เนิ่ม ขมภูศรี
ส.อ. เนิ่ม ขมภูศรี เนิ่ม ขมภูศรี ชมภูศรี

7) ฤา...สิบล้อ ต้องการจะบดขยี้ชีวิตจักรยาน


คน..เด็ก..จักรยาน บันทึกชีวิตจักรยาน หมวด 2 เรื่องเล่าระหว่างการฝึกซ้อม

ฤา..สิบล้อ ต้องการจะบดขยี้ชีวิตเด็กจักรยาน

รูปภาพ
Thanks: ฝากรูป

อารมณ์หนึ่ง ของการขับรถยนต์คืออาการเสพติดความเร็ว อย่างไม่รู้สึกตัวของคนขับรถ
อุบัติเหตุ อาจเกิดขึ้นได้อย่างฉับพลัน ด้วยการเสพความเร็วดังกล่าว ชีวิตของมนุษย์นี้นั้น ไม่เคยถูกฝึกให้ช้าลง ไม่เคยเดินด้วยความช้า มีแต่จะทำอย่างไรให้เร็ว ให้เร็ว ให้เร็วตลอดเวลา และไม่เคยประสงค์ที่จะพบกับการเสียเวลาทั้งที่เวลาในใจนั้น คือสิ่งที่ไม่เป็นจริง จนมีหลักเหตุผลให้กับตนเองหลังเกิดเหตุ นั้นคือประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

แต่สิ่งที่สูญเสีย มันมิใช่หลักของเหตุกับผล แต่เป็นความจริง

โชคดีอย่างยิ่งที่เด็กจักรยานกองบิน 46 ไม่เกิดการสูญเสีย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเรื่องที่เป็นสิ่งเตือนสติผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะเรานี้นั้น เมื่อใดที่ขับรถยนต์ เมื่อนั้นควรเริ่มตระหนักและใส่ใจอย่างยิ่งต่อทุก ๆ ชีวิตบนท้องถนน เรื่องจริงที่ทีมจักรยานประสพพบ เป็นเหตุเตือนใจเราท่านหลาย ๆ คนได้ ในการฝึกซ้อมจักรยานของตัวเราเอง การใช้ชีวิตบนท้องถนนที่เต็มไปด้วยอารมณ์แห่งการติดเสพความเร็ว ของคนที่หลงความเร็ว และปฐมบทพื้นฐานของอุบัติเหตุ คืออาการติดความเร็วละเลยต่อความรับผิดชอบในชีวิตทรัพย์สิน ด้วยการขาดความใส่ใจและไร้การรู้สึกตัวเช่นนี้

รูปภาพ
Thanks: ฝากรูป

คนเมาแล้วขับก็ติดความเร็ว ไร้สติ ไร้สำนึกจิต

แต่คนดี ๆ ละ คนที่สมบูรณ์พร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ ยามขับรถยนต์ท่านเคยสัมผัสหรือไม่หรืออย่างไร อาการติดความเร็ว จนไม่สามารถชะลอความเร็วให้ช้าลง หรือขับให้ช้าลง หรือขับชะลอความเร็วเบาลงหน่อย เพราะมีสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้า ที่สำคัญ สิ่งกีดขวางนั้นคือชีวิตของผู้ใช้เส้นทางร่วมกัน

ถ้าเราขับรถยนต์ด้วยความใส่ใจในอารมณ์ความรู้สึกร่วมกับความรับผิดชอบ เราย่อมหยุดหรือเบาได้ โดยการหยุดหรือเบาของเรานั้น มิใช่เกิดจากการหยุดตามกฎจราจร...แต่หยุดด้วยความมีจิตสำนึกของตัวเราเอง โดยไร้แรงบีบบังคับจากระบบตัวบทกฎหมาย

รูปภาพ
Thanks: ฝากรูป


ฤาสิบล้อ ต้องการจะบดขยี้ชีวิตเด็กจักรยาน

ภาพรถพ่วงสิบแปดล้อที่เร่งความเร็วบีบแตรไล่หลังรถกระบะที่ข้าพเจ้าขับคุมซ้อมเพื่อปิดท้ายขบวนเด็กจักรยานบนถนนสายพิษณุโลก วังทอง ในวันนั้น การฝึกซ้อมมีวัตถุประสงค์ว่าจะออกฝึกซ้อมเพื่อสร้างความอดทน ใช้ความเร็วไม่สูงมากนัก เส้นทางที่ทีมจักรยานปั่นไปนั้น ช่วงแรกจะเป็นทางสายคู่ขนาน รถยนต์วิ่งเลนเดียวแบบวันเวย์ตามกันไป พอถึงช่วงสี่แยกวังทอง ห่างจากเมืองพิษณุโลกประมาณ 20 ก.ม. จะเริ่มเป็นทางสายเดียว รถวิ่งสัญจรไปมามาก บริเวณเส้นทางเต็มไปด้วยรถยนต์วิ่งอย่างหนาแน่น การสัญจรในช่วงการฝึกซ้อมนั้นมีผู้ใช้ยวดยานพาหนะหลากหลาย และเป็นเส้นทางเลนเดียวตรงยาวขึ้นไปขึ้นภูเขายาวข้ามจังหวัดมุ่งไปสู่เมืองเพชรบูรณ์

การฝึกซ้อมจักรยานนั้น นักกีฬาปั่นกันเป็นขบวนแถวยาวเคลื่อนไปเป็นทีม ในวันที่ทำการฝึกซ้อมคือวันอาทิตย์ และเป็นการปั่นฝึกซ้อมออกทางไกลตามวงรอบการฝึกซ้อมความอดทน ความเร็วของทีมจะไม่สูงมากเท่าใด ปั่นผลัดกันนำไปเป็นกลุ่มเพื่อช่วยให้ระดับความเร็วมีความเร็วอย่างต่อเนื่อง* เด็กที่ปั่นฝึกซ้อมจักรยานมีรวมทั้งหมด 6 คนด้วยกัน เป็นเด็กที่เก็บตัวฝึกซ้อมร่วมกันในทีมจักรยานศูนย์ฝึกจักรยานกองบิน 46 มีหัวลากคือศักดิ์ กัลยา ณัฐพล บำรุงรักษ์ และมีน้องใหม่อย่างปรมัต สุคตินาถ เด็กชายปัน พี่ใหญ่ที่ควบคุมการฝึกซ้อมหรือกัปตันทีมคือเสือเบส ชัยยุทธ เบญจมาศ เสือเม่น นายภาสุ สุคตินาถ โดยในวันนั้น ข้าพเจ้าเป็นคนขับรถกระบะปิดท้ายขบวน มีพี่โต้งจากชุมเสือบ้านคลองนั่งรถยนต์ตามไปดูการฝึกซ้อม และมีพี่หนุ่ย พลเมืองจิตอาสามาช่วยกันคุมทีมจักรยาน.....

รูปภาพ
Thanks: ฝากรูป




การฝึกซ้อมในวันนี้ โชคดีอย่างหนึ่งที่ทีมของเราใช้ความเร็วไม่สูงมากนัก เคลื่อนขบวนกันไปเป็นกลุ่มและทำการปั่นชิดขอบทางด้านซ้ายสุดไปตลอดเส้นทาง รถยนต์ที่ใช้คุมทีมจักรยานเป็นรถยนต์กระบะ ขับตามหลังเด็กทั้งหมดโดยมีระยะห่างจากกลุ่มประมาณ 10-15 เมตร การเคลื่อนที่ของทีมจักรยานจะเคลื่อนกันไปทั้งเด็กที่ปั่นจักรยานและรถกระบะปิดท้ายขบวน โดยทำการรักษาระดับและความเร็วในรูปของขบวนดังกล่าวตลอดเส้นทาง รถกระบะมีหน้าที่คอยรักษาดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับเด็ก มีเด็กชายนิวส์ อีกคนหนึ่งที่ยังมิได้กล่าวถึง คอยนั่งหลังกระบะรถยนต์ มีหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือส่งน้ำอาหารเสริมให้กับนักกีฬา พี่เลี้ยงจะส่งอาหาร น้ำ ยามเมื่อมีนักจักรยานคนไหนลงมารับอาหารระหว่างการปั่นฝึกซ้อม เด็กชายนิวส์ จะคอยทำหน้าที่ส่งน้ำ อาหาร อยู่บนหลังกระบะรถทีมพี่เลี้ยงหรือรถกระบะที่ปิดท้ายขบวน

ขบวนเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางพิษณุโลก วังทอง จะขึ้นเขาช่วงบ้านวังดินสอ ห่างจากเมืองพิษณุโลกประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร เลยทางแยกสายวังทองไปได้สักระยะหนึ่ง กระผมเห็นรถสิบล้อพ่วงจากกระจกหลังบีบแตรไล่ให้ทีมและเด็กจักรยานหลบ ทั้งทั้งที่เราได้ชิดขอบทางด้านซ้ายสุดแล้ว เมื่อพิจารณาการขับรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วและลักษณะที่รถวิ่งจากการมองกระจกหลัง มีข้อสังเกตอันเป็นเรื่องผิดปกติของคนขับรถที่มีมารยาทโดยทั่วไป เพราะรถพ่วงสิบล้อไม่ยอมชะลอความเร็ว ยังคงบีบแตรไล่ให้รถหลีกทางให้จงได้ ทั้ง ๆ ที่เส้นทางดังกล่าวนั้น เป็นถนนสายเลนเดียว มีรถและผู้คนพลุกพล่าน การขับรถด้วยความเร็วที่สูงของโชเฟอร์ตีนผี และไม่มีทีท่าว่าจะชะลอความเร็วลงอันเนื่องด้วยความมีจิตสำนึกในความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของคนอื่น ที่จะเป็นผลตามมาหรือไม่นั้น ตอนนี้เข้าใจได้อย่างคนที่เป็นปกติเช่นเราท่านเข้าใจกัน ว่า เขาไม่ยอมลดความเร็วลงแน่ ๆ

รูปภาพ
Thanks: ฝากรูป

กระผมยังคงขับรักษาระดับระยะห่างจากกลุ่มเด็กจักรยาน และเบี่ยงรถยนต์ลงชิดขอบทางแต่ยังคงรักษาระดับระยะห่างเรื่องความปลอดภัย มิติของการปิดท้ายขบวน ด้านข้างด้านขวาของรถยต์กระบะจะล้ำไปเลนทางด้านซ้ายสุด และมีเหลือช่องทางให้รถยนต์ขับผ่านไปได้ แต่ต้องขับปิดท้ายขบวนเด็กจักรยานโดยไม่เปิดช่องให้รถสิบล้อพ่วงคันดังกล่าวได้มีโอกาสเข้าใกล้กลุ่มจักรยาน กระนั้นก็ยังคงไม่เป็นที่พอใจของคนขับสิบล้ออย่างแน่นอน แน่ใจได้เลยว่า คนขับรถสิบล้อคันดังกล่าวเกิดจิตวิกลโกรธจัด ถ้าจะใช้ภาษาชาวบ้านอย่างเรา ๆ คือ ขอใช้คำว่า หมั่นไส้ เขาคงหมั่นไส้ทีมเด็กจักรยานทีมนี้ ที่ปั่นจักรยานแกะกะถนน เมื่อรถสิบล้อเคลื่อนผ่านแซงไปแล้ว เสียงแตรยังคงดังอย่างต่อเนื่องยาวไป ในขณะที่รถฝั่งตรงข้ามต่างก็หักหลบลงข้างทางกันเป็นพลันวัน

โชคดีที่ไม่มีคนเดินเท้าหรือมอเตอร์ไซค์วิ่งอยู่ข้างทางในช่วงที่รถฝั่งตรงข้ามหักหลบรถสิบล้อพ่วง ที่ขับแหวกฝ่าอันตรายอย่างไม่สนใจชีวิตใครเลย และเมื่อพ้นไปแล้ว ยังแถมอาการส่งท้ายให้กลุ่มจักรยานอีกหนึ่งอาการ คือเมื่อรถแม่ที่เป็นหัวพ่วงช่วงคนขับขับผ่านไป ยังมีรถลูกที่เป็นช่วงพ่วงลากจูง มั่นใจครับว่า ความหมั่นไส้ของคนที่อ้างว่าขับรถหนัก ย่อมอยากจะตอบแทนหรือแสดงอาการโต้ตอบเพื่อสอนหรือตักเตือนคนที่เขาไม่พอใจ มันเป็นเช่นนี้ ความจริงเป็นเช่นนี้ อ่านใจคนอ่านง่าย ไม่ยากหรอก สำหรับคนที่จิตไม่เป็นปกติเช่นนี้ โชเฟอร์ใช้ช่วงลูกตวัดเบี่ยงเข้าหารถกระบะและกลุ่มเด็กจักรยาน จากการที่เขาตวัดลูกพ่วงขับตบท้ายปาดหน้ากลุ่มเด็กจักรยาน ส่งผลให้เกิดผลขึ้นสมใจคนขับรถพ่วง ท้ายของรถพ่วงเกี่ยวเข้ากับกระจกด้านหน้าข้างกระบะเข้าอย่างจัง

รูปภาพ
Thanks: ฝากรูป



เสียงกระจกที่โดนท้ายรถพ่วงเกี่ยวดัง เพล้ง...


โชคดีประการหนึ่งในวันนั้น มีรถกระบะคอยป้องกันภัยปิดท้ายขบวนในการฝึกซ้อม เพื่อรักษาชีวิตอันเสี่ยงภัยบนท้องถนนให้กับเด็กจักรยาน

เมื่อตั้งสติได้ สายตาแลมองดูเด็กจักรยาน เห็นเจ้าเสือเบส ชัยยุทธ เบญจมาศ หักแฮนด์จักรยานของตนเองลงซ้ายสุด เป็นโชคดีของเด็กอย่างมาก ที่เขาปั่นชิดขอบทางด้านซ้ายและไม่มีอาการปั่นส่ายไปมาแบบคนหมดแรง ดีที่เป็นช่วงที่ปั่นกันด้วยความนิ่งและไม่ใช่ช่วงเปลี่ยนกันนำทีม มิเช่นนั้นรถพ่วงอาจจะเกี่ยวกับคนที่เปลี่ยนนำก็เป็นได้ สอบถามเด็กในภายหลังทราบว่าเขาเริ่มรู้ตัวว่าเสียงแตรจากรถสิบล้อนั้นมีความผิดปกติ เด็กชายจักรยานจับแฮนด์จักรยานมั่นไม่วอกแวก รักษาระยะการจี้ ปั่นชิดขอบทาง แต่กระนั้น รถพ่วงสิบล้อก็เฉียดเฉี่ยวผ่านพ้นไปเพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งฟุตนิ้ว

หันมองกลุ่มจักรยาน เด็กทุกคนปลอดภัย แต่รถสิบล้อยังคงวิ่งห้อตะบันเร่งความเร็วลากพ่วงไปอย่างไม่สนใจแยแสใยดี ......

