งานเสี่ยงของดมยาก็ประมาณ... อย่าทำถ้วยชามสังคโลกแตก...ประมาณนั้นน่ะแหละ.....
การทำงานคุณภาพอย่างง่ายๆ
คือการลดความเสี่ยงในงานที่ตนทำอยู่เป็นประจำ…เพียงเท่านั้น...
พูดดูง่าย
แต่ในทางปฏิบัติค่อนข้างยากเพราะตัวแปรที่ทำให้เกิดความเสี่ยงที่ไม่อาจควบคุมได้มีมากมาย
ด้วยเพราะคุณภาพเกิดจากห่วงโซ่หลายๆห่วงคล้องต่อๆกันไป...
ดังนั้น
คุณภาพของงานจึงอยู่ที่ข้อโซ่ที่เปราะบางนั่นเอง
สิ่งที่สำคัญอยู่ที่ว่า หากเกิดความผิดพลาดในงานขึ้น
ผลของความผิดพลาดนั้นส่งผลกระทบกับใครบ้าง
รุนแรงมากน้อยเพียงใด...
ความรุนแรงของผลกระทบที่ได้รับมีความแตกต่าง...ในความสำคัญ...ยกตัวอย่างเช่น
·
ถ้าเป็นการล้างจานพลาสติก
ตก...ไม่แตก...ที่บ้าน คงไม่มีใครสนใจ
แต่ถ้าตกที่ทำงานอาจถูกมองว่าเป็นคนซุ่มซ่าม...ไม่เรียบร้อย(ไปสักหน่อย)...
·
ถ้าเป็นจานกระเบื้องตก...
แตก...ที่บ้าน ก็คงมีการถามไถ่กันบ้าง แต่ถ้าโชคร้ายตกที่ทำงาน...
คงประมาณว่าได้รับการหยอกล้อตามประสาคนสนิท
เช่นที่ทำงานมักถือว่าเป็นการลงทะเบียนเป็นลูกสาวดมยาเต็มตัว...แต่ถ้าจานนั้นเป็นของฝากจากคนรัก
นับจากนี้ไป อาจจะกลืนอะไรไม่ค่อยจะลง...
(เศร้า!...ชะมัด....)
งานเสี่ยงของดมยาก็ประมาณ...
อย่าทำถ้วยชามสังคโลกแตก...ประมาณนั้นแหละ.....
วันก่อนจึงได้มีโอกาสนำทีมคุณภาพบริการมาช่วยกันอุดช่องโหว่หรือรอยต่อที่อาจเป็นข้อโซ่ที่เปราะบาง
ซึ่งอาจจะได้กล่าวไปบ้างแล้วในบันทึกเก่าๆ....
วางแผนจัดทำ
Gap
Analysis
โดยใช้
Safe Anesthesia ใน Patient
Safety Goals : SIMPLE
เป็นกรอบ
Gap Analysis - S 2: Safe
Anesthesia
Recommendation
(คำแนะนำ)
|
Actual
Practice
(สิ่งที่ปฏิบัติอยู่)
|
Desired
Practice
(สิ่งที่ควรปฏิบัติ)
|
Action
Plan
(แผนที่จะปฏิบัติ)
|
1.
สนับสนุนให้มีวิสัญญีแพทย์ในโรงพยาบาลทั่วไปซึ่งมีโอกาสดูแลผู้ป่วย
ASA PS
III-V
|
|
|
|
2.
สนับสนุนให้วิสัญญีพยาบาลในโรงพยาบาลที่มีการผ่าตัดจำนวนน้อยราย
ได้มีโอกาสปฏิบัติการระงับความรู้สึกไม่น้อยกว่าปีละ 50
ราย
|
|
|
|
3.
ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการให้การระงับความรู้สึก
3.1
มีมาตรการป้องกันภาวะแทรกซ้อนเฉพาะอย่าง เช่น
การป้องกันการเกิดคลื่นไส้อาเจียน
|
|
|
|
3.2
มีมาตรการป้องกันภาวะแทรกซ้อนเชิงระบบ ได้แก่
• การจัดทีมบุคลากร : จำนวน
คุณวุฒิ ประสบการณ์ การแนะนำก่อนทำงาน การกำกับดูแลโดยผู้มีความชำนาญ
การให้คำปรึกษากรณีฉุกเฉิน
• การประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเทคนิคใหม่
: ทั้งด้านวิสัญญีและศัลยกรรม
• การประเมินและวางแผนการดูแลภาวะเจ็บป่วยร่วมในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยง
หรือผู้ป่วยที่ได้รับยาบางอย่าง
รวมทั้งการเตรียมผู้ป่วยให้มีสภาวะที่ดีก่อนระงับความรู้สึก
ในกรณีที่ผู้ป่วยสามารถรอผ่าตัดได้
เป็นการประเมินร่วมกันของวิสัญญีแพทย์ ศัลยแพทย์ อายุรแพทย์
ฯลฯ
• การให้ข้อมูลผู้ป่วยและความยินยอมในการให้ยาระงับความรู้สึกเพื่อผ่าตัด
เช่นข้อมูลสิ่งที่ผู้ป่วยอาจจะต้องประสบเมื่อรับการระงับความรู้สึก
• การสื่อสารกับผู้ร่วมงาน :
ทั้งทีมศัลยแพทย์ ทีมวิสัญญี เจ้าหน้าที่ธนาคารเลือด ห้องปฏิบัติการ
เจ้าหน้าที่รังสีเทคนิค ฯลฯ
• การะบุตัวผู้ป่วยและชนิด
/ข้างของการผ่าตัด
รวมทั้งการระบุป้ายฉลากยาที่จะให้กับผู้ป่วย
• หลีกเลี่ยงการเกิด
catheter and tubing mis-connections
• เฝ้าระวังสัญญาณชีพตลอดระยะเวลาที่ได้รับการระงับความรู้สึก
• สิ่งแวดล้อมในห้องผ่าตัด :
บุคลากรได้รับการฝึกฝน เครื่องมือเฝ้าระวัง
และเครื่องมืออื่นมีเพียงพอ มีมาตรฐานความปลอดภัย
พร้อมและใช้งานได้ดี
• มีการประเมินและวางแผนการระงับความรู้สึก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่มีโอกาสเกิดปัญหาระหว่างการระงับความรู้สึก
• การดูแลผู้ป่วยหลังการผ่าตัด
: ในห้องพักฟื้น หอผู้ป่วย
• การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่างหอผู้ป่วยกับห้องผ่าตัด/ห้องพักฟื้น
ทั้งไปและกลับ
|
|
|
|
4.
มีแนวทางการจัดการเมื่อเกิดภาวะไม่พึงประสงค์
เพื่อไม่ให้นำไปสู่ผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์ เช่น การระงับความตกใจ
การขอความช่วยเหลือจากบุคคลที่เชื่อถือได้
การสื่อสารที่ดีกับทีมศัลยแพทย์ทันที
งดการวิจารณ์โดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดว่าเหตุไม่พึงประสงค์เกิดจากสาเหตุใด
เรียบเรียงเหตุการณ์และไม่บันทึกเหตุการณ์ในลักษณะขัดแย้ง
สื่อสารกับญาติเป็นทีม รายงานผู้จัดการความเสี่ยงและผู้บังคับบัญชา
รวมทั้งการติดตามดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดและสร้างความเข้าใจที่ดีกับญาติ
|
|
|
|
5. Moderate / Conscious
Sedation
ในการให้ยาดังกล่าว
จะต้องมีการติดตามสภาวะทางสรีรวิทยาของผู้ป่วยอย่างเหมาะสม
และผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ทำต้องผ่านการอบรมมาระดับหนึ่ง
|
|
|
|
6.
ใช้แนวทางการให้บริการทางวิสัญญีวิทยา
ของราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์แห่งประเทศไทย
ตลอดจนแนวทางที่เป็นมาตรฐานระดับนานาชาติ
|
|
|
|
ผู้เขียนมีเจตนาเพียงนำมาเพื่อให้เพื่อนๆชาววิสัญญีได้เห็นเป็นแนวทางเท่านั้น
การนำไปปฏิบัติควรให้เหมาะสมกับบริบทของตนเอง..
เพราะ Recommendation
อาจเป็นฝันที่สูงเกินไปสำหรับบางโรงพยาบาลที่มีปัญหาด้านทรัพยากร...ผู้ประสานงานคงจำเป็นต้องเลือกใช้เทคนิคที่ดีและเหมาะสมในโรงพยาบาลของตน อย่าให้คนในองค์กรต้องขัดแย้งกันเพียงเพราะ
คำแนะนำที่เป็นเพียงแนวทางนี้เลย..
ที่นำเสนอข้างต้นนั้นเป็นเพียงบางส่วนในการทำงานของวิสัญญี...ยังมีให้ต้องวิเคราะห์ทำ
Gap อีกหลายเรื่องใน SIMPLE ซึ่งหากวิเคราะห์โดยละเอียดจะเห็นได้ว่า
งานวิสัญญีเกี่ยวข้องในทุกความสำคัญของ
SIMPLE และผู้ที่มีส่วนสำคัญในการดำเนินกิจกรรมต่างๆเพื่อลดความเสี่ยงคือ
ทุกคนในองค์กรนั้นๆนั่นเอง
มีทฤษฎีว่ด้วย Gap Analysis มากมาย...เช่นที่นี่ค่ะ
Gap Analysis HA