สืบเนื่องจากเรื่องเล่าของน้องๆกล้าใหม่..ไฝ่รู้ ปี ๓ ที่นำประสบการณ์ที่ได้ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเยาวชนที่ศูนย์เรียนรู้ชาวดิน ที่ตำบลหว้าทอง อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ ๒๕ -๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒ โดยการสนับสนุนของมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์
ผู้อ่านหลายท่านได้ แสดงความสนใจในความเป็นมาของศูนย์ชาวดินแห่งนี้ ดิฉันจึงขอสรุปเรื่องราว จากหนังสือเล่มเล็กแต่ชื่อยาว.. "เยาวชนคนรุ่นใหม่..เมล็ดพันธุ์แห่งการเรียนรู้ ผู้สืบทอดและสืบสานภูมิปัญญา วิถีชีวิตไทยไท" ที่แจกในงานเวทีระพีเสวนา เมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๒ มาถ่ายทอด ดังนี้...
ศูนย์เรียนรู้ชาวดิน กำเนิดมาจากลุงสำเนียง วงศ์พิมพ์ พระเอกหมอลำ แห่งบ้านโคกกลางของตำบลข้างต้น ซึ่งเป็นผู้มอบที่ดินประมาณ ๔ ไร่ บริเวณชายเขื่อนอุบลรัตน์ ให้เป็นพื้นที่เรียนรู้ และทำกิจกรรมร่วมกันของเยาวชนในชุมชน มาเป็นเวลากว่า ๓ ปีแล้ว
ลุงสำเนียงเล่าว่า ไม่เพียงแต่มอบที่ดินให้เท่านั้น หากแต่เขายังทำหน้าที่เป็น "ครูเกษตร" สอนให้เยาวชนทำนา ปลูกผัก ขุดสระเลี้ยงปลา เพาะเห็ด เลี้ยงไก่ สร้างบ้านดิน และเป็น "พ่อบ้าน" คอยดูแลข้าวปลาอาหาร ความสะอาดเรียบร้อย ของศูนย์เรียนรู้ชาวดิน
นอกจากนั้น ลุงสำเนียงยังเป็น "ที่ปรึกษา" ของเยาวชนในอีกหลายๆเรื่อง โดยทั้งหมดนี้ เขาทำเพื่อให้เยาวชนในชุมชนได้ร่วมทำกิจกรรมดีๆ ที่เป็นการฝึกฝน พัฒนาตนเอง ให้เป็นคนดี มีสัมมาอาชีพ เลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ บนฐานเกษตรกรรม ซึ่งสำหรับเขา คือ "ทุน" อันมีค่าของครอบครัวและชุมชน ที่สำคัญนั่นเอง
"ผมเกิดแรงบันดาลใจในการสร้างศูนย์การเรียนรู้บ้านดิน จากการได้ไปเรียนรู้กับเสมสิกขาลัย และต่อมาได้นำกระบวนการเรียนรู้นั้น มาอบรมกับเยาวชน และได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานที่สวนลุงโชค เขาแผงม้า อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ที่นี่เขาทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ เพื่อให้เยาวชนมาศึกษาหาความรู้เรื่องวนเกษตร ผมจึงเกิดความคิดว่า เราน่าจะนำมาทำบ้างเพื่อเยาวชนในหมู่บ้าน เพื่อให้ได้อ่านหนังสือ และเรียนรู้ด้านการปฏิบัติด้วยตนเอง"
ผ่านไป ๓ ปี ณ จุดเริ่มต้นของศูนย์เรียนรู้ชาวดิน ซึ่งมีแต่พื้นที่โล่งๆ ในวันนี้กลับกลายเป็นศูนย์เรียนรู้ที่มีชีวิต บ้านดินที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรง และความเอื้อเฟื้อของผู้มีจิตอาสาทั้งหลาย ทำให้เด็กๆ ได้ใช้ที่นี่เป็นห้องสมุด และสถานที่ทำกิจกรรมร่วมกัน มีทั้งแปลงทดลองจากฝีมือปฏิบัติการของเด็กๆ และในปีนี้ได้ทดลองปลูกข้าวเป็นครั้งแรก เพื่อเก็บเกี่ยวผลได้ไว้กินในศูนย์ โดยไม่ต้องพึ่งพาข้าวจากลุงสำเนียงอีกต่อไป....
(โปรดติดตามตอน ๒ที่จะเป็นเรื่องบอกเล่าที่น่าสนใจของเด็กๆในศูนย์เรียนรู้ชาวดินค่ะ)