โชเฟอร์ตีนผี.....ได้ขับรถพ่วงพยายามเร่งความเร็วหนีไปอีก เมื่อข้าพเจ้าขับรถยนต์ตามเพื่อเรียกให้จอด เพราะต้องการจะคุยกับโชเฟอร์ว่าจะทำอย่างไรดีเรื่องที่ขับเกี่ยวกับรถกระ

รูปภาพ
Thanks: ฝากรูป



ไม่จอดครับ ไม่จอดก็ขับตามไป ไปทันที่บริเวณเขาวังดินสอ พยายามส่งไฟกระพริบ บีบแตรให้จอดรถลงมาคุยกัน พี่โต้งจากบ้านคลอง นั่งรถกระบะไปด้วยกัน ได้โบกมือให้รถพ่วงสิบล้อชะลอความเร็ว ชิดซ้ายลงข้างทาง รถจอดข้างทางประจวบเหมาะกับกลุ่มเด็กจักรยานตามมาทันพอดี จึงเห็นเหตุการณ์ด้วยกันทั้งหมด

ที่จริงขับไล่ไปนั้น เพื่อจะขอคุยกับเขาให้รับผิดชอบที่ทำกระจกรถเราแตก และจะขอขอบคุณเขาอย่างมาก ที่ยังปราณีไม่อัดท้ายเข้าหาขบวนเด็กจักรยานไปมากกว่านั้น นั่นหมายถึงชีวิตเด็กจะนอนเรียงรายอยู่กลางท้องถนน

รูปภาพ
Thanks: ฝากรูป


มาถึงตรงนี้ กระผมมีหน้าที่รักษาชีวิต คุณจะทำอย่างไร ถ้าเด็กนอนเรียงรายอยู่บนศาลาวัด คุณจะทำอย่างไร ถ้าเด็กเราเป็นเช่นนั้น คุณจะขับรถหนีผมไปเฉย ๆ เช่นนี้หรือ ...

คุณน่ามาดูสิ่งที่คุณทำไว้หน่อยไม่ดีหรือ ด้วยใจจริง ผมยังขอบคุณคุณที่มีความปราณี แค่สั่งสอนเราเพียงเล็กน้อย

แต่ผมอยากให้คุณดูร่องรอยของสิ่งที่คุณทำ ว่า วันนี้จากนี้ไป คุณอย่าได้ไปทำกับคนอื่นอีกเลย

โชเฟอร์ตีนผีเปลี่ยนจากความโกรธเกรี้ยวเมื่อสักครู่ ยกมือท่วมหัวขอโทษเราทุกคน บอกว่ารถผมหนัก รถผมหนัก

รูปภาพ
Thanks: ฝากรูป


อ้าว ... ยังงี้มันก็เห็นแก่ตัวสิ ไม่เห็นชีวิตคนอื่นสำคัญหรือยังไง ถ้าเป็นลูกคุณบ้างละ เป็นรถญาติคุณบ้างละ ไม่เห็นหรือ เขาหลบข้างทางไปกันหมด

พี่หนุ่ย พ่อเด็กนักจักรยานาที่ปั่นมาด้วยกัน พรุ่งพล่านด้วยอารมณ์ที่ยอมรับไม่ได้กับการกระทำของโชเฟอร์ตีนผี

ไม่เห็นหรือ รถเขาพังนะ ไปดูซิ


อ๋อ..รถเป็นอะไรบ้างครับ พอดีรถผมมีประกัน เดี๋ยวผมโทรเรียกประกันมาเคลียให้ครับ
(คำพูดของโชเฟอร์รถพ่วงจบลง พร้อมกับความมึนงงของกระผม)

นี่คุณไม่รับผิดชอบอะไรเลยหรือ คุณชนแล้วบอกว่ารถผมมีประกัน แค่นี้เองหรือ แล้วมิติเรื่องของความรับผิดชอบ จิตสำนึกต่อชีวิตคนอื่นไปอยู่ตรงไหน

กระจกข้างรถผมพัง คุณมีตังค์ให้ผมไหม ไม่กี่ตังค์หรอก (พูดภาษาแบบชาวบ้านทั่ว ๆ ไป ตามอารมณ์และความรู้สึกในขณะนั้น)

ผมไม่มีเงินติดตัวมาเลยครับ เดี๋ยวเสียหายอย่างไร ผมจะให้ประกันทำให้ครับ(โชเฟอร์กล่าว)

โอ้โห ง่าย ๆ อย่างนี้เลยหรือ เอาละ ฉันไม่ต้องการเงินของคุณหรอก ไม่กี่บาทหรอก แต่นี้ถ้าคุณชนเด็กตาย แล้วคุณจะให้ประกันมาเคลียหรือ คุณพูดง่าย ๆ แค่นี้หรือ จิตแห่งความมีสำนึกคุณอยู่ตรงไหน....

ตกลงด้วยการกล่าวขอโทษของโชเฟอร์ และการมีสติเข้าครอบครองรู้สึกสำนึกผิด เป็นอันว่าข้าพเจ้าไม่ขอให้เขาชดใช้ค่ากระจกข้างรถยนต์ที่แตก ด้วยว่าไม่เป็นราคาจำนวนเงินที่มากนัก ชีวิตเด็กปลอดภัยนั้น เป็นบุญยิ่งแล้ว กล่าวขอบคุณเขาด้วยครับ ที่ไม่ขับหูดับตับไหม้ ชนดะไม่เลือกเหมือนกับที่พบเห็นคนเมาหรือคนบ้าเสพยาเสพติดคลั่งบ้าขับรถยนต์วิ่งชนคนตายก็มีให้เห็นเป็นตัวอย่างตามหน้าจอทีวีประจำวัน

มานั่งคุยกับพี่หนุ่ย พี่โต้ง คาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าไปว่า ถ้าหากสมมุติเขาชนเด็กเราทั้งกลุ่ม แน่นอนว่าต้องชนเราด้วย เพราะรถวิ่งด้วยความเร็วมาจากข้างหลัง สมมุติเราตาย แล้วคนขับรถที่ชนเราจะทำอย่างไร ท่านผู้อ่านเห็นความจริงกับคำตอบไหมว่าโชเฟอร์จะทำอย่างไร

เขาก็เดินข้ามถนนไป หายลับไปกับกลีบเมฆ

ชีวิตคนเราไม่ใช่เรื่องการประกันนะครับพี่น้อง ชีวิตคนที่พิการจากอ้ายบ้าคนหนึ่ง ชีวิตคนที่ทุพลภาพ ชีวิตพ่อที่มีลูกรอคอยอยู่ที่บ้าน ชีวิตลูกที่มีแม่คอยให้ความรักเฝ้าเลี้ยงถนอมอุ้มชู

ต้องมาพิการ เดินไม่ได้ เพราะความริยำจากการกระทำของอารมณ์ที่เป็นเพียงการสนองต่อการกระทำที่ไร้การรับผิดชอบ

อุบัติเหตุนั้น สิ่งที่เราไม่เคยพูดถึงกันเลยคือ ตัวบุคคล การเกิดจากความตั้งใจของคนขับก็มีมาก ตั้งใจอย่างไร ใช้รถใช้ถนนมาท่านเคยเห็นไหม บางคนขับรถเร็วมาก บางทีขับจะแซงทั้ง ๆ ที่แซงไม่ได้ บางคนเกิดอาการหมั่นไส้ ขับตบเข้าหาเพื่อให้ลงข้างทาง และเหตุที่เราพบในวันนี้นั้น คือเหตุอันเป็นเช่นนี้ ด้วยการขาดการยั้งคิดอย่างยิ่ง

คือความจริงข้อหนึ่งว่า อุบัติเหตุ มิใช่เกิดจากสิ่งอันใด แต่เกิดจากจิตอันติดความเร็วของมนุษย์ เกิดจากความเห็นแก่ตัวประการแรกสุดเลย ไม่คำนึงถึงชีวิตคน และเพื่อนร่วมทาง

เมื่อขับรถด้วยความเร็ว เขาไม่เคยคิดถึงชีวิตคนอื่น แม้แต่ชีวิตตนเองยังไม่เคยคิด ติดอารมณ์หนึ่งซึ่งเป็นความรวดเร็ว ประหนึ่งว่าขับช้าขวางทางอยู่ได้ เดี๋ยวพ่อปาดเข้าให้หรอก ....นี้คือความเป็นจริง ใช่หรือไม่


ท้ายที่สุด เราก็ได้แต่คุยกับโชเฟอร์ด้วยความเป็นจริง และขอบคุณเขาด้วยที่ยังปราณีเด็กจักรยาน ไม่ขับชนดะเรื่อยไป ไม่อย่างนั้น เราคงจบสิ้นชีวิตกันไปแล้ว และวอนขอว่าอย่าไปทำกับคนอื่นเช่นนี้อีก

เรื่องเล่านี้คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริง และเป็นหนึ่งในขวากหนามที่มิได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาย ชีวิตจักรยาน ไม่มีอะไรที่ได้มาด้วยความสบาย มีทั้งความเสี่ยงต่อยวดยานพาหะนะ เสี่ยงภัยบนท้องถนน ไหนจะต้องอดทนต่อการฝึกซ้อม แน่นอนว่าจะต้องมุ่งมั่นมีวินัยในตนเองอย่างสูงยิ่ง ชีวิตที่ก้าวย่างไปสู่ดวงดาวบนท้องฟ้าอันใสกระจ่างได้ จะต้องผ่านความยากลำบากชนิดที่บางครั้งต้องใช่ชีวิตตนเองทั้งชีวิต...............

เรื่องเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการฝึกซ้อม จักรยานคือชีวิต วันนี้เรามีหน้าที่รักษาชีวิต และการรักษาชีวิตเด็กนั้น ต้องใช้ทั้งชีวิตเราด้วยเช่นกัน……………

ข้าพเจ้าหวังว่า จะมีสักคนหนึ่งหรือสองคน ที่มิเคยปั่นจักรยานหรือปั่นจักรยาน และที่ไม่ใช่นักจักรยานเข้ามานั่งอ่านบันทึกฉบับนี้ และขอฝากความปรารถนาด้วยจิตตั้งมั่นว่า ขอได้โปรดมีความเห็นใจในบุคคลที่ปั่นจักรยานอยู่ตามท้องถนน ยามเมื่อเข้าใกล้จักรยาน ได้โปรดอย่าขับรถเข้าไปใกล้เขาเลยครับ เพราะเป็นอันตรายอย่างมาก หากบังเอิญจักรยานล้มในจังหวะที่กำลังจะขับรถยนต์แซง จะชนเข้าทันทีหากไม่มีช่องว่างระหว่างการแซงที่เป็นมิติของระยะห่างที่ปลอดภัย

