เมื่อวานที่ผ่านมา ครูอ้อยไปงานศพสามีของเพื่อนที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน
จริงๆแล้วครูอ้อยต้องไปฟังสวดศพตอนเย็นของวันศุกร์ แต่เนื่องจากว่า การบ้านของครูอ้อยยังไม่เสร็จ และจะต้องส่งอาจารย์ในวันเสาร์ เลยรีบทำการบ้านก่อน
ทั้งๆที่รู้ว่าไปงานศพใครทีไร ครูอ้อยต้องมีใจห่อเหี่ยวกลับบ้านทุกที แต่คราวนี้มีความจำเป็นมากที่สุดเพราะ
งานศพจะเริ่มเวลา 17.00 น. ครูอ้อยเสร็จภารกิจที่มหาวิทยาลัย 15.00น. และรีบขับรถมาทางถนนเลียบทางด่วน รามอินทรา-อาจณรงค์ ตรงมาทางหลักสี่ และวกเข้าวัด วันนี้รถไม่ติดเลย ครูอ้อยชำนาญเส้นทางนี้มาก เพราะ
ครูอ้อยมาเร็วมาก เลยมีที่จอดรถอย่างสบาย ไม่ต้องแย่งกัน ครูอ้อยเดินไปเรื่อย ดูความเปลี่ยนแปลงของวัด เพราะเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ครูอ้อยเดินทะลุวัดนี้ เพื่อไปวิทยาลัยที่เรียนหนังสือ วัดกำลังปรับปรุง เนื่องจากมีประชาชนนิยมใช้บริการมากเลย(ไม่อยากใช้บริการเท่าไร)
พอมาถึงศาลา9/2 ครูอ้อยเดินตรงเข้าไปในห้องรับแขก ตอนนั้นมีแขกมามากแล้ว เดินไปเดี๋ยวเดียวก็พบเจ้าภาพ ซึ่งเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันเป็นเวลาเกือบ 30 ปี เธอผ่ายผอมไปมากมาก ตัวของครูอ้อยบังเธอมิดเลย(อ้วนมาก)
เรานั่งคุยกันไม่ถึง 5 นาที เธอ(พี่หญิง) ต้องต้อนรับแขก สักครู่เด็กผู้หญิงอายุประมาณ 18 ปี มาสวัสดี และพูดว่า " สวัสดีค่ะ แม่อ้อย "
เธอชื่อ น้องขวัญ เธอกำพร้าพ่อแล้ว การจากไปของพ่อเธอ ไม่ได้คาดคิด พ่อของเธอไปเสียชีวิตในต่างแดน เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เนื่องจากไปประชุม ศึกษาดูงานของบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง (มหาชน) และแพทย์ลงความเห็นว่า ตายเพราะเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ถึง
ครูอ้อยดูภาพจาก Power Point ที่ทางวัดจัดทำให้(ก้าวหน้ามากเลย) เป็นภาพของผู้ตาย คือ คุณผดุงศักดิ์ ทัศนสุวรรณ รองประธานฝ่ายการผลิต บริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง(มหาชน)
และอ่านหนังสือที่ทำแจกในงานศพ ให้นึกถึงการบ้านที่อาจารย์ให้ทำ(อัตตชีวประวัติ) เหมาะที่จะนำมาใส่ในหนังสือเล่มนี้ตอนที่จำเป็นด้วย (แต่คงอีกนาน) ไม่ประมาทเตรียมไว้ก่อนก็ดี ไม่ลำบากผู้ที่อยู่ข้างหลัง
ครูอ้อยตกใจ และเสียใจมาก เพราะเกิดปีเดียวกับครูอ้อย และอายุเท่ากับครูอ้อย
ก่อนกลับบ้าน ครูอ้อยกับคุณพ่อ และคุณพ่อของพี่หญิงยืนสนทนากัน
พี่หญิงถามครูอ้อยว่า " เธอดูแลสามีของเธอหรือเปล่า อย่าทำแบบพี่ เขาตายไปแล้วพี่ไม่ได้ดูแลเขาเลย อย่าเอาแต่เรียนนะอ้อย " ครูอ้อยไม่ตอบได้แต่ยิ้ม
แต่ก่อนกลับบ้าน ครูอ้อยติดเครื่องรถยนต์ แต่ก่อนจะเคลื่อนตัวออกจากที่จอดรถ ครูอ้อยได้โทรศัพท์หาพ่อบ้านของครูอ้อย และถามว่า " นี่คุณ อ้อยอยู่วัดนะคะ คุณจะจองศาลาไหนล่ะคะ "
ลองคิดดูซิคะ จะได้รับคำตอบว่าอย่างไร จ้างให้ก็ไม่บอก
ซึ้งจังเลยครับ หนูทิม ทำให้ผมอดนึกถึงตอนที่ผมไปเรียนต่อที่มาเลเซียไม่ได้ ระหว่างนั้นผมเขียนจดหมายถึงคนน้ำใจดีคนหนึ่ง บอกเขาว่า ฉันจะรักเธอตลอดไป แต่จดหมายตอบของเธอ บอกให้ผมรู้ว่า เธอบอกฉันเพียงแค่นั้นไม่ได้นะ เพราะแค่คำว่าฉันจะรักเธอตลอดไปอาจหมายถึงว่าระหว่างทางเธออาจจะรักคนอื่นควบคู่ไปด้วย เพราะฉะนั้น ฉันต้องบอกฉันว่า ฉันจะรักเธอคนเดียวตลอดไป อึ้งครับ อึ้งกิมกี่กินครับ แต่ถึงอย่างไรสุดท้ายเธอก็ตอบตกลงเป็นแฟนผม
ครูอ้อยขา