ความเป็นหนองบัวในรอบ ๓ เดือน กุมภาพันธ์-เมษายน
มีความหมายและมีโอกาสความสร้างสรรค์อยู่ในตนเองมากมาย
ในช่วง ๓ เดือนระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นช่วงเทศปีใหม่ของชาวไทยจีน ไปจนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นปีใหม่ของไทย ชุมชนหนองบัวจะอยู่ในช่วงหลังฤดูเก็บเกี่ยว เกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ เพิ่งจะเสร็จสิ้นการเก็บเกี่ยวและขายผลผลิต พร้อมกับมีรายได้พอซื้อหาสิ่งอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า การเตรียมงานบวช งานแต่งงาน งานทำบุญ บำรุงวัดและสิ่งสาธารณะ สร้างและซ่อมแซมบ้าน ซื้อหาและทำเครื่องมือทำมาหากิน ตลาดหนองบัวรวมทั้งสังคมเศรษฐกิจของชุมชนก็จะมีความเคลื่อนไหวคึกคัก ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นช่วงแห่งความสุข รื่นรมย์ใจ และมีเวลาเพื่อร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสรรค์ชีวิตความเป็นส่วนรวมของประชาชนและชุมชนจากหลากหลายวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง
นับแต่เดือนกุมภาพันธ์ก็จะเริ่มอยู่ในบรรยากาศของตรุษจีน ย่านตลาดร้านค้าจะตบแต่งอย่างมีสีสัน ช่วงเดือนมีนาคม ก็จะมีงานรื่นเริงและงานบุญต่างๆของวัดและชุมชนในท้องถิ่น ช่วงปลายเดือนมีนาคมไปถึงช่วงต้นเดือนเมษายน ก็จะมีงานเทศกาลประจำปีเจ้าพ่อเจ้าแม่หนองบัวและหลวงปู่ฤาษีณารายณ์
ในเดือนเมษายนก็จะเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ไทยและเทศกาลสงกรานต์ ชาวไทยหนองบัว ไทยโคราช คนไทยลาวและกลุ่มวัฒนธรรมย่อยกลุ่มต่างๆ ก็จะถือเป็นช่วงเวลาการบำรุงสถาบันทางสังคมให้เป็นปึกแผ่นเข้มแข็ง ทั้งการดูแลบรรพบุรุษ พ่อแม่ คนเฒ่าคนแก่ การทำบุญ รวมทั้งการดูแลความเป็นชุมชน สร้างวัด โรงเรียน สิ่งสาธารณะ และเล่นตรุษสงกรานต์ สร้างชีวิตและความเคลื่อนไหวทางสังคมเพื่อความดีงาม มีชีวิตชีวา และอยู่เย็นเป็นสุข ต่อจากนั้นก็จะมีการบวชนาคและอุปสมบท ซึ่งก็จะตามมาด้วยประเพณีการบวชนาคหมู่ ต่อเนื่องและผสมผสานกันไป
กิจกรรมและความเคลื่อนไหวในห้วงเวลาดังกล่าวนี้ โดยรูปแบบและเนื้อหาของงานแล้ว นอกจากจะเป็นสีสันและสร้างความมีชีวิตชีวาให้แก่ทั้งอำเภอหนองบัวมากแล้ว ก็จะประกอบไปด้วยกิจกรรมประเพณีทางสังคม ศิลปะวัฒนธรรม การแสดง เศรษฐกิจสังคม ที่สื่อสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายอย่างยิ่งทางสังคมและวัฒนธรรมของผู้คนที่อยู่อาศัยและสร้างความเป็นหนองบัวร่วมกัน
ลูกหลานและคนหนองบัวจะคืนถิ่นด้วยพลังแห่งความรักและดีงาม
คนหนองบัว ลูกหลานและชาวหนองบัวที่เดินทางออกไปศึกษาและทำการงานในแหล่งต่างๆของประเทศ รวมไปจนถึงต่างประเทศ มักจะถือเอาช่วงเวลาดังกล่าวนี้กลับไปเยือนบ้านเกิด จึงเป็นช่วงเวลาที่หนองบัวจะเต็มไปด้วยความคึกคัก มีความอิ่มเอิบใจ กอปรด้วยมิตรภาพ ความดีงาม ความสำนึกและความตื่นตัวต่อการริเริ่มสร้างสรรค์ทั้งต่อตนเองและต่อสังคมส่วนรวม
นัยสำคัญของเทศกาลดังกล่าวต่อสังคมและโอกาสในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์สุขภาวะทางสังคมดังที่พึงประสงค์
ภายใต้กิจกรรมและความเคลื่อนไหวอันหลากหลายที่ดำเนินมาอย่างยาวนานนั้น จะพบว่าเป็นกระบวนการทางสังคมที่ก่อเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติซึ่งมีความผสมผสานองค์ประกอบต่างๆที่กอปรขึ้นเป็นสังคมหนองบัวและเป็นพื้นฐานของการก่อเกิดสุขภาวะทางด้านต่างๆแก่ผู้คน ดังนี้ :
ทำการกลับบ้านให้เป็นโอกาสสื่อสารและสร้างสรรค์ความรู้เพื่อความเป็นหนองบัว
จากวาระที่หนองบัวจะมีงานและเงื่อนไขที่เป็นโอกาสที่ดีหลายประการดังที่กล่าวมาในข้างต้นนี้ หากทุกท่านได้มีโอกาสไปเยือนหนองบัวและอยากถือโอกาสเก็บรวบรวมข้อมูลไปด้วยเพื่อนำมาแบ่งปันและบันทึกรวบรวมไว้ในเวทีคนหนองบัวหรืออื่นๆก็จะเป็นการดีอยู่ไม่น้อย หากจะทำในกิจกรรมเล็กๆนี้ให้มีประเด็นร่วมกัน อีกทั้งจะเป็นการช่วยสนับสนุนแนวคิดของลูกหลานคนหนองบัวที่อยากทำกิจกรรมความเคลื่อนไหวชุมชนหนองบัวอย่างบูรณาการต่อไปในอนาคตได้อีกด้วย ก็จะเป็นการทำให้สิ่งที่จะริเริ่มได้มากขึ้นเรื่อยๆมีการเตรียมตัวที่ดีโดยทำกันเองอย่างสบายๆ
ประเด็นและโจทย์วิจัยสำหรับนักวิจัยอาสาเพื่อช่วยกันสร้างความรู้และบันทึกข้อมูล
ประเด็นและแนวคิดเหล่านี้ อาจจะเป็นแนวรวบรวมประสบการณ์และเขียนบันทึกความรู้เกี่ยวกับหนองบัวเหมือนกับเป็นนักวิจัยแบบทำกันเองในช่วงเทศกาลสามเดือนนี้ของหนองบัว หากมีโอกาสได้เข้าไปมีส่วนร่วมทั้งโดยตรงและโดยอ้อม แล้วจะให้ความสนใจเก็บบันทึกรวบรวมข้อมูล รวมทั้งมุ่งสร้างประสบการณ์และความทรงจำที่ดีๆเพื่อนำมาบันทึกไว้ไปตามความเหมาะสม ก็จะเป็นชุดความรู้ที่เอื้อต่อการทำหนองบัวให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมผ่านวิถีชุมชนและเทศกาลประจำปีต่างๆได้เป็นอย่างดี ช่วยกันหาโอกาสนะครับ คือ :
๑ Cultural Events Mapping มีกิจกรรม ประเพณี วิถีชีวิตชุมชน สถานที่และเหตุการณ์ที่ดี เป็นมรดกสังคม เป็นภูิปัญญา และเป็นสิ่งที่น่าสนใจในหนองบัวและชุมชนโดยรอบในห้วงเวลาเทศกาลงานประจำปีของหนองบัวอย่างไรบ้าง ?
๒ การจัดงานเทศกาลประจำปีโดยเฉพาะที่เกาะลอย เป็นอย่างไร มีแง่มุมที่เป็นศักยภาพในการพัฒนาให้งานหนองบัวและตัวเมืองหนองบัวเป็นศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรม กับการผสมผสานความริเริ่มใหม่ๆได้อย่างไรบ้าง ?
๓ ในตัวตลาดที่สื่อสะท้อนพัฒนาการและความเป็นชุมชนหนองบัว มีอยู่ในปัจจุบันอย่างไร มีการริเริ่มเพื่อจัดการตนเองอย่างไรบ้างหรือไม่ อย่างไร ?
๔ กิจกรรมความเคลื่อนไหว ที่เป็นบรรยากาศ วิถีชีวิตของหนองบัว และความประทับใจ ในห้วงเทศกาลระหว่างกุมภาพันธ์-เมษายน ๒๕๕๔ มีอะไรและเป็นอย่างไรบ้าง ?
๕ คนหนองบัว โดยเฉพาะคนุร่นใหม่ๆ ลูกหลานคนหนองบัว คนหนองบัวที่ไปอยู่ที่อื่นแล้วถือโอกาสกลับบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งศิษย์เก่าของสถานศึกษาต่างๆในหนองบัว ถือเป็นโอกาสทำอะไรกันได้บ้าง อย่างไร ?
๖ การเสริมสร้างพลังเครือข่ายการจัดการ รวมทั้งการผสมผสานเทคโนโลยีและวิธีจัดการสมัยใหม่เข้าไปช่วยคนท้องถิ่นในบ้านเกิด เช่น เครือข่ายสื่อสารและจัดการความรู้ในเวทีคนหนองบัว การจัดเวทีสร้างศักยภาพคน อปท และกลุ่มคน ที่เกี่ยวข้องกับการจัดงาน เป็นอย่างไร ?
นอกจากนี้ ก็สามารถหาประสบการณ์และร่วมกิจกรรมต่างๆทั้งของตนเองและของชุมชนไปโดยไม่ต้องมีประเด็นหรือกรอบจำกัดมุมมองไว้ล่วงหน้า แต่ให้ความลึกซึ้งใส่ใจ จริงใจ มีความเป็นธรรมชาติ เป็นตัวของตัวเอง เป็นชีวิตจิตใจ จากนั้นจึงนำมาคิดทบทวนในภายหลังต่อไป
วิธีสร้างความรู้และช่วยกันบันทึกรวบรวม
ความรู้และเรื่องราวชุมชนที่เขียนขึ้นด้วยความรักและการมุ่งสร้างสิ่งดีงาม
จากนั้น ก็ช่วยกันนำมาบันทึกรวบรวมไปตามความถนัดและตามความสะดวก ผมเองก็จะทำไปด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกัน ระหว่าง ๒-๓ เดือนนี้และหลังจากนี้ ผมก็ตั้งใจว่าจะลงไปจัดเวทีพูดคุยและถอดบทเรียนหน่วยงานและกลุ่มคนต่างๆที่พอเข้าถึงได้ ทั้งเพื่อหาข้อมูลและเตรียมคนให้พื้นที่เป็นกลุ่มย่อยๆตามเงื่อนไขหลากหลายของแต่ละกลุ่มคนก่อน ก่อนที่จะจัดเวทีเพื่อทำสิ่งต่างๆด้วยกัน โดยมีข้อมูลและเตรียมทักษะการมีส่วนร่วมที่ดีให้กันได้บ้างพอสมควร
ขอให้มีความสนุกและได้ทำสิ่งต่างๆ เพื่อหนองบัว และสังคมไทย รวมไปจนถึงคนหนองบัวในต่างประเทศ ก็ได้เป็นพลเมืองดี มีพลังความริเริ่มสร้างสรรค์ มีส่วนร่วมในการสร้างสุขภาวะและสิ่งดีๆ ในทุกแหล่งที่เราได้อยู่อาศัยและก่อเกิดนะครับ.
