ที่นี่ยังมีการค้นพบกะโหลกศีรษะของคน 2 คน ที่ผ่านการผ่าตัดทำศัลยกรรมในยุคแรกๆ ซึ่งเคยมีขึ้นเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นในยุคก่อนประวัติศาสตร์ของอังกฤษ
“น่าจะเป็นคนอยู่ในภาวะท้อแท้สิ้นหวังแล้วตอนที่เขามาที่สโตนเฮนจ์” ดาร์วิลกล่าวที่สมาคมโบราณคดีแห่งลอนดอน
“โครงกระดูกของมนุษย์ ที่รู้จักกันในชื่อว่า อเมสเบอร์รี อาร์เชอร์ ที่พบในบริเวณนี้ มีลักษณะของกะโหลกศีรษะเหมือนได้รับบาดเจ็บรุนแรง คาดว่าจะเสียชีวิตในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่มีการนำหินเหล่านี้มาวางเรียงไว้แบบนี้
การวิเคราะห์กระดูกของอาร์เชอร์บ่งชี้ว่าเขาน่าจะดั้นด้นมาจากแถบเทือกเขาแอลป์”
แต่ดาร์วิลก็ยังยอมรับความเป็นไปได้อื่นๆ ว่า “ที่นี่อาจจะเป็นวิหารหรือจะเป็นศูนย์ในการเยียวยารักษาก็ได้”
การค้นพบครั้งนี้ ทำให้มีการประเมินอายุของสโตนเฮนจ์ ใหม่ว่าน่าจะเป็นเมื่อราว 2300 ปี ก่อนคริสตกาล น้อยกว่าที่เคยคิดไว้ราวสองศตวรรษ อันเป็นช่วงเวลาที่มีการนำหินสีฟ้า ซึ่งเป็นหินหายากที่นักธรณีวิทยารู้จักว่าเป็นหินแร่โดโลไมต์
จากเมืองเพมโบรคไชร์ ในแคว้นเวลส์ สู่ที่ราบซัลลิสเบอร์รี ทางใต้ของอังกฤษ เพื่อจัดวางเป็นวงในของสโตนเฮนจ์
สโตนเฮนจ์ประกอบด้วยหินสามวงล้อมกันอยู่ วงนอกเป็นแผ่นหินทรายขนาดใหญ่ เป็นส่วนที่คนส่วนใหญ่เข้าไปชมได้ วงกลาง และวงในซึ่งเป็นส่วนที่เป็นหินสีฟ้านั้น มีเพียงหนึ่งในสามของ 80 หรือ 90 ก้อนเท่านั้น และส่วนนี้เองที่เชื่อกันว่าเป็นหัวใจของสโตนเฮนจ์และเป็นส่วนที่มีพลังในการรักษาได้
หลักฐานใหม่ที่พบนี้ ดาร์วิล กล่าวว่า เขาขุดค้นพบสะเก็ดหินบางส่วนที่ทำมาจากหินสีฟ้า ที่คนนำมาทำเป็นเครื่องราง เป็นการใช้ในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับการรักษาหรือการป้องกัน เช่นเดียวกับทฤษฎีของหลุมฝังศพที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษที่พบว่ามีการฝังหินนี้ไว้รวมกับศพผู้เป็นเจ้าของด้วย
บันทึกเดิมๆๆที่..... ใฝ่ฝัน..จะชมพระราชวังบักกิ้งแฮม อังกฤษ ..... มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์...ตุลา นี้ไปแน่ ..... วัตถุประสงค์ที่จะไปอังกฤษของครูอ้อย ..... ศึกษาและเตรียมการก่อนเดินทางไป...อังกฤษ ..... ความฝันในวัยเด็กเป็นจริงที่...อังกฤษ ..... ครูอ้อย แซ่เฮจะไปอังกฤษกับคุณสะมะนึก...เฮ้
2500 ปี ความลับก็ยังเป็นความลับ
ความจริงมีอะไรที่เป็นความลับบ้างก็ดีเหมือนกันนะครับ
เพราะบางทีหากรู้ความจริงว่าเป็นแค่อะไรที่ไม่สำคัญ เราอาจมองว่าคนโบราณโง่ก็ได้ เพราะคนเราชอบเอาตัวเองเป็นที่ตั้งไปตัดสินคนอื่น
ว่าแต่อยากไปเห็น แบบสำผัสใกล้ชิดเหมือนกันครับ แฮ่ๆ
สวัสดีค่ะ เจษฎา
ขอบคุณมากค่ะ ครูอ้อย จะไป ยืน แนบชิดก้อนหิน แล้วถ่ายรูปให้มากที่สุด เท่าที่มีโอกาสนะคะ
เตรียมตัวก่อนไปดีมากค่ะครูอ้อย...เขาเรียกว่าเที่ยวเป็น (มืออาชีพ)...น่าคิดนะคะ..ยุคหินใหญ่..เช่นที่ปิรามิด...ปราสาทนครวัด..และที่นี่..น่าสนใจนะคะ..ทั้งๆที่อยู่คนละซีกโลก...
สวัสดีค่ะ คุณพี่ นาง นงนาท สนธิสุวรรณ
ขอบพระคุณค่ะคุณพี่ รักษาสุขภาพนะคะ