วันที่สาม  จันทร์ที่  16  พฤศจิกายน  2552   อุโมงค์หลบภัยวินห์ม็อก (Vinh Moc)  ถ้ำฟงหงา (มรดกโลกทางธรรมชาติ)  ล่องแม่น้ำหอมด้วยเรือมังกร    

            เช้านี้เราเดินทางข้ามสะพานที่ทอดผ่านแม่น้ำเบนไห่ ซึ่งอยู่ในแนวเส้นขนานที่  17  เป็นแม่น้ำสายประวัติศาสตร์แบ่งเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้  ที่ทำให้ครอบครัวต้องแยกกันนานถึง  21  ปี มีตึกที่มีลำโพงขนาดใหญ่ไว้ให้ญาติที่อยู่กันคนละฝั่งไว้คุยกัน มีคนแซวกันว่า อย่างนี้พูดความลับไม่ได้แน่เลย เพราะใคร ๆ  ก็ได้ยินหมด ไกด์ชี้ให้ดูอนุสาวรีย์แม่อุ้มลูกมาคอยพ่ออยู่ริมฝั่ง  ผู้เขียนถ่ายรูปไม่ทัน เพราะไม่ได้จอดรถให้ดู            

      ที่เที่ยวแห่งแรกของวันนี้ ได้แก่ อุโมงค์หลบภัย Vinh Moc  สร้างไว้หลบภัยจากการทิ้งระเบิดของทหารอเมริกา ขุดในปี คศ.1966 ใช้เวลาในการขุดถึง  18  เดือน ต้องแอบขุดในเวลากลางคืน มีคนหลบภัย 380  คน อาศัยอยู่ในอุโมงค์ 5  ปี ในช่วงนั้นมีคนแต่งงาน  5  คู่  มีเด็กเกิดใหม่  17  คน อุโมงค์นี้เป็นเพียง 1  ใน  114  อุโมงค์ของเวียดนาม

             ปากทางที่จะไปเข้าชมอุโมงค์  บ่อที่เห็นเป็นที่สำหรับระบายอากาศค่ะ

       ก่อนเข้าอุโมงค์ได้ไปดูพิพิธภัณฑ์กันก่อน ดูในภาพสะท้อนให้เห็นถึงการสู้ชีวิตว่าจะอยู่หรือไม่อยู่  "to be or not  to be" ไกด์บอกว่าหากยังอยากมีชีวิตอยู่ก็ต้องช่วยกัน ร่วมมือกัน 

                บรรยากาศปากอุโมงค์และภายในอุโมงค์ค่ะ

       นาวิน ไกด์เวียดนาม มีชื่อเวียดนามว่า  "ฮา"  แปลว่า สายน้ำที่ยิ่งใหญ่  เป็นไกด์ที่น่ารัก คุยสนุก  เรียนภาษาไทย  6  เดือน กับครูไทยที่อุดร  ได้เล่าถึงปูชนียบุคคลที่ชาวเวียดนามรักมาก  ได้แก่  ลุงโฮ  (โฮจิมินห์)  ที่เป็นผู้ที่เสียสละเพื่อชาวเวียดนามมาตลอดชีวิต  มีอนุสาวรีย์ของท่านที่เมืองโฮจิมินห์   ส่วนร่างของท่านอยู่ที่ฮานอย (ผู้เขียนได้ไปเยี่ยมชมมาแล้ว  เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา)  

            จากนั้นได้ไปชมถ้ำฟงหงาซึ่งเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ  ไกด์นาวินบอกว่าเวียดนามมีมรดกโลกทั้งหมด 7  แห่ง 

                    ถนนระหว่างทางไปถ้ำฟงหงา

            ถนนก่อนถึงถ้ำฟงหงา  จะมีเห็นป้ายบอกชื่อภูเขา  ภาพล่างซ้ายเป็นฮวงซุ้ยค่ะ

              ไปถ้ำฟงหงาต้องนั่งเรือไป  ทิวทัศน์สองข้างทางและภายในถ้ำสวยมากค่ะ

            จากนั้นก็เข้าสู่เมืองเว้  เข้าสู่ที่พัก Duy Tan Hotel   หลังอาหารเย็น เราก็ไปลงเรือมังกรล่องแม่น้ำหอม  ในเรือมีดนตรีและนาฎศิลป์พื้นเมืองโบราณ ไกด์บอกว่าในสมัยก่อนใช้เล่นให้กษัตริย์ฟัง  มีกุหลาบขาย พวกเราก็ซื้อให้คณะที่มาแสดงเพราะคิดว่า รายได้จะได้กับคณะนี้ด้วย แต่ปรากฏว่าไม่ใช่  เจ้าของเรือต่างหากที่ได้  อยู่บนเรือประมาณ  1  ชั่วโมง  คืนนี้ลมแรง  โชคดีที่ฝนตกหลังจากที่กลับถึงโรงแรมแล้ว

           ดนตรีมี  3  ชิ้นและนักร้องอีก  5  คน  มีเพลงไทยด้วย  สาวเวียดนามแต่ละคนสวย ๆ  กันทั้งนั้น

                       พรุ่งนี้จะไป ฮอยอัน  ไฮไลท์ของทัวร์นี้

                                              สวัสดีค่ะ