ธรรมะบรรยาย โดยพระอาจารย์วิโรจน์ จกกวโร จากศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน จ.ขอนแก่น ได้แสดงธรรม ณ ห้องบรรยายสรรชัย ธีรพงค์ภักดี ภาควิชาวิสัญญีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อคราวทำบุญภาควิชาฯ วันที่ 14 ตุลาคม 2552
...
“อย่าลืมแก่”
“พอใจกับตัวตนและธรรมชาติ”
“โยมเคยไปวัดมั้ย... เคยได้ยินเสียงระฆังมั้ย?” ระฆังวัดจะดังสองรอบคือเช้ามืดที่วัดเวฬุวันจะดังตอนตีสี่ และตอนเย็นอีกหนึ่งรอบตอน 5 โมงเย็น
ปกติสียงระฆังที่ถูกตีจะดังก้อง สะท้อนแล้วเงียบ เคยมีมั้ยที่เสียงระฆังดังแล้วก้องยาวไปจนเย็น
...เหมือนชีวิตคน...
คนคนหนึ่ง เรียนจบด๊อกเตอร์จากอเมริกา ประสบความสำเร็จในชีวิต เมื่อวันหนึ่งกวาดใบไม้อยู่หน้าบ้าน เด็กที่เดินผ่านหน้าบ้านจะรู้จักไหมว่าเป็นด๊อกเตอร์ ...เผลอๆอาจจะพูดว่า “อ้าวลุง อย่าเกะกะ จะวิ่งเล่น”
พอถึงเวลานั้นใครยกย่อง เพราะคนที่ยกย่องเราตายไปหมดแล้ว... เขาลืมเราแล้ว
...มันเป็นระฆังชีวิตที่เคยดังก้องมาก่อน...
...ตอนนี้มันไม่ดังแล้ว...หรือหากจะดังก็ดังนิดเดียว
...แล้วใครจะรู้จักว่าตาเฒ่าคนนี้เป็นใคร...”
บทสรุป
ทำงานเพื่ออยู่ ต้องประจบประแจง จะทำอะไรที่เกินธรรมดา หอได้มาจะยึดเกาะมากเพราะลงทุนสูง จะวางไม่ได้ง่าย จะเสียใจมาก
ทำงานเพื่อฝึกตน คล้ายหลักธรรมะ มีเกิดดับ ไม่ยึดถือ ยึดมั่น ยึดครอง ไม่ยินดียินร้าย รับผิดชอบงานได้ดีและวางแผนงานไว้
ชีวิตคนเหมือนระฆังชีวิต... รู้จักยอมบ้าง ดูอารมณ์แล้วปล่อยมันไป
ภาควิชาฯที่มีปัญหามาก พัฒนามาก เจริญมาก ที่ที่เจริญย่อมมีปัญหาเพราะที่ที่เจริญคนย่อมอยากมาอยู่
ทำไมผู้บริหารต้องมีคนเดียว...
เพราะผู้บริหารย่อมมีความคิด มีแนวคิด มีมุมมองไม่เหมือนคนอื่น
ถ้าเรามีทิฐิมาก จะไม่มีใครกล้าทดสอบเรา “มองให้มันเป็นสิ่งสมมุติ”
สิ่งที่หนีไม่พ้นในสังคมคือ “ก๊ก” “เหล่า” หนีไม่ได้ ไม่มีใครดี100% คนเรามีดีมากกว่าเลวก็พอแล้ว ...ทำอย่างไรจะอยู่ด้วยกันได้เท่านั้นเอง
ทำไมเด็กทะเลาะกันแล้วข้ามวันเขาดีกันแล้วเล่นกันได้ ... ทำไมผู้ใหญ่ทำไม่ได้...เพราะเด็กเขามีจิตปฏิพัทธ์
จำไว้นะ... ทำให้ได้...อย่าอายเด็กมัน...”
...
สาธุ
สวัสดียามเช้าค่ะพี่ติ๋ว
สวัสดีค่ะ คุณน้อง
สาธุ...
สาธุ...
สาธุ...
ค่ะ น้องหนานเกียรติ...
สาธุ...
สาธุ...
สาธุ...
สวัสดีครับพี่...
สวัสดีค่ะ คุณหนานเกียรติ...
...สบายดีนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณเกด