ขมิ้นชัน เครื่องเทศสีเหลืองสด คู่ครัวปักษ์ใต้
ขมิ้นชัน มีชื่อเรียกทั่วไป ว่า “ขมิ้น” ชาวปักษ์ใต้เรียกว่า “ขี้มิ้น”
ขมิ้นเป็นพืชที่มีรากเหง้าอยู่ใต้ดิน ประเภทเดียวกับข่า,ขิง ลำต้นสูงจากพื้นดิน 60 -90 เซนติเมตร มีลักษณะเป็นกอใบเรียวยาว ดอกสีขาวอมเหลือง ระยะเก็บเกี่ยว 7– 9 เดือน
ผิวขมิ้นมีสีน้ำตาล เนื้อสีเหลืองสด ใช้ได้ทั้งสด แห้งและผง
ข้อมูลที่ได้มาจากนิตยสารครัว ฉบับที่111 กันยายน 2546 หน้า128 จึงขอนำเรื่องราวบางตอนที่ได้จากหนังสือเล่มเก่ามาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ในขมิ้นมีน้ำมันหอมระเหย มีสารสีเหลือง ชื่อ เคอร์คูมิน (Curcumin) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ช่วยขับลม ช่วยระบบการย่อยอาหารได้ดี ทำให้เจริญอาหาร
ขมิ้นสด เป็นยารักษาฝี แผลพุพอง แก้อาการแพ้อักเสบ แมลงสัตว์กัดต่อย
น้ำมันขมิ้นทาผิวช่วยให้ผิวสวย
เมื่อก่อนแม่ฉัน จะนำขมิ้นชัน แต่ต้องเป็น "หัวขมิ้น" ไม่ใช่แง่งที่ใช้แกง
หรือที่เรียกว่า "แม่ขี้มิ้น" มาฝนกับอ่างดินเผาใส่น้ำเล็กน้อย แล้วเติมแป้งเด็กลงไป คนให้เข้ากันทาผิวเด็กอ่อน
แม่บอกว่า จะช่วยแก้ผดผื่นคันและป้องกันไม่เกิดผดผื่น ทำให้ผิวสวยเนียนนุ่มค่ะ แต่คนสมัยนี้ ไม่ชอบใช้ทาผิวให้ลูกๆกันแล้ว เพราะจะทำให้เลอะเปื้อนเสื้อผ้า
และการเตรียมก็ยุ่งยากเสียเวลา
นี่คือ..แม่ขี้มิ้น (หัวขมิ้น)
ขมิ้นผง แบบแคปซูล เหมาะเป็นยาประจำบ้าน พกพาติดตัวได้สะดวก มีประโยชน์ เพราะสารเคอร์คูมินในขมิ้นไปกระตุ้นให้หลั่ง สารมูซิน (Mucin) ออกมาเคลือบกระเพาะอาหาร และมีฤทธิ์ลดการอักเสบ
นอกจากนี้ การนำขมิ้นผงผสมกับปูนขาว ทำให้กลายเป็นสีแดง เพิ่มสรรพคุณในการบรรเทาอาการคันจากแมลงสัตว์กัดต่อย รักษาฝี และแผลอักเสบ
ขมิ้นผงกินเป็นยา สำหรับบางคนอาจจะมีอาการแพ้ได้เช่นกัน คือ มีอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดหัว นอนไม่หลับ ต้องหยุดทันที
และในการใช้รักษาโรคกระเพาะอาหารในปริมาณที่สูงเกินไปก็ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้เช่นกัน (ต้องเดินสายกลางค่ะ)
การใช้ขมิ้นในอาหารช่วยดับกลิ่นคาว เพิ่มกลิ่นหอม ให้สีเหลือง ในอาหารปักษ์ใต้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เมนู แกง,ผัด,ต้ม,ทอด,ย่าง เป็นต้น
นี่คือ แง่งขี้มิ้น..เป็นส่วนที่นำมาใส่แกงและอาหารปักษ์ใต้
ขมิ้นเป็นเอกลักษณ์ของครัวปักษ์ใต้
ตัวอย่างเมนู >อาหารปักษ์ใต้ที่มีขมิ้นเป็นส่วนประกอบ เช่น แกงส้มปักษ์ใต้ แกงพุงปลา(ไตปลา) แกงกะทิต่างๆได้แก่ แกงขี้เหล็ก ผัดเผ็ด(คั่วเผ็ด) ไก่บ้านต้มขมิ้น ปลาทูต้มขมิ้น ปลาทอดขมิ้น ไก่บ้านทอดขมิ้น ปลาดุกคลุกขมิ้นย่างหรือทอดและข้าวหมกไก่ ฯลฯ
แกงส้มปักษ์ใต้กุ้งกับมะละกอ...อาหร่อย...
มหาอ่านขมิ่นของหนูรีแล้ว ได้แนวคิดว่าจะทำน้ำขมิ่นชีวภาพ แล้วนำไปทำสบู่เหลว หรือน้ำยาสระผม ตอนนี้ทำน้ำยาสระผม มะกรูด 8 ลิตร ได้ผล มหาทอดลองเอง จากที่หัวเริ่มจะรวย ตอนนี้มหามั่นใจแล้วหัวไม่รวยแล้วหัว
น่าอร่อยจังเลย
สวัสดีครับ
วันก่อนคุณแม่ใช้สบู่ยี่ห้อใหม่แล้วแพ้
มีคนแนะนำให้ใช้ขี้หมิ้นทา จนหน้าเหลือง
วันสองวันหาย
สวัสดีค่ะ คุณadd
☺แกงส้ม..ถ้วยนี้แอบถ่ายมาจากโต๊ะอาหาร..ที่ทำงานหนูรีค่ะ แม่ครัวที่นี่ทำอาหร่อยค่ะ (เพื่อนบอกว่า "มันบ้าจะกินก็ยังถ่ายรูปอีก" 555)
☺ขอบคุณค่ะ
☺สวัสดีค่ะ
☺ใช่แล้วขมิ้นนี้ดีจริงๆนะ รักษาสิวอักเสบได้ด้วยนะค่ะ
☺ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม ขอให้มีความสุขค่ะ
หุงข้าวใส่ขมิ้นจะทำให้ข้าวมีกลิ่นหอมชวนให้น่าร้บประทาน และช่วยให้เจริญอาหารด้วค่ะ
สวัสดีค่ะ.. ที่ปักษ์ใต้ การหุงข้าวหมกไก่ ก็มีส่วนผสมของขมิ้นผงทำให้ข้าวหอมค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จัก และขอให้มีความสุขค่ะ
สวัสดีค่ะ ยังไม่ทานดินเนอร์หรือค่ะ ดึกแล้วน่า
ขอบคุณค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆๆ
ย่องเข้ามาบล็อกนี้ทีไร ย่อมได้สาระในการทำอาหารเสียทุกคลา มาครั้งนี้ก็ทำให้หายสงสัยได้ว่าทำไมชาวใต้จึงชอบทำอาหารรสเผ็ดร้อนไม่เจ็บแสบท้องหรืออย่างไร ที่แท้เขาก็มี "ขี้มิ้น" ช่วยเคลือบกระเพาะไว้นั้นเอง ขอบคุณครับสำหรับความรู้ที่เป็นภูมิปัญญาไทย
สวัสดีค่ะ..
ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยม ภูมิปัญญาไทยมีคุณค่าเสมอถ้าเรารู้จักที่จะนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ
ขอให้ความสุขและสุขภาพดีน่ะค่ะ
คนใต้ไม่กลัวอาหารรสชาดเผ็ด เพราะสารมูซิน (Mucin) ออกมาเคลือบกระเพาะอาหาร...นี่เอง
กินแกงเผ็ดทุกชนิดจะมีสีเหลืองจากขมิ้น สรรพคุณทางยาเพียบ
ขอบคุณมาก
สวัสดีค่ะคุณพี่ครูคิม
☺ภาคเหนือบางจังหวัดก็เรียกขี้มิ่นเช่นเดียวกัน
☺ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ
☺อาหารปักษ์ใต้..สามารถปรับลดความเผ็ดลงได้ค่ะ แต่รสชาติจะไม่แซบ(ไม่หรอย)..ค่ะ
☺ด้วยรักและคิดถึงค่ะ
16. เกษตรยะลา
สวัสดีค่ะ
คนใต้ไม่กลัวอาหารรสชาดเผ็ด เพราะสารมูซิน (Mucin) ออกมาเคลือบกระเพาะอาหาร.. ใช่แล้ว!
☺คนใต้หน้าหมวยๆก็กินเผ็ดได้ไม่แพ้ คนใต้ตาโตหน้าคมเข้มเช่นกันค่ะ
☺ขอบคุณค่ะ