สุนทรียสนทนา


ที่สำคัญต้องมีมารยาทในการฟังผู้อื่นพูด และการสร้างบรรยากาศการสนทนาให้มีการพูดคุยแบบพี่น้อง เป็นกัลยานมิตรที่ดีต่อกันผู้พูดพร้อมให้และผู้ฟังพร้อมรับ

เมื่อ 3-4 วันก่อนได้มีโอกาสเข้าฟังการบรรยายเรื่องการจัดการความรู้ ที่มีอาจารย์หมอสุธี (คนชอบวิ่ง)สุภาพบุรุษอารมณ์ดีแห่งเทศบาลนครพิษณุโลก กับทีมงานสาวสวยอีก 2 สาว มาคุยให้ฟังถึงกระบวนกรการจัดการความรู้โดยใช้ สุทรียสนทนาหรือ Dialogue

ผู้เข้าร่วมฟังบรรยาย ส่วนใหญ่เป็นพยาบาลของกลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัวที่ปฏิบัติงานในศูนย์สุขภาพชุมชนต่างๆประมาณ 20 กว่าคน ซึ่งส่วนใหญ่ทราบจากพี่โต้ง (คุณลัดดาวัลย์) ว่าให้มาประชุมกลุ่มงาน

 คนชอบวิ่ง  เริ่มการบรรยาย ด้วยการชวนพูดคุย ชวนเล่าเรื่องประสบการณ์การจัดการความรู้ และ อจ.เล่าเรื่องประสบการณ์การเป็นวิทยากรกระบวนกรที่สวนป่า ของพ่อครูบา มี อจ.นิพัธ  พี่โต้ง  และน้องอ้อ(รัชดา) ร่วมแลกเปลี่ยนในช่วงแรก  (หลายคนยัง งง งง อยู่ว่าคุยเรื่องอะไรกัน จับประเด็นไม่ถูก เลยไม่กล้าคุย)

รอบสอง คนชอบวิ่ง เริ่มสอดแทรกเนื้อหา  กระตุ้นให้สมาชิกเข้ามาอยู่ในวงสนทนา และกระตุ้นให้ทุกคนพูด โดยประโยคที่ว่า อยากทราบว่าคนที่ยังไม่ได้พูดน่ะเพราะอะไร  มีบางคน เริ่มพูดแต่เป็นการถามกลับให้อาจารย์ตอบซึ่งก็ตอบคำถามให้ แต่วงสนทนาก็ยังไม่ขยายวงกว้าง หลายคนก็ยังไม่ยอมพูด แถมยังมีการจับคู่คุยกันในวงสนทนา

รอบที่สาม หลายคนเริ่มเข้าใจเรื่อง Dialogue หรือสุนทรียสนทนา ในการจัดการความรู้มากขึ้น เพราะอาจารย์เริ่มสรุปว่ากระบวนกรการสนทนาแบบ Dialogue มีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับความสนใจของกลุ่ม  ไม่จำกัดจำนวนคน  อาจมีหลายประเด็นหรือกำหนดประเด็นชัดเจน  ที่สำคัญต้องมีมารยาทในการฟังผู้อื่นพูด  และการสร้างบรรยากาศการสนทนาให้มีการพูดคุยแบบพี่น้องที่หวังดีต่อกัน  เป็นกัลยานมิตรที่ดีต่อกัน ผู้พูดพร้อมให้และผู้ฟังพร้อมรับ ซึ่งบรรยากาศแบบนี้ไม่สามารถทำได้ทุกครั้งและทุกคน แต่ก็ไม่ยากถ้าเราหมั่นฝึกฝนตนเอง

บันทึกนี้เป็นบันทึกแห่งความประทับใจของผู้เล่าที่ได้มีโอกาส มาเรียนรู้กระบวนกรการจัดการความรู้โดยใช้สุนทรียสนทนา จาก อจ.หมอสุธี(คนชอบวิ่ง) ผู้มีความสามารถในกระบวนกรการจัดการความรู้ ทำให้ได้ประสบการณ์ที่จะนำมาใช้ในการทำงานชุมชนและใช้ในชีวิตประจำวันของตนเอง ทำให้เข้าใจเครื่องมืออีกชิ้นหนึ่งในการจัดการความรู้.....ขออภัยที่ไม่รูปถ่ายของคนชอบวิ่งมาลงในบันทึกเพราะไม่คิดว่าจะได้เจอเลยเตรียมตัวไม่ทัน...แต่ดีใจที่การพบกันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว เห็นที่ไรก็สดใสร่าเริงทุกครั้ง..ขอให้หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวตลอดไปเลยนะคะ

หมายเลขบันทึก: 190922เขียนเมื่อ 28 มิถุนายน 2008 00:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน 2012 13:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สิ่งที่สำคัญมากๆ ในการสนทนากันไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใหญ่กลุ่มเล็กคือความกลมกลืนเข้าเป็นหนึ่งเดียวของคนในกลุ่ม นั่นคือต่างคนต่างทลายเกราะป้องกันตนเอง ตัดความเป็นพวกเราพวกเขา ของเราของเขา ให้ได้มากที่สุด ถ้าทำแบบนั้นได้นะหนูรัตน์ การสนทนาจะให้เราทั้งความรู้จากประสบการณ์ของแต่ละคนรวมถึงความรู้สึกของมิตรภาพที่สุขเย็น แค่คิดถึงก็มีความสุขแล้วใช่มั้ยหนูรัตน์

  • ในที่สุดก็ได้เรียนรู้และสัมผัสสุนทรียสนทนาแล้วเนาะ
  • หวังอยู่ว่าจะได้พบปะสนทนากันอีกค่ะ

หนูรัตน์ชอบเรียนรู้ จากการพูดคุยกับผู้คนค่ะอาจารย์ เพราะเวลาสงสัยหรือไม่เข้าใจสามารถซักถามและหาคำตอบได้เลย..ไม่ต้องรอ

  • สวัสดีค่ะ..อาจารย์หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
  • ดีใจที่ยังคิดถึงคนบ้านกร่าง
  • ติดตามอ่านเรื่องเล่าจากสวนป่าของอาจารย์อยู่ค่ะ
  • คนชอบวิ่งก็มาเล่าให้ฟังอีก
  • ขอเป็นกำลังใจให้การเปิดศูนย์แพทย์จงราบรื่น
  • ภาพประจำบล๊อกอันใหม่เนี่ยมองแล้วชวนให้คิด..มีความหมายหรือมีปริศนาในภาพถ่ายมั๊ยคะอาจารย์...(เห็นมีภาพมาให้ทายบ่อยๆ)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท