คนไม่มีรากเอ๋ย เจ้ายังอ่อนหัดนัก หลงปลื้มปิติว่า มีสติ มีสมาธิตั้งมั่น เก่งนัก เก่งหนาแล้ว ....
"
สิ่งที่รู้เหมือนไม่รู้อะไรเลย
เพราะรู้แท้รู้เฉยไร้หมายมั่น
เหมือนน้ำใสในใบบัวไม่ติดกัน
รู้จริงนั้นเหนือความรู้ดูเอาเอง"
ในระยะ 2
สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เป็นช่วงที่คนไม่มีรากกำลังฝึกฝนสติ...ให้ว่องไว
โดยมีครูบาอาจารย์เป็นหนังสือธรรมะของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี และพระอาจารย์ปราโมทย์
ปาโมชโช
รวมทั้งการอ่านบันทึกของคุณdrgunman เรื่องเข็มทิศ
หางเสือ และเรือใบ เป็นหลักในการลองนำมาปฏิบัติ
ต้องบอกว่า...กาลผ่านมาด้วยดี...กล่าวคือ อยู่ดีมีสุข กายสุข
ใจสงบพอสมควร รู้สึกถึงอารมณ์ที่เข้ามาเยือนได้ว่องไว ...
ท่านใดที่ได้ปฏิบัติธรรมะคงจะทราบว่า...ปิติสุขนั้น เป็นอย่างไร
...
ปกติแล้วคนไม่มีรากจะไม่ค่อยแสดงอาการโกรธ
(ยังมีความโกรธอยู่ แต่ไม่แสดงอาการ วาจาให้คนรู้ว่าโกรธ) ให้ใครเห็น
จะยิ้มเสียมากกว่าอย่างอื่น
แต่เจ้าความกรุ่นโกรธนั้นก็จะยังคงทิ้งร่องรอย
พิษร้ายไว้ในจิตตามสมควรแก่เวลา สถานที่ และโอกาส
วันดีคืนร้ายก็จะโผล่ขึ้นมาสร้างความขุ่นข้องหมองใจให้
"จิต" บ้าง
พอเป็นกระสายยา
ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้คนไม่มีรากเพียรพยายามเสาะแสวงหาวิธีการในการจัดการกับ...
“อารมณ์ไม่พึงประสงค์”
เหล่านี้...
จนเมื่อค่ำ ๆ
ของวันที่ 29 มค.52 ... คราวนี้เจอ "ครูบาอาจารย์ท่านสำคัญ"
มาให้บทเรียนในเรื่องของ “ความโกรธ”
ที่ทำให้รู้เลยว่า...คนไม่มีรากเอ๋ย เจ้ายังอ่อนหัดนัก หลงปลื้มปิติว่า
มีสติ มีสมาธิตั้งมั่น เก่งนัก เก่งหนาแล้ว
....
ตระหนักในทันใดว่านี่เรา...
ยังไม่ได้
“ตั้งไข่”
เลย...ในเรื่องของการรักษาสติ ยังคงแกว่งกวัด
ซัดส่ายไปตามแรงโลภ โกรธ หลง
อย่างไม่รู้ตัวเลย...รีบตะลีตะลานกลับไปหาพระอาจารย์โดยเร็ว....พลิกหนังสือธรรมะ
เปิดมาก็อ่าน ๆ ท่านกล่าวไว้ว่า....
“ดูจิตให้...เห็นจิต”
พอเห็นจิตแล้ว ก็คลาย วาง สักแต่ว่าเห็น
ว่ารู้สึกแล้ว ไม่ต้องยึดไว้...
รอบทเรียนต่อไป...ด้วยใจระทึก....
(^___^)