รูปภาพ
Thanks: ฝากรูป


..............................
เช่นนั้นแล้ว ทำไมถึงมาปั่นบนท้องถนนละ เพราะว่านักกีฬาต้องฝึกซ้อมบนท้องถนนร่วมกันครับ ไม่ว่าจะปั่นท่องเที่ยว ปั่นทางไกล ปั่นรวมกลุ่ม นักจักรยานต้องอาศัยถนนหนทางเป็นเรื่องการเดินทางไปให้ถึงจุดหมายด้วยเช่นกัน แต่เส้นทางที่จักรยานใช้ คือช่องทางเท้าชิดขอบทางซ้ายสุด ขอพื้นที่และขอความมีเมตตาจิตต่อชีวิตทุกชีวิต ด้วยการขับรถยนต์อย่างมีจิตใจใสกระจ่างต่อความดี ความรับผิดชอบ ไม่ติดร่องรอยของความเร็ว ไม่ยึดติดความรวดเร็วที่มาครอบครองอารมณ์ความรู้สึกนึกคิด


นำบทเรียนที่ว่าด้วยการเสี่ยงภัยบนท้องถนนมาเล่าเรื่องให้พี่น้องทุกท่านฟัง ว่าชีวิตคนปั่นจักรยาน มีความผูกพันที่มีคนรอคอยอยู่เช่นเดียวกับทุก ๆ ชีวิต

รูปภาพ
Thanks: ฝากรูป
ทุก ๆ ชีวิตจึงมีความหมายอันประเสริฐอย่างสูงสุดด้วยเช่นกัน ถ้าเราใช้ใจนำทาง .....ใช้ชีวิตอย่างมีจิตสำนึกรู้ ด้วยความใส่ใจของตัวเราเองขอรับ

 

หมายเลขบันทึก: 435905เขียนเมื่อ 19 เมษายน 2011 09:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:41 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

การตั้งบันทึกนี้ขึ้นมา เพราะเราต่างก็พานพบกับอุบัติเหตุประจำวันกันทุกคน จะมีผลดีอย่างยิ่ง หากคนที่อ่านบันทึกแล้วเข้าใจการปั่นจักรยานบนถนน นี้คือสิ่งที่กระผมมุ่งหวังไว้ ว่า ขอพื้นที่ให้จักรยานได้ออกกำลังกาย ได้ปั่นจักรยานอย่างไม่ต้องหวาดระแวงต่อความรวดเร็วบนท้องถนนมากนัก ...

หากใจเราเรียนรู้ความช้า ทุกอย่างจะสงบอย่างยิ่งครับ

ไม่มีน้ำใจกันบ้างเลย ต้องระวังหน่อยแล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะคุณเนิ่ม

ลุ้นระทึกทุกตัวอักษรค่ะ ด้วยใจไม่ดี แต่ก็โล่งใจ

น้บว่าโชคดีที่เด็ก ๆ ไม่เป็นอะไรมากนะคะ

อย่างนี้แหละค่ะ ครูอิงและลูกก็เคยโดนแบบนี้จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด

กับการขับมอเตอร์ไซด์บนท้องถนน  เป็นกำลังใจให้คุณเนิ่มและเด็ก ๆ ทุก ๆ คนนะคะ

ถามคนขับรถพ่วงหน่อยเถิด  ความเสียหายใด ๆ เคลียร์ได้  ซ่อมได้  แต่ชีวิตคนไป

อะไรไป อาจจะเคลียร์ได้ แต่ไม่อาจเรียกคืนมาได้  ถ้าเป็นลูกคุณหล่ะ

สวัสดีค่ะ

โอ.....ไม่ทราบจะร้องเพลงอาไร

ก่อนแรก....ฝากความรัก คิดถึง และปรารถนาดีมาให้ทุกเสือค่ะ ทุกรุ่น  เสือยางดอก  เสือยางตัน.....ไม่มีปัญหา 

แถวนั้นจากหน้าป้ายชัยนามขึ้นไป   เป็นเส้นทึบห้ามแซง   ไปจนถึงหน้าค่ายฯ นะคะ   บีบแตรไล่ได้ไง

น้อยไปนะ...คุณหนุ่ยหน่ะ

เจอประจำเลยค่ะ "ขับรถผิดกฏแล้ว  คนอื่นเสียหาย  ซ้ายขวาเรียกประกัน  จิตใจต่ำยิ่งกว่าสุนัข   จะคิดเอื้ออาทรกันไม่มีเลย"

อยากเขียนบ้านนะเรื่องนี้ เจอมาจะ จะ  กับตัวเองเหมือนกัน  "ล้วงนามบัตรหาเสียงนักการเมืองมาขู่ด้วย"   แต่สั่งสอนไปสุดฤทธิ์เหมือนกัน

เชียร์ ๆ ๆ ๆ  ค่ะนักเสือปั่นทั้งหลาย   รอเจอครูคิมชิชะ

ต่อไปก็คงต้องเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นๆ ไปอีก

จิตมนุษย์นี้ไซร้ยากแท้หยั่งถึง ความคิดที่เพียงจะเอาชนะกัน หมั่นไส้กัน วูบเดียวแท้ๆ ที่ขาดสตินำ ขาดเมตตา ก็สามารถ/อาจนำความสูญเสียที่ไม่คาดคิดได้

ด้วยความห่วงใยเด็กๆ เยาวชนทุกคนค่ะ

สวัสดีค่ะ

"....อุบัติเหตุ มิใช่เกิดจากสิ่งอันใด แต่เกิดจากจิตอันติดความเร็วของมนุษย์ เกิดจากความเห็นแก่ตัวประการแรกสุดเลย ไม่คำนึงถึงชีวิตคน และเพื่อนร่วมทาง...."

ตรงนี้สะกิดใจได้หลายๆคนค่ะ

อ่านข้อความแล้ว โมโหแทนเลยค่ะ

คนเห็นแก่ตัว และไม่รับผิดชอบนี่ แย่...จริงๆค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ'เนิ่ม'

แวะมาให้กำลังใจในการทำงานและมีแนวคิดมาฝากค่ะ

ทำอย่างไร?จึงจะผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดในการจำกัดความเร็วรถบรรทุกและพาหนะรถยนต์ทั่วไปในเขตชุมชน, เขตที่มีเส้นทางจักรยาน และในเรื่องของการทำเส้นทางจักรยานในจังหวัดที่ใช้ในการฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขันจักรยานในระดับต่างๆ

ในเรื่องของการทำเส้นทางจักรยานที่ใช้ในการฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขัน ไม่ได้หมายความว่าต้องมีทุกจังหวัด ต้องขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศด้วย มีที่จังหวัดไหน?ใคร?จะฝึกซ้อมการขี่จักรยานทางไกลก็ต้องไปที่จังหวัดนั้นๆ จังหวัดพิษณุโลกน่าจะทำขึ้นเป็นตัวอย่างเพราะมีครูฝึกซ้อมที่ทุ่มเทการทำงานด้วยจิตวิญญาณ...

ขอเป็นคนหนึ่งในการ ผลักดันการทำเส้นทางจักรยานที่ใช้ฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขันของจังหวัดพิษณุโลกให้เป็นวาระแห่งชาติ

 

สวัสดีครับคุณครูจันทวรรณ ปิยวัฒน์

.....

เพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบแท้ ๆ โชคดีที่มีรถกระบะปิดท้าย ขนาดมีรถกระบะปิดท้ายเปิดไฟให้สัญญาณ อารมณ์เช่นนี้เป็นอารมณ์ชั่ววูบ ความจริงเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร การขาดสติยั้งคิดมักจะทำให้เดือดร้อนเสมอ เวลาเราลงไปคุยกับเขา คำว่าขอโทษที่ใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย ไม่มีความหมายอันใด เพราะสิ่งที่ได้กระทำ มันผ่านไปแล้ว

สติเช่นนี้ครับ อารมณ์เช่นนี้ คือเรื่องตัวบุคคล ไม่ว่าจะมีกฎหมายมาอย่างไร ออกกฎอย่างไร ก็ไม่สามารถคุ้มครองได้ เพราะตัวบุคคลขาดซึ่งจิตสำนึกรับผิดชอบ

ขับไปได้อย่างไร ทั้งที่มีชีวิตคนอื่น แล้วเป็นเด็กด้วย หน้าที่ของกระผมคือหน้าที่สำคัญ ต้องเอาชีวิตเข้าแลกด้วยเหมือนกันครับ ..

ขอบพระคุณมากครับที่เข้ามาอ่าน ความหวังหนึ่งคือเรื่องราวของเราได้สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของผู้ใช้รถใช้ถนน ให้เห็นใจและรู้สึกเอื้ออาทรต่อจักรยาน ต่อคนปั่นจักรยาน ต่อชีวิตจักรยาน และต่อชีวิตทุกชีวิต ครับ

กระผมขอขอบพระคุณคุณครูมากครับ กระผมขอเรียกว่าคุณครู เพราะความหมายในใจของคำว่าครูนั้น มีความหมายยิ่งใหญ่ในใจอย่างมาก ครูผู้ประสาทวิทยาการ ครูผู้ถ่ายทอดจิตวิญญาณ ครูผู้เอื้ออารี ท่านคือครูในใจกระผมขอรับ

สวัสดีครับคุณครูอิงจันทร์

ความเห็นของคุณครูตรงประเด็นครับ  เมื่อกระผมเขียนบันทึกนี้ขึ้นมา  ปรากฎว่า  ปัญหานี้เป็นปัญหาระดับชาติเลยละครับ  เพราะทุกคนเจอปัญหาแบบเดียวกันหมด  และทุก ๆ คนเจอปัญหาเดียวกันหมดเลยเมื่อคุยกันไปเรื่อย ๆ

ครูอิงจันทร์ก็เกือบประคองชีวิตไม่รอด  ทั้งลูกทั้งครู  สงสารครับ  เห็นใจเมื่อถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้สะท้อนจิตใจอย่างยิ่ง  คำว่าลูก  คำว่า พ่อ  คือเสาหลักของชีวิตโดยแท้ ....

 

เช่นกัน  ถ้ากระผมเสียชีวิต  แล้วลูกจะเป็นอย่างไร  ถ้าลูกเราเสียชีวิต  แล้วจะเป็นอย่างไร  อุบัติเหตุไม่ใช่เรื่องอะไรเลย  ประการแรกสุดเลย  กระผมตั้งประเด็นไว้ที่เรื่องอันไร้สำนึกโดยแท้  ที่เหลือนอกจากนี้จะเป็นองค์ประกอบตลอด  เช่น  ถ้าเรามีจิตสำนึกที่ได้รับการเฝ้าบ่มเพาะอารมณ์แงความรัก เอื้ออาทร  อารมณ์แห่งความไม่เร่งรีบ  อารมณ์ของการไม่แข่งขัน  เราจะพบคำตอบได้ว่า  ชีวิตมีความประเสริฐสุด

เราจะไม่ทำร้ายชีวิตทุกชีวิต  ทั้งที่เจตนาและไม่เจตนา 

ย่ายิ้มจะฟันจอบลงผืนดินเพื่อทำฝายกั้นน้ำ  ย่ยิ้มยังขอขมาป่า  ขอขมามดหนูแมลง  สำคัญเสียยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด  จิตสำนึกแห่งความประเสริฐสูงสุด

ขอขอบพระคุณมากครับคุณครูอิงจันทร์ ที่เข้ามานำเสนอเรื่องราวที่ตนเองประสพพบ  ขอให้พระคุ้มครองขอรับ 

สวัสดีครับแม่ครูคิม....ครูอาสาของเด็ก ๆ ที่บ้านหลังนี้

.....

เวลาครูคิมเป็นนักสู้ เป็นนักต่อสู้ได้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง สมกับเป็นยอดหญิงที่แกร่งทางจิตใจ อ่านข้อความคุณครูคิม ทำให้เข้าใจอารมณ์นักต่อสู้เคลื่อนไหว อารมณ์เช่นนี้ ยกย่องครับ เสียดายที่ครูคิมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย จะได้ช่วยอบรมณ์บ่มนิสัยให้โชเฟอร์อย่างดีเป็นแน่แท้ครับ

......

คุณครูคิม ครูแข็งแกร่งหญิงเหล็กอีกหนึ่งในครูต้นแบบของกระผมขอรับ

สวัสดีครับคุณครูลำดวน

ขอบพระคุณมากครับ มีชีวิตอยู่ก็สู้กันต่อไป บนท้องถนน คนไม่เห็นความสำคัญของจักรยาน ประเมินการขี่จักรยานไม่ค่อยถูก บางครั้งที่เราพบกันบ่อยมาก คืออยู่ ๆ ก็แซงพุ่งตรงเข้ามาหา บางครั้งขับรถแซงแล้วเลี้ยวซ้ายเลย หลายคนเจอปัญหานี้อย่างจัง แต่ช่างเถอะ ผ่านไปแล้วชีวิตยังอยู่ แต่อยู่ต่อไปคือขอช่วยกันร่วมกันสร้างจิตสำนึกความดี ต่อไปครับ

ดีใจมากครับที่คุณครูเข้ามาอ่านบันทึกและแสดงความคิดเห็นขอรับ

ขอบพระคุณค่ะ

เข้ามาอ่านแก๊งจักรยานของคุณเนิ่มบ่อยๆ เพราะใจอยากให้ลูกเป็นนักปั่นค่ะ เพราะพ่อเขาก็ชอบปั่นจักรยานค่ะ

ขอประทานอภัยเป็นอย่างยิ่งครับท่าน ดร.พจนา แย้มนัยนา

กระผมเพิ่งเดินทางกลับมาจากพาเด็กไปแข่งจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ที่จังหวัดอุบลราชธานี เลยมิได้เข้ามาตอบขอบพระคุณ

....

เมื่ออ่านความคิดนึกขิองท่าน ดร.พจนาแล้ว กระผมก็เห็นด้วย ขอขอบพระคุณมากครับที่ได้ช่วยจุดประกายความคิดให้เกิดขึ้นครับ

ขอประทานอภัยท่าน ดร.พจนา แย้มนัยนา ครับ ที่ตอบล่าช้า

เนื่องจากกระผมเพิ่งเดินทางกลับมาถึงบ้านเมืองพิษณุโลก จากการพาเด็กไปแข่งจักรยานรายการชิงแชมป์ประเทศไทย ที่จังหวัดอุบลราชธานี เลยมิได้เข้ามาในบันทึกครับ

ขอขอบพระคุณมากครับ ที่ให้กำลังใจและให้แนวความคิด มีโอกาสจะขอสานต่อให้เกิดขึ้นเป็นความจริงครับ

สวัสดีค่ะคุณ'เนิ่ม'

เรื่อง การผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ และ ตัวอย่าง เขียนไว้ในอนุทิน ถ้ามีเวลาลองอ่านดูนะคะ และมีของประเทศแคนาดาต้องแปลหน่อย ที่สำคัญควรติดตามข่าวของกรุงเทพมหานคร ในเรื่อง การใช้เส้นทางจักรยาน หาเวลาเข้าไปนั่งฟังการประชุมได้ก็จะดี เพราะยังไงเรื่องนี้ กำลังจะเป็นวาระแห่งชาติอยู่แล้ว เห็นทำงานจริงจังน่าจะเป็นผู้ริเริ่มในจังหวัดพิษณุโลก ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท