คำสาปตุตันคาเมน


เจ้าของสุสานจึงพยามยามหาทางป้องกันทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้ หนึ่งในจำนวนวิธีการนั้นได้แก่การร่าย " คำสาป"

                 เรื่องของคำสาปนับเป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างหนึ่งในบรรดาสิ่งลึกลับทั้งหลายในโลก  ในบรรดาคำสาปทั้งหลายที่มีอาถรรพณ์แรงกล้าในโลกเรานี้ เห็นจะต้องนับว่าคำสาปของพวกอียิปต์โบราณโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากบรรดาสุสานกษัตริย์ เป็นคำสาปที่ขลังและดุที่สุด สามารถเจาะจงติดตามรังควานเฉพาะคนที่ล่วงละเมิดความสงบสุขของผู้เสียชีวิตไปแล้วเท่านั้น

      

          ชาวอียิปต์โบราณเป็นพวกที่มีศรัทธาแน่นแฟ้นในเรื่องชีวิตหลังความตาย ศาสนาเก่าแก่ของเขาสอนให้เชื่อว่าคนที่ตายไปแล้วอาจฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ได้  ด้วยศรัทธาอย่างนี้ชาวไอยคุปต์จึงนิยมรักษาซากศพไว้เป็นอย่างดี ฝังไว้ในสุสาน ลึกลับพร้อมกับของใช้ส่วนตัวมากมาย รอวันที่จะกลับฟื้นคืนชีพอีกในอนาคต          

             แผ่นดินไอยคุปต์จึงเต็มไปด้วยสุสานทั้งในที่ลับและที่แจ้งนับไม่ถ้วน ทั้งแบบของข้าแผ่นดินที่ยากจน ร่ำรวย และสุสานกษัตริย์อันใหญ่โตโอฬารจนกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก     สมบัติมหาศาลในสุสานต่างๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งเย้ายวนใจพวกมิจฉาชีพ จึงพากันลักลอบขโมยขุดสุสานเพื่อขโมยเอาทรัพย์เหล่านั้นไป 

         เจ้าของสุสานจึงพยามยามหาทางป้องกันทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้  หนึ่งในจำนวนวิธีการนั้นได้แก่การร่าย " คำสาป"  

               การค้นพบสุสานของยุวกษัตริย์สำคัญองค์หนึ่งที่สำคัญยิ่งองค์นี้คือ ตุตันคาเมน ที่เราจะพูดถึงอาถรรพณ์ของคำสาปของพระองค์         

                    โดยความจริงแล้ว ตุตันคาเมน ยุวกษัตริย์องค์นี้ไม่ได้เป็นนักปกครองที่เก่งกาจอะไร   ตุตันคาเมน เป็นเพียงยุวราชาที่ได้ขึ้นครองบัลลังก์ไอยคุปต์ในเวลาที่สั้นมาก    แต่ที่พระองค์ดัง เป็นเพราะการค้นพบสุสานของพระองค์ซึ่งนับว่าสมบูรณ์ที่สุดนั่นต่างหาก      แม้ว่าสุสานของพระองค์อาจจะถูกหัวขโมยรบกวนบ้าง แต่ก็ไม่ได้พระราชทรัพย์ที่สำคัญไปมากเท่าไหร่ ของที่เหลืออยู่จึงทำให้คนรุ่นหลังได้รู้เรื่องราวของคนอียิปต์โบราณมากกว่าเดิม

    

           แต่...การค้นพบครั้งนี้นอกจากได้ความรู้มากขึ้น ก็กลับมีการสูญเสียมาพร้อมกัน เป็นการสูญเสียที่ผู้คนทั่วโลกจำนวนมากเชื่อว่ามาจาก คำสาป ที่วนเวียนอยู่ที่นั่น

       ''มรณะจักโบยบินมาสังหารสู่ผู้บังอาจรังควานสันติสุขแห่งพระองค์ฟาโรห์''  

          ข้อความนี้ เป็นคำสาปที่นักบวชไอยคุปต์ได้บรรจุไว้ในสุสานลี้ลับของฟาโรห์ตุตันคาเมน และมันก็แสดงผลในเวลาต่อมาว่าขลังและเปี่ยมด้วยอาถรรพณ์อันน่าพึงสยดสยองจริงๆ             

               บรรดาผู้ใกล้ชิดคลุกคลีกับการเปิดสุสานและหีบศพของพระองค์...คนแล้วคนเล่ามีอันต้องตายด้วยลักษณะแปลกๆโดยไม่คาดฝันถึง 22 คน !...! ประหนึ่งว่ามรณะได้โบยบินมาสังหารทุกผู้ทุกคนที่รังควานนิทรารมย์แห่งยุวราชา ตามคำสาปแช่งทุกประการ         

                ที่แปลกกว่านั้น หลังจากมรณกรรมของผู้คนจำนวนมากเมื่อห้าสิบปีก่อนผ่านไป ก็ยังมีการตายที่น่าแปลกที่เชื่อกันว่าเป็นเพราะฤทธิ์คำสาปเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง        

               สุสานตุตันคาเมนถูกเปิดในปี ค.ศ. 1922(พ.ศ. 2465) หลังจากนั้นผู้ร่วมพิธีเปิดได้เสียชีวิตไป 22 คน ครั้นห้าสิบปีผ่านไป เมื่อมีการแสดงสมบัติตุตันคาเมนเพื่อฉลองครบรอบห้าสิบปีแห่งการเปิดสุสาน ก็เกิดมรณกรรมแก่ผู้ที่บังอาจรบกวนฟาโรห์อีกครั้งอย่างไม่น่าเป็นไปได้        

               การค้นคว้าหาอดีตอันรุ่งโรจน์ของไอยคุปต์นับเป็นเรื่องที่นักโบราณคดีทุกคนใฝ่ฝัน ตลอดเวลากว่า 3,000-4,000 ปีของอียิปต์ หลักฐานที่มีอยู่นอกจากสถาปัตยกรรมอย่างปิรามิดที่เกือบสูญหายไปหมดแล้ว   ยังคงมีเพียงการตามขุดค้นด้วยความหวังที่จะพบโบราณวัตถุตามสุสาน ซึ่งคนอียิปต์โบราณก็นำของมีค่าเหล่านี้ฝังไว้ในที่เก็บศพตามความเชื่อของตน        

                 ตามประวัติความเป็นมา บริเวณที่นักโบราณคดีสนใจ คือ บริเวณเทือกเขาธีบัน (หุบเขาสุสานกษัตริย์)ทางด้านตะวันตกของนครธีบีส อดีตราชธานีของไอยคุปต์ ณ ที่นี้เป็นสถานที่ฝังพระศพของฟาโรห์แห่งราชวงศ์ 18 และ 19 จำนวนมากกว่า 30 แห่ง ในระยะเวลาที่เริ่มมีการขุดค้นนักโบราณคดีชาวตะวันตกคนแล้วคนเล่าพากันมาขุดที่นี่และต่างก็ได้รับความสำเร็จ คือ พบสุสานกับหีบพระศพ ตลอดจนโลงรูปตัวคนอยู่ในสุสานที่นั่นหลายต่อหลายครั้ง        

          น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ว่าบรรดาสุสานที่ได้พบในครั้งนั้นส่วนมากว่างเปล่าปราศจากทรัพย์สมบัติใดๆ บางแห่งแม้แต่มัมมี่เจ้าของสุสานก็ยังไม่มีในนั้นด้วยซ้ำ เพราะพวกหัวขโมยเข้าไปขุดลักสมบัติในนั้นไปจนหมดสิ้น เพราะเวลาผ่านมานานมากสุสานก็เลยถูกขโมยซ้ำแล้วซ้ำอีกจนไม่เหลือมีอะไร         

         เหตุฉะนี้ทำให้สุสานตุตันคาเมนโดดเด่นขึ้นมาเหนือการสำรวจครั้งใดๆทั้งสิ้น   เพราะเมื่อมีการพบสุสาน ครั้งนี้ทำให้ได้รับรู้ว่าที่พำนักนิทรารมย์ของกษัตริย์หนุ่มองค์นี้กลับเป็นที่เพียงแห่งเดียว ที่ไม่ถูกขโมยพระราชทรัพย์ไปจนหมด    

                นักโบราณคดีที่สามารถค้นพบสุสานนี้เป็นชาวอังกฤษชื่อโฮเวิร์ด คาร์เตอร์ ส่วนผู้ริเริ่มและอุดหนุนทุนในการสำรวจครั้งสำคัญที่สุดนี้ได้แก่ขุนนางผู้มั่งคั่งมีชื่อว่า ยอร์ช.อี.เอส.เอ็ม.เฮอร์เบิร์ต เอิร์ล ที่ห้าแห่งคาร์นาวอน ซึ่งทั่วโลกรู้จักกันในนาม   ลอร์ดคานาวอน        

               การสำรวจค้นหาสุสานเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1916 ในชั้นแรกทั้งสองก็ไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จหรือไม่    เมื่อขุดไปพบคูหาลับในหน้าผาเป็นที่เก็บวัสดุเหลือใช้จากพิธีการฝังศพฟาโรห์ กับพบแผ่นจารึกนามาภิไธย "ตุตันคาเมน"    ทำให้คาร์เตอร์ตั้งสมมติฐานว่าคงจะมีสุสานของฟาโรห์นามตุตันคาเมน อยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งในบริเวณหุบผากษัตริย์แห่งนี้          

                อย่างไรก็ตาม งานครั้งนี้ก็ใช้เวลานานถึง 6 ปีกว่าจะพบสุสานของยุวราชาในวันที่ 4 พฤศจิกายน 1922 คนงานชาวพื้นเมืองขุดพบบันไดหินทอดลงไปจากระดับพื้นซึ่งอยู่ใต้สุสานของฟาโรห์รามิเซสที่ 6 ลงมาประมาณ 13 ฟุต    หลังจากขุดลงไปตามขั้นบันไดจำนวน 16 ชั้น   ก็พบประตูปิดสนิทแน่น   เมื่อเจาะประตูนี้ออก จึงพบระเบียงทางเดินยาว 10 ฟุต ทอดไปสู่ประตูซึ่งปิดสนิทแน่นอีกบานหนึ่งขวางประตูอยู่ด้านในสุด  หลังประตูนี้ความลับทั้งมวลของไอยคุปต์เมื่อสามพันปีแอบแฝงอยู่!       

             หากแต่ใช่ว่าเมื่อเปิดประตูนี้จะเจอห้องเก็บสมบัติหรือห้องบรรจุพระศพเลย   กลับพบช่องทางเดินทอดยาวไปในความมืดซึ่งไปสิ้นสุดลงที่บานประตูอันปิดแน่นสนิทอีกบานหนึ่งตรงมุมด้านในสุดเช่นเดียวกับประตูแรกที่พบประตูนี้เป็นจุดความหวังของคาร์เตอร์และลอร์ดนาวอนให้ลุกโพลง เพราะหน้าประตูนั้นมีตราผนึกปิดแน่นเป็นราชลัญจกรของตุตันนคาเมนประทับไว้   แสดงว่า สุสานนี้เป็นของยุวราชาตุตันคาเมนแน่นอน       

              เบื้องหลังประตูนี้ คือ ที่ซ่อน " สิ่งมหัศจรรย์" นั่นคือห้องมุขที่เก็บพระราชทรัพ์ของตุตันคาเมนส่วนหนึ่ง ถัดห้องนี้ไปก็เป็นห้องเก็บพระบรมศพ   ด้านข้างห้องเก็บพระบรมศพก็มีห้องเก็บสมบัติหรือ "ห้องพระคลังข้างที่'' กับห้องเก็บของเล็กๆ อยู่ติดกับห้องมุขอีกห้องรวมเป็นสี่ห้องแห่งความมหัศจรรย์      

             

โฮเวิร์ด คาเตอร์ กำลังทำความสะอาดโลงพระศพของฟาโรห์ตุตันคาเมน

หีบไม้ซึ่งทำมาจากงาช้างและตกแต่งด้วยอัญมณีจารึกพระนามฟาโรห์ตุตันคาเมนและเทวี

            

             ความตายตามคำสาปครั้งหลังเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1972 (พ.ศ.2515)  หลังจากที่ทางราชการอียิปต์เก็บบรรดาสมบัติชิ้นสำคัญๆ ไว้ในพิพิธภัณฑ์กรุงไคโร    จนกระทั่งทางอังกฤษคิดจะจัดเสดงสมบัติ ตุตันคาเมน ขึ้นในกรุงลอนดอนเพื่อฉลองวาระครบ 50 ปี ที่ได้เปิดสุสานยุวราชา      บุคคลสำคัญในการลำเลียงสมบัติของฟาโรห์ออกจากพิพิธภัณฑ์ คือ อธิบดีกรมโบราณณณคดีของอียิปต์ ซึ่งขณะนั้นได้แก่ ดร.กามาล เมห์เรช  เขาเป็นผู้ที่นำเอาครอบพระพักตร์ทองคำและโลงศพทองคำของตุตันคาเมนออกมาจากที่เก็บ เพื่อบรรจุหีบห่อแล้วส่งขึ้นเครื่องบินไปยังลอนดอนเพื่อเตรียมเปิดการแสดงครั้งสำคัญนี้ 

 

โลงพระศพของฟาโรห์ตุตันคาเมน

 

 

        ดร.เมห์เรช ไม่รู้ตัวหรอกว่าเขาได้รังควานสันติสุขของฟาโรห์

อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้มีการเปิดสุสานเป็นต้นมา !

 

         แต่ถึงแม้จะรู้เขาก็ไม่สนใจ เพราะเขาเชื่อว่าความตายของผู้คน

หลังจากการเปิดสุสานตุตันคาเมนเป็นเหตุบังเอิญทั้งนั้น

              ดังคำสัมภาษณ์ที่ ฟิลิปป์ แวนเดนเบอร์ก ไปสัมภาษณ์ท่านอธิบดีก่อนจะเขียนหนังสือชื่อ ''คำสาปฟาโรห์'' ได้หยิบเอาเรื่องคำสาปในสุสานขึ้นเป็นหัวข้อสนทนา ดร. เมห์เรชยังกล่าวอย่างมั่นใจยืนยันความเชื่อเดิมว่า  "มันเป็นเรื่องบังเอิญทั้งนั้น"       

          แวนเดนเบอร์กถามว่า "ท่านแน่ใจหรือว่าคำสาปไม่มีจริง"        ท่านอธิบดีโบราณคดีก็ตอบว่า "ไม่เชื่อว่ามันจะเป็นจริงขึ้นมาได้ ดูผมเป็นตัวอย่างซิ ผมคลุกคลีอยู่กับสุสานและโบราณวัตถุของฟาโรห์ไอยคุปต์มามากมายนับไม่ถ้วนตั้งหลายสิบปีแล้ว "

      ท่านอธิบดีโบราณคดีย้ำแล้วย้ำอีก ก่อนที่จะนำสมบัติของกษัตริย์ตุตันคาเมนจากกรุในพิพิธภัณฑ์บรรจุหีบห่อเป็นพิเศษ ส่งไปแสดงยังลอนดอน...หลังจากที่ทำงานนี้เสร็จไม่กี่วันฟิลิปป์ แวนเดนเบอร์กก็ได้รับข่าวสลดใจกะทันหัน

          ดร.กามาล เมห์เรช    อธิบดีวัย 52 ปี ผู้มีร่างใหญ่ แข็งแรง ไม่เคยเจ็บป่วย อยู่ๆก็เป็นลมล้มตึงในห้องทำงาน และเสียชีวิตตั้งแต่ยังไม่ได้นำส่งโรงพยาบาล   หมอลงความเห็นว่าหัวใจวายเฉียบพลัน          

                    มรณกรรมของ ดร.เมเรช อย่างปุบปับหลังจากเข้าไป "รังควาน" สมบัติของตุตันคาเมนเป็นครั้งที่สอง จึงกลายเป็นหัวข้อให้คนที่เชื่อเรื่องลึกลับเอามาร่ำลือกันว่าท่านต้องอาถรรพณ์คำสาปฟาโรห์เข้าให้อย่างช่วยไม่ได้ เลยยิ่งส่งให้ความขลังและอาถรรพณ์ของคำสาปรุนแรงมากขึ้น ตามจารึกในสุสานที่ว่าเป็นปีกแห่งมรณะจะโบยบินมาสังหารผู้รังควานความสงบของพระองค์จริงๆ 

 

 

 

 

 

           

หมายเลขบันทึก: 145847เขียนเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2007 14:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

                   เฮ้ย  ไม่แน่นะเว้ย อาจจะเป้นคําสาปจริงๆก็ได้  โลกหลังความตายมีสิ่งมากมายที่เรายังไม่รู้  ของของท่าน "ตูตันคาเมน" ของๆใคร ใครก็หวงเราอย่าไปยุ่งกับท่านดีกว่า  อะไรที่เคยอยู่ยังไงก็ปลอ่ยให้อยู่แบบนั้น อ่ะดีแล้ว!!!!~~~

สวัสดีค่ะ ชื่อ พลอยน่ะค่ะ อายุ15ปี พอจะมีเรื่อง ของ ประวัติศาสตร์มาเล่าให้ฟังมั้งมัยค่ะ?

พลอยก้อไม่รู้จะเอาไปทำอะไร แต่ไม่รู้ทำไมความรู้สึกมันอยากรู้เรื่อง ประวัติศาสตร์เอามากๆเลยค่ะ

ถ้าได้อ่าน ก้อติดต่อทางอีเมล์ หรือ ทาง เบอร์ ก็ได้น่ะค่ะ 080-418-1761 ขอบคุณน่ะค่ะ

ถ้าจะให้ดีอยากได้หนังสือน่ะค่ะ พอจะมีที่ไม่ได้ใช่มั้งมัยค่ะ?

ช่วยส่งมาให้หน่อยน่ะค่ะ ที่42/34 ถ. สองนางสถิตย์(ตลาดดานัง) ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร 49000

ขอบคุณน่ะค่ะ

เก่งจังเลยนะคะที่ไปหาข้อมูลมาได้เยอะแบบนี้ คือว่าฟ้าสนใจเรื่องตำนานอะไรพวกนี้พอดูน่ะค่ะ ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ กำลังหาข้อมูลไปทำรายงานส่งอาจารย์พอดีเลย

คือเมย์มีเรื่องที่รู้ก็หลายเรื่องนะคะ

แต่ไม่ค่อยกล้าเล่า

กลัวอ่ะค่ะ

รู้มาอีกเรื่องเรื่องเรือไททานิคร่ม ก็มาจากเจ้าหญิงองค์หนึ่งที่เป็นมัมมี

เจ้าหญิงิงค์นี้ไม่ว่าจะนำไปไว้ในพิพิธภัณฑ์ไหนก็ต้องมีคนตายเสมอ

แม้แต่คนที่ทำความสะอาดสองวันต่อมาลูกชายของเธอก็ตาย

เลยมีเศรษฐีคนนึงมาซื้อมัมมี่เจ้าหญิงองค์นี้โดยเดินทางโดยเรือไททานิค

เรือไททานิคมีการรับรองมาว่ายังไงก็จะไม่มีวันล่ม แต่ก็ล่ม

คนสมัยก่อนเลยเชื่อว่าเป็นเพราะมัมมี่เจ้าหญิงต้องคำสาปองค์นี้

คือหนูเคยได้ยินมาว่าคำสาปของฟาโรห์สลักไว้น่ะค่ะ ว่า

ใครที่ทำลายความสงบสุขของข้า

เทพเเห่งความตายจะไปเยือนมันผู้นั้น

ซึ่งก็แปลกนะคะ นักวิทย์ที่เข้าไปสำรวจ

หลายคนพอออกมาไม่นานก็เสีย

ชีวิตอย่างน่าอนาถค่ะ

แต่ความจริงในล่าขุมทรัพย์ในอียิปต์ค่ะ

บอกว่าคำสาปฟาโรห์ไม่มีอยู่จริง

เป็นแค่คำเล่าให้น่ากลัวค่ะ

เพราะมีชายนักสำรวจพีระมิดคนหนึ่ง

ออกมาก็ตายแต่ตายเพราะยุง ติดเชื้อไข้เลือดออกค่ะ

เเต่นักวิทย์ที่เข้าไปอาจตายด้วย

ฝุ่นสีเขียวข้างในที่เกาะตามทางค่ะ

และมันเหมือนเป็นไวรัสชนิดหนึ่งค่ะ

ซัก 2 - 3 ชั่วโมงก็ออกฤทธิ์

นี่แหละมั้งคะ ถึงทำให้ตายน่ะค่ะ

...........................................................................................

เป็นอย่างที่เค้าพูดจริง ๆ อ่ะนะ - - แต่ก็ใช่ว่าจะลบหลู่นะ ขอแนะนำให้ไปอ่าน

 ลบเหลี่ยม ไอน์สไตน์ 1 และ 2 แล้วจะรู้หมดทุกอย่างเลยว่า ใครที่คิดว่าตัวเอง รู้เยอะ

จะต้องเอามือก่ายกน้าผาก เพราะสิ่งที่พวกเขารู้มาตั้งแต่เด็กมัน ผิด ทั้งหมด... 

เด็ก นมร.บด. ห้อง2/4 ปี 54

มาดูเพราะเรียนอังกิดแล้วอาจารย์เขาเล่าไห้ฝังละไห้ไปหาดูไม่มีไรทำจิงมาดู เชื่อครับและไม่ลบหลู่ด้วยครับ

อีกที่หนึ่งดูได้จาก www.historyforkids.org แต่แนะนำไห้มีตัวแปลภาษานะครับเพราะเปนเวปนอก อังกิดหมดเลย

ขอบคุน ครับ ไคร ไม่ เชื่อก็ไม่ควรลบหลู่นะครับ

เป็นคนหนึ่งที่เชื่อเป็นอย่างมาก และไม่ลบหลู่ด้วยครับ

ขอบคุนครับ

เป็นเรื่องที่ยากจะอธิบายมากๆเลยค่ะ แต่ละสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ หรืออาจจะเป็นเพราะคำสาปจริงๆก็ได้นะค่ะไม่มีไครพิสูจณ์ได้หรอกค่ะ ในความคิดของหนูหนูว่ามันเป็นเรื่องที่น่าติดตามมากๆเลยค่ะ ตอนหนูไปเห็นสุสานของจริงก็ว่ามันสวยดีนะคะ แต่พอเข้าไปข้านในก็เดินลำบบากพอตัวเลยล่ะค่ะ   จาก p.p pink

 

ขอโทษนะค่ะ คือว่า อยากอ่านหนังสือเรื่อง ลบเหลี่ยมไอนส์ไตน ค่ะ หาได้จากที่ไหนค่ะ อยากอ่านหน่ะค่ะ แต่ว่ามันน่าเชื่อถือนะค่ะ หนูก็เชื่อเรื่องพวกนี้นะค่ะ หนูชอบพวกตำนาน เรื่องเล่า ที่สืบทอดกันมา หรือ ผู้วิเศษ อะไรทำนองนี้หน่ะค่ะ ^^" แต่ไม่เคยลบหลู่นะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ มีรายงานไปส่งครูวันจันทร์แล้ว ไชโย!!! =_="

รดาดมดแมะนยะสา

ผมว่าคุณไสยยังมีจริงอยู่นะอย่าลบหลู่

สนใจประวัติศาสตร์อียิปต์ มากค่ะ พอได้อ่านแล้วรู้สึกว่าน่าติดตามยิ่งได้อ่านเกี่ยวกับฟาโรห์ด้วยแล้ว ยิ่งอยากทำให้เรียนประวัติศาสตร์เลยค่ะ

เจ้านางน้อยรัชวงค์เชียงตุง

ตุตัน คาเมน และสุสานของท่านน่าสนใจมากครับ

ผมเป็นอีกคนนึงที่ชอบอ่านประวัติศาตร์ ของอียิป นะครับ สนุกมาก ชอบหลายๆเรื่อง ทั้งศิลปะวัฒนธรรม เทพที่นับถือ แปลกนะผมชอบและคลั่งไคล้มากกับเทพอนูบิส คือไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงชอบขนาดนั้น และศึกษาตำนานกรีก ด้วย สนุกมากครับ หาข้อมูลมาเยอะๆผมรออ่านนะ มีหลายเรื่องที่อยากทราบเลยละ

ขอบคุณสำหรับขอ้อมูลดีๆนะครับ ช่วยเอาไปเขียนนิยายได้เยอะเลย อ๊ะๆ ไม่ได้ตั้งใจจะลบหลู่นะครับ แค่เอาไปเขียนเพื่อความสนุกสนานของผู้อ่านนะครับ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท