ภาพวาดโดย : เสวก ใยอินทร์ คนหนองบัว
สมาชิกกลุ่มพริกเกลือ ในบล๊อก คนหนองบัวกับพริกเกลือ
สังคมไทยเป็นเกษตรกรรมมาแต่โบราณ การทำนาถือเป็นอาชีพหลัก ทำไร่ ทำสวน ก็รองๆลงมา ระบบการผลิตแบบดั้งเดิมของพี่น้องชาวนาของเรานั้น ต้องอาศัยแรงงานจากสัตว์ใหญ่ไม่ว่าช้าง ม้า วัว ควาย
นับว่าสัตว์ดังกล่าวได้มีบทบาทต่อการประกอบอาชีพเกษตรอย่างสูง พูดง่ายๆว่าในอดีตนั้นการเกษตรขาดแรงงานจากสัตว์ไม่ได้เลย คนไทยจึงมีความผูกพันกับสัตว์ โดยเฉพาะวัว-ควายอย่างมาก ถึงกับยกให้เจ้าทุยเป็นสัตว์มีบุญคุณ
นาห้าไร่ สิบไร่ ยี่สิบไร่หรือมากกว่านั้น ดูเหมือนไม่มากมายอะไรนัก แต่เมื่อทำจริงๆแล้วจะรู้ว่าโหดเลยแหละ เจ้าทุยของเราไถนากว่าจะได้แต่ละไร่ เหนื่อยมาก หอบลิ้นห้อยทีเดียว คนก็หอบไม่แพ้กัน เหนื่อยหอบตับแลบ
ด้วยความสำคัญดังกล่าว เจ้าทุยไม่ใช่สัตว์เลี้ยง สัตว์เศรษฐกิจ ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงโชว์ ไม่ใช่สัตว์สวยงาม ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงประดับบารมีเกียรติยศ ไม่ใช่สัตว์ที่เลี้ยงไว้ในสวนสัตว์ แต่สัตว์ชนิดนี้เป็นสัตว์ที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เป็นสมาชิกในบ้านที่มีความสำคัญมากกว่าความเป็นสัตว์ ทำนองว่า ขาดฉัน(เจ้าทุย)แล้วเธอจะรู้สึก(อดข้าวแน่)
สินสอดงานแต่งงานของคนหนองบัว-หนองกลับ นอกจากเรือนหอหลังใหม่ เงิน ทอง ที่เป็นสินสอดแล้ว ก็ยังจะมีเจ้าทุยและวัวด้วย วัวก็หนึ่งคู่ ใช้เทียมเกวียนเล่มใหม่เอี่ยม ถ้าเป็นรถยนต์ก็ออกใหม่ชนิดไม่ต้องดาวน์ เป็นเกวียนมือหนึ่งอย่างเดียวเท่านั้น เจ้าทุยที่เป็นสินสอดงานแต่งงานนี้ก็ขึ้นอยู่กับฐานะเจ้าบ่าว ถ้าเจ้าบ่าวมีพี่น้องหลายคน น้องๆยังมีความจำเป็นต้องใช้เจ้าทุยไถนาอีกหลายปี กรณีนี้การนำเจ้าทุยไปเพียงตัวเดียวก็พอ เพราะกว่าจะได้บ้านเรือนหอแต่งงาน เกวียน วัวหนึ่งคู่ เจ้าทุย ๑-๒ ตัวนั้น ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆเพียงสองปี พ่อแม่ต้องตระเตรียมสิ่งเหล่านี้ให้ลูกแต่ละคนด้วยเวลาหลายปีทีเดียว ลูกชายแต่ละคนกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ต้องผ่านงานสักสองสามงาน งานหมั้น(งานดอง) งานบวช คัดเลือกทหาร
ส่วนบ้านหรือเรือนหอนั้น ส่วนใหญ่ก็ทำขึ้นใหม่ ถ้าในกรณีลูกสาวคนเล็ก ส่วนมากพ่อแม่จะยกบ้านของท่านให้เป็นเรือนหอ ไม่ต้องทำเรือนหอก็เรียกว่าแต่งบ้านเก่า ภาษาท้องถิ่นจะมีคำพูดว่าแต่งบ้านใหม่ แต่งบ้านเก่า –แต่งเรือนใหม่ แต่งเรือนเก่า
เจ้าทุยและวัวบ้านหนองบัว-หนองกลับ จะถูกแยกออกจากบ้านเดิมไปอยู่เรือนหลังใหม่กับเจ้าบ่าวในวันนี้ทั้งเจ้าทุยและวัวจะดูดีกว่าทุกวัน จะมีคนคอยดูแลทำความสะอาด เช็ดถูเนื้อตัวให้ดูดี เขาก็ทาน้ำมันเลื่อมเป็นเงาดำเมื่อม
ทั้งวัวและเจ้าทุยที่นำมาเป็นสินสอดวันแต่งงานนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นสมบัติของเจ้าบ่าวมาก่อนหน้านี้แล้วสองสามปี คือถูกเลือกใช้หรือพ่อแม่เตรียมยกให้ลูกชายตั้งแต่ยังไม่บวชโน่นแล้ว และเจ้าบ่าวนั้นก็เคยนำไปช่วยงานคู่ดองไถนาบ้าง เข็นข้าวฟ่อนบ้าง นวดข้าวบ้าง ตั้งแต่ดองกัน ก่อนบวช และต่อมาจนกระทั่งถึงวันแต่ง
นี่ก็คือบทบาทของเจ้าทุยหนองบัว**ที่พิเศษกว่าในท้องถิ่นอื่น ๆ
...............................................................................................................................................................................
หมายเหตุและเชิงอรรถบทความ
* บทความนี้เขียนและบันทึกถ่ายทอดไว้ในเวทีคนหนองบัว โดย ท่านพระคุณเจ้า พระมหาแล ขำสุข(อาสโย) ในชื่อหัวข้อเดียวกันนี้ที่ dialogue box 756 ของเวทีคนหนองบัว เพื่อให้เป็นแหล่งรวบรวมและค้นหาอ่านได้ง่าย รวมทั้งเพิ่มพูนศักยภาพการเขียนสะสมความรู้ สร้างวัฒนธรรมการอ่านและใช้ความรู้ในวิถีชีวิต ส่งเสริมให้ชาวบ้านและคนทั่วไปเข้าถึงความรู้ของท้องถิ่นที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์ของคนจากชุมชน ผ่านระบบค้นหาความรู้และข้อมูลทางเทคโนโลยี IT บูรณาการมิติชุมชนเข้ากับเทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรมความรู้ผสมผสาน ต่อยอดขึ้นจากพื้นฐานชนบท ซึ่งจะส่งเสริมให้ชุมชนมีภูมิปัญญาปฏิบัติในชีวิตและเป็นองค์ประกอบการก่อเกิดสุขภาวะและสังคมเข้มแข็งในชุมชน ผมจึงขอนำมารวบรวมไว้เป็นหัวข้อเฉพาะนี้อีกครั้งหนึ่ง และเพื่อให้ความเคารพในความสร้างสรรค์และมีส่วนร่วมเขียนข้อมูลความรู้จากเรื่องราวในวิถีชีวิตสะสมเป็นภูมิปัญญาสาธารณะ ผมจึงขอรักษาความเป็นต้นฉบับไว้โดยจัดย่อหน้าให้ง่ายต่อการอ่านและปรับแต่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
* อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์
สวัสดีครับอาจารย์ขจิตครับ
ก๊ากๆ 8 ปี นานเกินไปครับ ...
เจริญพรอาจารย์ขจิต