ลูกหลานกลับบ้านหนองบัวคราวนี้ มีหัวข้อ รายละเอียดครบถ้วน ที่คนทุกกลุ่มสามารถทำได้อย่างกลมกลืนไปกับวิถีวัฒนธรรมชุมชน ขอยกสองมือสนับสนุนอย่างแรง
กราบนัมสการพระคุณเจ้าพระอาจารย์มหาแลครับ
น่าจะเป็นโอกาสช่วยกันหาประสบการณ์และทำเรื่องรอบตัวให้เป็นเรื่องราวที่สามารถเก็บรวบรวมไว้ได้ดีมากยิ่งๆขึ้นนะครับ ในหนองบัวคงมีสิ่งต่างๆอีกมากมายที่เรายังไม่เคยเห็นได้ทั่ว แต่โดยวิธีนี้ก็อาจจะทำให้เกิดเครือข่ายคนที่ช่วยกันทำให้ทั้งอำเภอหนองบัว สามารถเข้าถึงเพื่อเรียนรู้และทำความรู้จักได้เป็นอย่างดีทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งจะเป็นทุนทางความรู้ให้ริเริ่มและคิดทำสิ่งต่างๆต่อไปได้อีกอย่างดีเลยนะครับ ถือเอาครั้งนี้เป็นการสร้างประสบการณ์ ต่อไปก็จะสามารถรวบรวมข้อมูลในรื่องอื่นๆได้ด้วย เช่น คลองและแหล่งน้ำทั้งอำเภอ แหล่งการเรียนรู้และศูนย์ศึกษาในแนวทางเลือกทางด้านต่างๆ รวมทั้งแหล่งที่เป็นมรดกทางสังคมวัฒนธรรมของชุมชน ซึ่งจะเป็นการทำให้เห็นแง่งามและโอกาสการพัฒนาที่หนองบัวมีศักยภาพพื้นฐานของตนเองอยู่
เจริญพรอาจารย์
เห็นแผนที่หนองบัวแล้ว เป็นเสมือนแผนที่สนามการวิจัยเลย การเก็บข้อมูลสำหรับนักวิจัยอาสาทั้งหลายนั้นก็คงไม่ยากนัก เพราะเราใช้เครื่องมือที่สำคัญที่สุดในเก็บรวบรวมข้อมูลนั่นก็คือตัวนักวิจัยนั่นเอง ยิ่งสมัยนี้ด้วยแล้วเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเก็บข้อมูลก็มีอย่างมากมายอีกด้วย
กราบนมัสการพระคุณเจ้าพระอาจารย์มหาแลครับ
คงจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ อย่างน้อย หากไม่มีเวลาและจังหวะไม่เหมาะ ก็จะยังมีประเด็นร่วมกันสำหรับนำเอาประสบการณ์ชีวิตที่มีกับตนเองโดยตรงมาถ่ายทอดและบันทึกแบ่งปันกันไว้ แต่ถ้าหากมีสักคนสองคนได้มีโอกาสช่วยกันทำ แม้จะเพียงเล็กน้อย ก็จะนับว่าเวทีคนหนองบัวและเครือข่ายคนหนองบัวเริ่มมีวิธีทำงานความรู้และสร้างความรู้ช่วยกันจากระยะไกลหลากหลายมิติ โดยถือเอาท้องถิ่นหนองบัวเป็นจุดสนใจร่วมกันก่อน นอกจากจะเกิดผลดีโดยตรงต่อหนองบัวแล้ว บทเรียนจากประสบการณ์ตรงที่แต่ละคนทำ ก็เชื่อว่าจะทำให้คนจำนวนหนึ่งเริ่มเป็นแหล่งความรู้ให้แก่ผู้อื่นเพิ่มขึ้นมาได้มากขึ้น