ใครเป็นใคร..บนถนนพลังเยาวชน พลังสังคม เพื่อการให้(๕)


สังคมไทยคงจะน่าอยู่ไม่น้อย หากเยาวชนไทยซึ่งเป็นพลังและอนาคตของชาติมี “สำนึก” ที่ดี เหมือนที่น้องแพรและเพื่อนที่พร้อมใจกันรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งเสพติด เมื่อมีอุปสรรค ก็สามารถใช้ “สมาธิ” แก้ไขปัญหา ซึ่งนำไปสู่ความ “สว่าง” และความ “สงบ” ของชุมชน

 

 

 

สำนึก สว่าง สมาธิ นำไปสู่ความ “สงบ”

 

  “หนูอยากเห็นชุมชนของหนูสงบคะ” น้องแพร หรือ ด.ญ. ศิริลักษณ์ สุพร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนชุมชนบ้านช่องแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส และกระตือรือล้น

 

              

 

  น้องแพรเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ แต่มีฝันที่ยิ่งใหญ่ เธอเล่าภาพความฝันว่า ตั้งแต่เด็กทุกๆ วันเธอจะฝันถึงชุมชนที่น่าอยู่ คนในชุมชนเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เลิกดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ หันมาสนใจคนในครอบครัว และดูแลซึ่งกันและกัน

 

  แต่ภาพความเป็นจริงที่น้องแพรเห็นทุกวัน คือ “ชุมชนของหนูเป็นพื้นที่เขตสีแดง มีคนค้ายา ติดยาเสพติดเยอะ เดินไปที่ไหนก็เห็นแต่คนดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ทุกตรอกถนนมีแต่ร้านคาราโอเกะ และแหล่งการพนัน”

 

“โรงเรียนของหนู มีแต่คนดูถูก พ่อแม่ไม่อยากให้ลูกมาเรียน เพราะคิดว่ามีแต่คนติดยาเสพติด”

 

     น้องแพรเห็นปัญหาดังกล่าวมาเป็นเวลากว่า ๑๐ ปี และนับวันปัญหาเหล่านั้นยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความตั้งใจที่อยากเห็นชุมชนสงบสุข จึงทำให้น้องแพรมุ่งมั่นทำทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว

 

  “ปัญหาของชุมชน ถ้าเยาวชนไม่ทำ แล้วใครจะทำ” น้องแพร กล่าวด้วยแววตาที่มุ่งมั่น

 

            

 

    หลังจากเข้ารับการอบรมโครงการเยาวชนไทย ทำความดีถวายในหลวง ที่วัดบ้านนา จังหวัดชลบุรี น้องแพรและเพื่อนๆจึงได้จัดทำโครงการ “๓ ส พอใจเลิกเพื่อพ่อหลวง” เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดในโรงเรียนและชุมชนช่องแสมสาร

 “หนูและเพื่อนๆ ทำโครงการนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ มีอาจารย์เตือนใจเป็นที่ปรึกษา พวกเรานำหลักธรรมทางพุทธศาสนามาใช้แก้ปัญหายาเสพติด”

 

“สำนึก สว่าง สมาธิ” เป็นหลักธรรมที่น้องแพรและเพื่อนๆ เรียนมาตั้งแต่เด็ก และคิดว่าน่าจะนำมาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาสิ่งเสพติดได้

 

 “ถ้าทุกคนมีจิตสำนึกที่ดี ก็จะมองเห็นว่าอะไรเป็นปัญหา พอเราเห็นปัญหา ถ้าเราช่วยกันแก้ไขก็จะนำไปสู่ความสว่าง แต่แน่นอนว่าย่อมมีอุปสรรค แต่หากเรามีสมาธิเราก็จะสามารถฝ่าฝันมันไปได้”

  

น้องแพรเริ่มต้นทำโครงการด้วยการเดินรณรงค์และติดป้ายต่อต้านสิ่งเสพติดในโรงเรียน โดยให้นักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ๑ จนถึงม.๓ ออกแบบป้ายรณรงค์ลด ละ เลิก เหล้า บุหรี่เพื่อนำมาติดตามอาคารและต้นไม้ในโรงเรียน

 

  นอกจากการจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดในโรงเรียนแล้ว น้องแพรและเพื่อนๆยังขยายการทำกิจกรรมไปสู่ชุมชน โดยมุ่งเน้นให้คนในชุมชนคอยเฝ้าระวังเรื่องยาเสพติด และคอยดูแลซึ่งกันและกัน

 

                  

 

 “การจะแก้ไขปัญหาให้สำเร็จได้ คนในชุมชนทุกคนต้องช่วยกัน โครงการนี้เลยให้มีการจับคู่เพื่อน (Buddy) คนที่สูบบุหรี่กับคนที่ไม่สูบ คอยตักเตือนดูแลกัน หากคนที่สูบบุหรี่สัญญาว่าจะเลิก แต่ยังทำไม่ได้ เราก็จะมาคิดหาวิธีช่วยให้เขาเลิกบุหรี่ให้ได้”

 

