Clip VDO; This is Life...Nick Vujicic หนุ่มพิการไม่มีแขน-ขา (เข้าอ่านที่นี่)

Downlods File PDF; Next Time (Click Here) รวมภาพประำกอบทั้งหมด เข้าดูได้ที่นี่

TRULY AWESOME STORY ! ! ! ! !
ถ้าคุณคิดว่าชีวิตคุณมันยากนักหละก้อ ... คิดใหม่ได้นะ !!

My name is Nick Vujicic and I was born without limbs and doctors have no medical explanation for this birth 'defect'. As you can imagine, I was faced with many challenges and obstacles.

ผม ชื่อ Nick Vujicic ผมเกิดมาอย่างไม่มีแขนไม่มีขา โดยมีแพทย์เองก็ไม่สามารถหาคำอธิบายใดๆ ได้ว่ามีสาเหตุจากอะไร คุณคงพอจะนึกได้ว่าผมจะต้องเจออุปสรรคและความท้าทายอย่างไรบ้างในชีวิต

Their firstborn son had been born without limbs! There were no warnings or time to prepare themselves for it. The doctors we shocked and had no answers at all! There is still no medical reason why this had happened and Nick now has a Brother and Sister who were born just like any other baby.

Nick เป็นลูกคนโตที่เกิดมาโดยไม่มีแขนและขา ไม่มีสัญญานเตือนหรือเวลาในการเตรียมการสำหรับครอบครัว หมอเองก็แปลกใจและไม่สามารถหาคำอธิบายในทางการแพทย์ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ในขณะที่น้องชาย น้องสาวของเขาเกิดมาอย่างเด็กปกติทั่วไป

I know that there is no such thing as luck, chance or coincidence that these 'bad' things happen in our life. I had complete peace knowing that God won't let anything happen to us in our life unless God has a good purpose for it all

ผม รู้ว่าไม่มีความบังเอิญที่สิ่งแย่ๆ จะเกิดขึ้นมาในชีวิตคนเรา ผมรับรู้ด้วยสันติสุขภายในว่าพระเจ้าจะไม่ดลบันดาลให้เกิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งใน ชีวิตเราโดยไม่มีวัตถุประสงค์ที่ดีอยู่เบื้องหลังสิ่งเหล่านั้น

I am now twenty-three years old and have completed a Bachelor of Commerce majoring in Financial Planning and Accounting. I am also a motivational speaker and love to go out and share my story and testimony wherever opportunities become available. I have developed talks to relate to and encourage students through topics that challenge today's teenagers. I am also a speaker in the corporate sector.

ผม อายุ 23 ปีแล้วและจบปริญญาตรีทางธุรกิจ เอกทางด้านการเงินและบัญชี นอกจากนี้ผมยังเป็นวิทยากรรับเชิญที่จะไปพูดเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้คน ผมเองก็รักในการที่จะเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ตามที่โอกาสจะอำนวยเพื่อแบ่งปันเรื่องราวของผมและถ่ายทอดประสบการณ์ตรงของตน เอง ผมพัฒนาการพูดที่จะให้เชื่อมโยงเข้ากับเด็กวัยรุ่นเพื่อที่จะเข้าให้ถึงเขา และปลุกเร้าให้เขาเหล่านั้นสามารถที่จะลุกขึ้นมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความหมาย และผมยังคงเป็นวิทยากรให้กับภาคธุรกิจด้วยเช่นกัน

I have a passion for reaching out to youth and keep myself available for whatever God wants me to do, and wherever He leads, I follow. Writing several best-selling books has been one of my dreams and I hope to finish writing my first by the end of the year.

ผม มีเรื่องราวและสถานะที่เพียงพอที่จะเข้าถึงวัยรุ่นเหล่านั้น และทำให้ผมเองได้มีโอกาสทำในสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้ผมทำ อย่างไรก็ตามพระเจ้ายังคงเป็นผู้นำทางผมตลอดเวลา สำหรับอีกหนึ่งในความฝันของผมที่อยากจะทำคือ อยากจะเขียนหนังสือที่ติดอันดับขายดีกับเขาบ้าง ซึ่งผมคาดว่าคงจะเสร็จเล่มแรกได้ภายในสิ้นปีนี้  

I believe that if you have the desire and passion to do something, and if it's God's will, you will achieve it in good time. As humans, we continually put limits on ourselves for no reason at all! What's worse is putting limits on God who can do all things. We put God in a 'box'. The awesome thing about the Power of God, is that if we want to do something for God, instead of focusing on our capability, concentrate on our availability for we know that it is God through us and we can't do anything without God. Once we make ourselves available for God's work, guess whose capabilities we rely on? God's!

ผม เชื่อเหลือเกินว่าถ้าเราเลือกที่จะทำอะไรบางอย่างและมันก็ตรงกับพระประสงค์ ของพระเจ้า เราจะบรรลุผลสำเร็จได้แน่นอน ลำพังเพียงความเป็นมนุษย์ของเรานั้น เรามักจะมีขีดจำกัดอันไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง แล้วจะไม่เป็นการดีกว่าหรือที่เราจะปล่อยโอนขีดจำกัดนั้นให้ไปเป็นของพระ เจ้าซึ่งท่านสามารถทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว เราเพียงวางพระองค์ไว้ ณ ที่ที่เหมาะสม สิ่งพิเศษสุดที่เกี่ยวกับพลังของพระองค์ก็คือ ถ้าเราต้องการที่จะทำอะไรเพื่อพระองค์แล้วหละก้อ แทนที่จะมุ่งเน้นมาที่ความสามารถหรือศักยภาพของเรา สำหรับเราเองที่ก็รู้อยู่ว่าพระองค์ทรงมีอยู่จริงผ่านทางเรานั่นเอง และเราไม่สามารถทำอะไรต่างๆ ได้โดยปราศจากพระองค์ ดังนั้นเมื่อเราเลือกที่จะทำงานให้กับพระองค์ ลองเดาดูสิว่าแล้วศักยภาพที่จะใช้ทำนั้นจะขึ้นอยู่กับใครล่ะ ถ้าไม่ใช่...พระเจ้า !!

( ปล.
แตงเจอ File นี้ใน Blog ; ห้องสมุดสตางค์ มงคลสุข คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล (เข้าที่นี่ค่ะ) จึงได้นำส่งให้ ครูอ๊อด ช่วยแปลให้ และเมื่อครูอ๊อดส่งกลับมาพร้อมคำแปล ก็รีบนำขึ้น blog เพื่อเผยแพร่เลยค่ะ

ขอบพระคุณครูอ๊อดมากเลยค่ะ

ความในใจของผู้แปล;
ถ้าการแปลนี้จะช่วยให้กำลังใจคนอื่นๆ ต่อไปได้ค่ะ สำนวนอาจจะไม่ดีนัก แต่หัวใจเต็มร้อยค่ะ...พี่อ๊อด)