ ดูแล้วจะร้องไห้ สะเทือนใจกับคำพูดของเด็กชายเทรเวอร์ในหลายๆ ตอนด้วย
และ..ฝากไว้ก่อนเถอะ พี่ขจิต เอะอะก็แกล้งต้อมเรื่อย เดี๋ยวไปฟ้องอา(จารย์)จ๊ะ
เรื่องนี้ดูมานานแล้วค่ะ
ชอบจัง
เลยต้องมาสนับสนุนน้องต้อมว่าเรื่องนี้ต้องบอกต่อ
เรื่องนี้ดูมานานแล้วค่ะ
ชอบจัง
เลยต้องมาสนับสนุนน้องต้อมว่าเรื่องนี้ต้องบอกต่อ
ชอบบทสรุปของน้องต้อมค่ะ
น้องจ๊ะ จ๊ะ
ค่ะ เรื่องดีๆ ต้องบอกต่อๆ กันไปเนอะ ^^
ขอบพระคุณค่ะ ^^ ต้อมว่าหลายๆ คนเคยตั้งคำถามแบบนั้นกับตัวเองเนอะ
Pay It Forward เป็นหนังในดวงใจอีกเรื่อง ที่เมื่อได้ดูแล้วก็คิดว่าจะต้องเขียนถึงหนังเรื่องนี้ด้วย ได้มีโอกาสดูหลายๆ ครั้งด้วยความบังเอิญ และแน่นอน..ที่ก็ยังคงร้องไห้แงๆ ไปเสียทุกครั้ง รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจเพราะ..อินไปกับตัวละคร/บทละครมากไปหน่อย
มาเวลาผ่านมาเนิ่นนานก็ยังไม่ได้ลงมือเขียนสักที หลายปีต่อมา..ก็ เอาล่ะ ต้องเขียนให้ได้ ตอนลองคลิ้กถามลุงกูเกิ้ล..ปรากฏว่าโผล่ออกมาเพียบ ว๊าย..ส่วนมากทุกคนก็เล่าเรื่องย่อและเติมมุมมองของตัวเองเข้าไปคล้ายคลึงกันหมด ถอดใจ..ไม่อยากเขียนแล้ว แต่..เราอยากเล่าเรื่องนี้มาตั้งนานแล้วนี่ งั้น..ช่างมันเถอะนะ เราก็เขียนไปตามที่เราอยากจะเขียน อาจจะไปพ้องอะไรกับใครมั่งก็ช่างเถอะเนอะ
กึ๊ดเติงหาพี่จ๊ะขนาด แต่ก็..เข้าใจว่าไปทำงาน และสงสัยว่าตกลงพี่จ๊ะไปทำงานหรือไปแอ่วกันแน่นะ อิอิ ^^
น้องจ๊ะ...จ๊ะ
เขียนเถอะนะ ใครจะเขียนคล้ายใครก็ตาม แต่การเขียนก็มีส่วนช่วยการพัฒนาสมองของเรา
เรื่องนี้พี่ไม่ได้ดู...^^
พี่ชอบหนังประเภทที่ให้ฉุกคิดอย่าง Meet Joe Back หรือเรื่องที่สามีที่ตายไปแล้วไปสวรรค์ เจอลูกชายแล้ว แต่ไปตามหาภรรยาที่ติดอยู่ที่นรก...จำชื่อไม่ได้
ไปเที่ยวด้วย เรียนรู้เพิ่มเติมด้วย...
แว้บไปก่อนแล้วนะจ๊ะ
อันนี้ดูๆ เหมือนจดหมายลูกโซ่เลย
ได้รับแล้วคัดลอกส่งต่อให้เพื่อนๆ หรือคนรู้จักอีก 99 ฉบับ แล้วท่านจะโชคดี (เพิ่งได้รับ จม.ลูกโซ่เมื่อเดือนที่แล้วเอง)
อิๆ
มันเป็นไปได้ไหมคะที่รอยหยักของอ่องออคนเราจะมีคล้ายคลึงกันบ้างโดยมิได้นัดหมาย คำบางคำ.. ความรู้สึกบางอย่าง.. บางการกระทำ..
หนังเรื่อง Meet Joe Back ที่พี่จ๊ะชอบก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ตราตรึงในหัวใจของน้องจ๊ะ ตราตรึงจากคำบอกเล่า..แต่ไม่เคยมีโอกาสได้นั่งดูจนจบเรื่อง อ้าว..สงสัยล่ะสิ แต่ก็ชอบจ๊ะ
พี่จ๊ะ..แวบมาบ่อยๆ นะจ๊ะ ก็กึ๊ดเติงหานี่นา ^^
เวลาต้อมได้รับจดหมายลูกโซ่ก็มักลบทิ้ง.. คนเราจะมีโชคหรืออับโชคคงเพราะด้วยสองมือนี้ที่สร้างมา คงไม่ใช่เพราะกระดาษแผ่นเดียวทั้งเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์หรอกเนอะ อิอิ
นี่ พยายามวาดให้ดูกลมๆ แล้วนะ แต่ตัว M มันเบี้ยวๆ ไปนิด อิอิ ให้อภัยน้องเถอะ ^^
ใครบางคนบอกต้อมว่า.. No MR.Right man น่ะค่ะ ไม่มีมนุษย์คนใดสมบูรณ์แบบ และต้อมก็ว่า..น่าจะจริงค่ะ ^^
ท่านพี่จ๊ะ..จริงๆ แล้วบ้านเราน่าจะมีมหาวิทยาลัยนักการเมืองนะ ที่สอนนักการเมืองให้รู้จักหน้าที่ของตัวเอง เรียนรู้เรื่องจริยธรรม เรื่องของข่ายหน้าที่การงาน ฯลฯ จะได้จบออกมาทำงานอย่างมีคุณภาพเนอะ
สวัสดีครับน้องต้อม
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ
- การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้
- การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น
สามารถทำได้
- เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน
- การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน
จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
ด้วยความยินดีเหลือเกินค่ะ ที่..รูปนี้..แผนผังทฤษฎีการส่งต่อความดีของเด็กชายเทรเวอร์ สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตจริงของเราๆ ได้ ^^ รู้สึกขอบคุณผู้ประพันธ์และผู้สร้าง ตลอดจนนักแสดงในเรื่องนี้เหลือเกิน
มหาวิทยาลัยนักการเมืองน่าจะมีจริงๆ เนอะ ^^ บ้านเมืองของเราจะได้มีนักการเมืองมืออาชีพที่ดี มีคุณธรรม-จริยธรรม เต็มบ้านเต็มเมือง
เช้านี้..ดีใจมากเลยที่พี่จ๊ะวิ่งเข้ามาทักทายกัน แต่..อิจฉาเนอะ คนอะไรก็ไม่รู้ ไหนบอกว่าไปทำงาน ฮึ!
น้องตัวกลม
หายเงียบไปเลย T_T คิดถึงนะ จะบอกให้
หากคิดจะเปลี่ยนแปลงใครๆ หรืออะไร ให้ลองเริ่มที่ตัวเราก่อนเนอะ ^^ เพราะขนาดตัวเรา..ก็ยัง "ยาก" เลย เอ้อเฮอ
+ หวัดดีค่ะ..น้องต้อม....
+ คิดถึงมากค่ะ....
+ พี่อ๋อยงานยุ่งมากมายหลายกองเลยค่ะ....
+ เมื่อวานกลับมาน็อคเลย.....
+ อ่านแล้วประทับใจมากค่ะ...ได้ข้อคิดสะกิดใจ....
+ แล้วจะนำเรื่องย่อ ๆ นี้ไปเล่าให้เด็กฟังในคาบแนะแนวค่ะ...
+ ได้ผลเช่นไรจะรีบมารายงานค่ะ....
+ คิดถึงค่ะ....
ดูละคร ละย้อนดูตัวเอง ดีมากค่ะ
มาเยี่ยมค่ะ
ขอบคุณมากสาระดีๆๆ
หายหน้าหายตาไปเลยนะคะ ^^ สบายดีหรือเปล่าเอ่ย? ต้อมอดเป็นห่วงในใจไม่ได้เหมือนกัน
ลองหาซีดีหนังมาเปิดให้เด็กๆ ดูสิคะ เป็นเรื่องราวดีๆ ที่ต้อมขอแนะนำ แล้วได้ผลยังไง..จะรอด้วยใจจดใจจ่อเชียวค่ะ
เป็นประโยคที่ติดปากพ่อต้อมน่ะค่ะ ^^ และจริงๆ ด้วยนะคะ เพราะละครในจอสี่เหลี่ยมก็มีรากฐานมาจากละครชีวิตคนเราทั้งนั้น
ขอบพระคุณที่มาเยือนกันค่ะ..
เมื่อวานต้อมป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้นะคะ แต่ไม่ค่อยเห็นมีใครเลย เราอุตส่าห์ไม่ไปทำงาน อุ๊บ! สงสัยวันนี้กรรมตามสนอง ต้อมมาแต่เช้า..ยังไม่มีใครมาทำงานเหมือนกัน
แล้วต้อมจะออกไปส่งซองจดหมายให้อา(จารย์)จ๊ะยังไงล่ะเนี่ย แงๆ เลย
สงสัยพี่จ๊ะช้อปกระจายจนลืมน้อง ลืมนุ่ง ฮึ! และจุ๊ๆ เลยนะที่แอบโดดงานเพราะเจ้านายไม่อยู่ค่ะ แต่ต้อมก็ชดเชยด้วยการมาทำงานเช้าๆ นะ โดยเฉลี่ยแล้ว 7 โมงเช้าต้อมมาถึงแล้วล่ะค่ะ
อืม ถ้ามีขนมมาฝากจะไม่งอนเยอะ จะงอนแค่นิ๊ดด..ด พอเป็นพิธีเนอะพี่ไข่ เนอะ
ก่อนอื่นที่จะคุยกันยาวๆ ขอปรับก่อนนะเจ้า ค้อกเทลสิบแก้วเน้อ..
ความชเยวชาญ >> เชี่ยว
เรียต่อ >> เรียน
พี่ๆ ที่สนิทสนมกันหลายคนอยากให้ต้อมเรียนต่อ/อยากเห็นต้อมเรียนต่อ แต่ต้อมก็มีคำตอบที่ทำให้พวกเธอเหล่านั้นต้องเอามือทาบอกหรือก่ายหน้าผาก ไม่ใช่ว่าต้อมไม่ชอบการเรียนนะคะ แต่อารมณ์ต้อมไม่ค่อยเสถียรและไม่อยู่นิ่งเหมือนที่ใครๆ เข้าใจ ต้อมตั้งเงื่อนไขให้ตัวเองให้คนรอบข้าง ให้สิ่งแวดล้อมมากมาย แล้วในวันนี้..ต้อมจึงเป็นตัวตนนี้ ที่ไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลยสักอย่าง
ก็เลยอยู่และใช้ชีวิตแบบงงๆ นี่ล่ะค่ะ และต้อมโชคดีที่ได้รู้จักและได้เรียนรู้จากพี่ๆ ที่เป็น ดร. และมีตำแหน่งหน้าที่การงานดีๆ หลายท่าน รวมไปถึงโชคดีที่พวกเธอเข้าใจในตัวตนของต้อม(เป็นพักๆ) จึงไม่ค่อยได้เคี่ยวเข็ญกันให้ได้ต้องหงุดหงิดใจอีก และต้อมก็เรียนรู้เอาจากพี่ๆ และนอกห้องเรียนอย่างนี้ไง
เป็นตั๋วอย่างตี้บ่น่าเอาเยี่ยงอย่างเลยนะ ^^
สวัสดีจ้ะน้องต้อม
ขอบคุณที่ส่งเพลงเพราะๆให้ฟังนะคะ
หนังเรื่องนี้พี่ก็เคยดูค่ะ ชอบหนังแบบที่เด็กๆเป็นตัวเอก และให้ข้อคิดต่างๆมากมาย แต่เรื่องนี้ดูแล้วบีบคั้นจิตใจเพราะพระเอกต้องตายตอนจบ แถมตายจากการช่วยเหลือคนอื่นอีก จนอาจทำให้คนดูเกิดความรู้สึกหักล้างทฤษฎีของเขา.....
แต่อย่างไรก็ตามพี่ก็คิดว่าการส่งความช่วยเหลือต่อเป็นสิ่งที่ดีค่ะ
หนังเรื่องนี้บีบคั้นหัวใจ(ต้อม)ค่ะ ด้วยเหตุผลที่อาจารย์ว่ามานั่นล่ะค่ะ หลายๆ ครั้งที่ต้อมคิดขึ้นมาว่า..ทำไมคนทำดีไม่ได้รับผลตอบแทนที่ดี มันน่าน้อยใจ มันน่าร้องไห้ เพราะอะไร/เพราะใคร/ทำไม/และจะทำอย่างไร คำถามวิ่งวนอยู่ในหัวต้อมจนปวดหัวไปหมด
แต่ท้ายที่สุด.. ต้อมเองก็บอกกับตัวเองว่า "เชื่อในผลกรรมดี" ค่ะ ^^ และจะศรัทธาในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ (ถึงแม้ในบางครั้ง/หลายๆ ครั้งนั้นใจจะแกว่งไปบ้าง)
ทฤษฎีนี้น่าสนใจนะคะ ส่งต่อความดีไปยังสามคน และจากสามคนก็กลายเป็นเก้า จากเก้ากลายเป็น...... และจากนั้นก็จะขยายวงการทำความดีให้ออกกว้างไปเรื่อยๆ เป็นทฤษฎีที่ทำกันได้จริงๆ ด้วยนะคะ แต่..ไม่มีใครสนใจทำ
โดยปกติแล้วต้อมไม่ค่อยได้ดูหนังดูละครสักเท่าใดค่ะ แต่เมื่อดูก็ดูเอาสนุกและคิดให้เท่าทัน พินิจดูว่าในเนื้อเรื่อง-ในตัวละครนั้นได้มีนัยยะอะไรบ้าง เพราะต้อมเชื่อว่าเราหาความรู้ได้ในทุกๆ ที่ค่ะ
หนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้อมได้มีโอกาสดูหลายครั้ง เป็นหนังดีที่อยากจะให้ใครๆ ได้ดู เผื่อเมล็ดพันธุ์แห่งความดีจะได้งอกงามในหัวใจ..ในตัวตนของบุคคลนั้นๆ
สาธุ สาธุ สาธุ..ค่ะ
นี่..ตกลงเจ้านายส่งไปดูงาน/ทำงาน หรือตั้งใจไปช้อปกระจายกันแน่จ๊ะ ^^ นี่..ถามจริงนะจ๊ะ "กึ๊ดเติงหากันพ่องก่อ" เอ๊ะ..ไม่มีเวลาว่างเข้ามาหากัน หรือหายขาดจากอาการเสพย์ติด G2K เสียแล้ว โอ๊ว!
เป่าเพี๊ยงให้หายเหนื่อยนะจ๊ะ..
+ หนูต้อมที่คิดถึง.....
+ พี่อ๋อยยุ่งมากมายหลายกองเลยค่ะ...
+ ทั้งงานราษฏร์และงานหลวง...
+ มึน...ตึบ..
+ อาทิตย์ที่ผ่านมา..ฝึกเด็กวาดภาพและทำหนังสือเล่มเล็ก...
+ เพื่อส่งประกวดงานวิชาการ มอ.ตานี 18-19 ส.ค. 51..
+ ต้องนำมาฝึกกันที่บ้านเลย....
+ ทำหนังสือนิทานเล่มเล็ก เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
+ เรื่อง " มะแอกับป่าโกงกาง"ของชั้น ป.4
+ และ " หนูมานีกับป่าชายเลน" ของชั้น ป.6
+ วาดภาพชั้น ป.4 ทั้งหมด 4 คน.....
+ สำหรับการวาดภาพไปแข่งมาแล้วเมื่อ 16 ส.ค.51
+ ผลปรากฏว่าได้รางวัลชมเชยทั้ง 4 คน
+ แต่เด็กชั้น ป.2 และ ป.6 ได้รางวัลดีเด่นด้วย
+ ส่งไป 18 คน ได้รางวัลต่าง ๆ มา 14 คน ส่วนอีก 4 คนก็สบาย ๆ ได้ประสบการณ์เป็นรางวัล
+ นี่รอผลหนังสือเล่มเล็กอยู่....
+ ถ้าผลออกมายังไงจะเอามาเผยแพร่..ทางนานาสาระแอมแปร์อีกทีนะจ๊ะ
+ ตอนนี้ยังไม่อยากจะพบปะใครเลย...อยากนอนอ่านหนังสือและดูกีฬาโอลิมปิคส์เป็นการพักความเหนื่อยล้า...
+ แล้วเราจึงมาเจอกันอีก..coming soon...
+ คิดถึงมากมายค่ะ...
สวัสดีน้องตัวกลม
น้องต้อมๆๆ ส่งการบ้านแล้วเน้อ
ขอบพระคุณนะเจ้าที่แวะมาเอิ้นบอกกั๋น ^^ เมื่อวานนี้..กลับถึงบ้านก็นอนเลย
จะรออ่านเรื่องเล่าการทำหนังสือนิทานของน้องๆ นะคะ ^^ และขอแสดงความยินดีกับน้องๆ ที่ได้รับรางวัลด้วยค่ะ รวมถึงขอต้อนรับการกลับมาด้วยนะคะ
น้องแอมแปร์เป็นอย่างไรบ้างคะ? และขอชวนไปดูครูบิ๋มสอนปั้นแป้งโดว์ค่ะ
วันนี้ที่หลังเขา..อากาศสวยแจ่ม หากแต่น้องตัวกลมไม่ยักกะจะรู้สึกสดใสเลยแฮะ เมื่อวานก็มีเรื่องให้ยิ้มได้นิดหน่อย ก็นิดหน่อยจริงๆ ล่ะ
กินอิ่ม นอนหลับ เพราะเป็นไข้นะสิ T_T มาโอ๋ๆ น้องตัวกลมๆ หน่อยนะ และอย่าลืมไปดูบันทึกของเจ้คนสวยด้วยนะคะ
ตามไปตรวจการบ้านแล้วค่ะ ^^ เจ๋งไปเลย..เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าท่านหัวหน้าเงียบๆ เพราะกลัวว่าพูดไปจะไม่เข้าหูคนฟัง ฮ่าๆ
ป.ล. ไปเร่งการบ้านของท่าน ผบ.ที่บ้านด้วยเน้อ ^^
ต้อมตามไปคลายร้อนที่ปางอุ๋งหลายครั้งแล้วนะเจ้า เหลือก็แต่..ไปจริงๆ แล้วมีอา(จารย์)จ๊ะเลี้ยงมื้อใหญ่ ^^