น้องแพรเล่าถึงกิจกรรมในโครงการนี้ต่อว่ามีกิจกรรม “นักสืบอาสา” คอยเฝ้าระวังเรื่องยาเสพติดในชุมชน คอยสังเกตพฤติกรรมคนในชุมชนว่าคนไหนมั่วสุมสิ่งเสพติด เช่น เหล้า หรือสูบบุหรี่ เมื่อรู้แล้วก็จะจดบันทึกไว้ จากนั้นทางกลุ่มก็จะมาปรึกษากันเพื่อแก้ไขปัญหา และตักเตือนให้คนที่เกี่ยวข้องเลิก เพราะเป็นสิ่งไม่ดี แรกๆ เขาอาจไม่เชื่อ แต่ถ้าทำไปนานๆ และมีคนเตือนเยอะๆ เขาก็จะหยุดไปเอง เมื่อคนในชุมชนมองว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี

 

“หลังจากทำมา ๑ ปีแล้ว ตอนนี้โรงเรียนของน้องแพรไม่มีคนสูบบุหรี่แล้ว ส่วนคนในชุมชนก็ลดการดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ลง หนูและเพื่อนๆ ไปสำรวจมา จากแต่ก่อนคนที่ทำงานหนัก และชาวประมง จะสูบบุหรี่ไม่ต่ำกว่า ๒ ซอง หรือบางคนสูบ ๔ ซองต่อวัน มาถึงวันนี้คนส่วนใหญ่เลิกสูบได้แล้ว บางคนพยายามจะเลิก และส่วนน้อยที่เลิกไม่ได้ แต่พยายามลด” น้องแพร บอกเล่าถึงความสำเร็จของโครงการด้วยรอยยิ้ม

  

       

 

  แต่กว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จได้ น้องแพรและเพื่อนๆต้องเสี่ยงเป็น เสี่ยงตายมิใช่น้อย “การทำโครงการนี้น่ากลัว เวลาเก็บข้อมูล บันทึกข้อมูลต้องระวัง เพราะอาจทำให้กลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ทำเรื่องไม่ดีในพื้นที่เพ่งเล็งได้ว่าเราไปขวางทางเขา เราจึงต้องระวังตัวให้มาก”

 

  แม้หลายครั้งจะเหนื่อยและท้อกับการทำงาน แต่ด้วยความฝันที่อยากเห็นชุมชนเป็นสุข และเห็นการทำงานของอาจารย์ที่ปรึกษา ที่ทุ่มเท แรงกาย แรงใจแก้ไขปัญหาชุมชนโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย จึงทำให้ความท้อแท้ที่น้องแพรมีอยู่หายไปทันที

 

“เจอปัญหามากๆ หนูก็มีท้อบ้าง แต่พอหนูเห็นอาจารย์เตือนใจทำงาน เหนื่อยยิ่งกว่า บ้านอาจารย์อยู่ไกล แต่ต้องมาที่หมู่บ้านหนู มาช่วยพวกหนูแก้ไขปัญหา เขาทำแล้วเขาก็ไม่ได้อะไร เขาทำเพื่อคนอื่น แต่เขาก็ยังทำ หนูเป็นคนในชุมชน เลยยิ่งต้องทำเพื่อชุมชน”

 

      

 

   วันนี้นอกจากคนในโรงเรียนและชุมชนของน้องแพรจะสามารถเลิกยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติดได้แล้ว พวกเขายังรักและสามัคคีกันมากขึ้น เพราะได้ทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม และคอยดูแลซึ่งกันและกันให้ห่างไกลจากสิ่งเสพติด

 

“แต่ก่อนคนในชุมชุนไม่ค่อยมองหน้ากัน พอมองหน้ากันก็จะกลายเป็นว่ามองหน้าหาเรื่อง จะตบกัน แต่ตอนนี้ไม่ต้องมองหน้า แค่มองตาก็รู้ใจ”

 

          

 

    ส่วนตัวของน้องแพรยังได้เรียนรู้การทำงานเป็นหมู่คณะ ได้มิตรภาพ และที่สำคัญน้องแพรบอกว่า “หนูได้รู้คุณค่าของตัวเอง” ซึ่งเป็นสิ่งที่น้องแพรคิดว่าไม่สามารถหาได้ หากไม่ได้มาทำงานเพื่อโรงเรียนและชุมชนของตนเอง

 

    สังคมไทยคงจะน่าอยู่ไม่น้อย หากเยาวชนไทยซึ่งเป็นพลังและอนาคตของชาติมี “สำนึก” ที่ดี เหมือนที่น้องแพรและเพื่อนที่พร้อมใจกันรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งเสพติด เมื่อมีอุปสรรค ก็สามารถใช้ “สมาธิ” แก้ไขปัญหา ซึ่งนำไปสู่ความ “สว่าง” และความ “สงบ” ของชุมชน

 

        

 

       

      ///////////////////

 

กลุ่มกัลยาณมิตรเพื่อการเสริมสร้างเครือข่ายวิถีพุทธ(กคพ.)

โรงเรียนชุมชนบ้านช่องแสมสาร หมู่ ๔ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ๒๐๑๘๐

ด.ญ. ศิริลักษณ์ สุพร “แพร” E-mail: [email protected]

 

แพร-พระมหาพงษ์นรินทร์/โซน๒

 

ที่มา: "หนังสือร้อยพลังเยาวชน..พลังสังคม..ร่วมสร้างประเทศไทยด้วยการให้" ของโครงการมหกรรมพลังเยาวชน พลังสังคม ร่วมสร้างประเทศไทยด้วยการให้" ตุลาคม ๒๕๕๒

หมายเลขบันทึก: 306932เขียนเมื่อ 19 ตุลาคม 2009 16:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

สวัสดี ครับ พี่ใหญ่

ชื่นชมบันทึกที่พี่ใหญ่...เขียนให้กับสังคม จังครับ

ทำอย่างไร? ที่จะให้บันทึกเหล่านี้ กระตุ้นจิตสำนึกของคนในชุมชนอื่น ๆ บ้าง

เพราะนี่คือ รูปธรรม ที่จับต้องได้ มิใช่สวยหรูอยู่ในกระดาษ

คิดถึงพี่ใหญ่ ครับ

  • ตามมาติดๆ  โชคดี ได้เห็นภาพแห่งความสุขในอดีตของพี่ใหญ่ด้วยค่ะ
  • ขอบพระคุณที่นำเรื่องราวดีๆมาให้อ่าน
  • และขอเป็นกำลังใจให้พี่ใหญ่ตลอดไปด้วยค่ะ

 

 

ขอบคุณค่ะ คุณแสงแห่งความดี ที่นอกจากมาเยี่ยมอ่านอย่างสนใจแล้ว ยังไปหยิบรูปซึ้งๆในอดีตของพี่ใหญ่มาไว้ที่นี่ด้วย..พี่ใหญ่จึงขออนุญาตแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าสวยๆของคุณแสงแห่งความดี..เพื่อรำลึกถึงผู้เป็นที่รักที่ยืนคู่กับพี่ในภาพนั้นนะคะ..

 

ขอบคุณค่ะครูอรวรรณที่แวะมาเยี่ยมให้กำลังใจเยาวชนจิตอาสาของเราค่ะ

สวัสดีค่ะพี่นงนาท...

สำนึกแห่งความดีงาม...“ปัญหาของชุมชน ถ้าเยาวชนไม่ทำ แล้วใครจะทำ” เยาวชนรุ่นใหม่ ภาคภูมิใจ...สร้างน้ำดีเพื่อชะล้างน้ำเน่าเสียออกจากชุมชน...ขอบพระคุณพี่นงนาทที่นำเสนอผ่านเวทีค่ะ

  • สวัสดีค่ะ คุณนงนาท
  • แวะมาทักทาย   ชื่นชมเด็ก ๆ ที่สร้างสรรค์กิจกรรมดี ๆ สู่สังคมค่ะ
  • ขอบพระคุณค่ะ

ขอบคุณค่ะคุณ Vij ที่แวะมาให้กำลังใจเยาวชนจิตอาสาของเราค่ะ..หนูน่ารักคู่นี้ของใครเอ่ย ??

ขอบคุณค่ะ คุณธรรมทิพย์ ที่สนับสนุนงานของเยาวชนจิตอาสาค่ะ..แวะไปรับธรรมะของท่านพุทธทาสและดอกบัวงามมาประดับที่นี่ค่ะ

สวัสดีค่ะมาเป็นกำลังใจให้คนทำดีค่ะ พลังเยาวชน...ทุกวันนี้มีแต่ข่าวที่ไม่ดี

ข่าวที่ดีๆสื่อน่าจะนำเสนอให้มากๆนะคะ

ขอบคุณจิตอาสาที่ไปเยือนถึงที่นะคะ

 

ขอโทษค่ะ วันนี้คอมมีปัญหาบ่อย

ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีดีให้ร่วมเรียนรู้ค่ะ

เด็กคือพลังในวันข้างหน้านะคะ

ยินดีที่ได้รู้จักท่านค่ะ

สวัสดีค่ะ...คุณนงนาท

ขอบคุณนะคะที่มา

สวัสดีครับอาจารย์  เด็ก ๆ ช่วยให้เราได้เรียนรู้มากมาย..ขอบพระคุณที่ไปเยี่ยมเยียน ครับ

คุณแดง ที่แวะมาทักทายเยี่ยมอ่านกิจกรรมเยาวชนจิตอาสาค่ะ

ครูอี๊ด ที่แวะมาเยี่ยมเยาวชนจิตอาสาของเราค่ะ..

คุณหนุ่มกร~natadee ที่มาร่วมให้กำลังใจกิจกรรมของน้องๆจิตอาสาค่ะ

สวัสดีค่ะ

พี่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนชุมชนบ้านช่องแสมสาร พี่เห็นน้องเป็นคนดี รู้จักช่วยกันพัฒนาชุมชนของเรา พี่ใจน๊ะคะ ที่มีน้องๆ ร้กชุมชนของเรา ช่วยกันพัฒนาต่อไปน๊ะคะ ยังไงก็บ้านเรา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท