อีเมล์จากกัลยาณมิตร


ขอบคุณคุณตาจาก DMG Academy ที่แนะนำบทความของคุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย ในคอลัมน์ศิลาในน้ำเชี่ยว หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ 18 ตุลาคม 2551 ขออนุญาตนำมาให้เพื่อน G2K อ่านครับ
สิ่งพึงทำที่สุดในชีวิต

             สงบเข้าไว้ รอคอยอย่างอดทน ทำอะไรที่ทำได้ไปพลางๆ

ไม่มีอะไรยืนยาวอย่างไม่รู้จบได้หรอก

ทุกอย่างล้วนต้องเปลี่ยนแปลง อาจจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นด้วยซ้ำ

        หากคุณรอคอยอย่างสงบและผ่อนคลาย

        แต่หากคุณกระวนกระวายวิ่งวุ่นราวคนบ้า คุณก็กำลังก่อกวนให้สถานการณ์เลวร้ายลง

 

        ชีวิตที่ไร้ความทุกข์ยาก คงจะตื้นเขินและน่าเบื่อมากทีเดียว

        ทนทุกข์ เรียนรู้ และเติบโต...

 

        ผมได้พลิกอ่านหนังสือหิมะกลางฤดูร้อนของท่านสยาดอ อู โชติกะ พระภิกษุชาวพม่าอยู่บ่อยๆ

และได้พบคำพูดที่เรียบง่ายแต่สะกิดใจ สะท้อนความรู้สึกอย่างชงัดงัน โดยเฉพาะในห้วงเวลาแห่งความวุ่นวาย

สับสนในปัจจุบัน  ท่านอูโชติกะได้เขียนไว้ว่า โปรดอย่าคิดว่าเรื่องยุ่งยากเหล่านี้มันไร้ค่า แม้จะต้องผจญกับ

ความรวดร้าว ผิดหวัง ท้อแท้ และเศร้าโศกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปมากเพียงใด

อาตมาก็ยังคงเห็นว่าชีวิตมันน่าสนใจ ล้ำค่าด้วยความหมาย

 

        เราเดินอ้อมไม่ได้หรอกนะ หนทางเดียวคือ ต้องเดินฝ่าเข้าไป

                                                                                 

        ไม่มีคำว่าสมบูรณ์แบบในชีวิตนี้ ฉะนั้น อย่าไปโหยหาความสมบูรณ์แบบเลย

อาตมาเองก็ไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ ไม่มีวันจะเป็นไปได้ และไม่เคยคาดหวังด้วย

 

        อาตมาผ่านทุกข์มาไม่น้อยเลย ขณะนี้ก็ยังมีทุกข์ แต่อาตมาอยู่กับความทุกข์ได้อย่างสงบและสง่างาม

อาตมาถือว่าทุกข์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เป็นส่วนที่สำคัญมากด้วย จะเข้าใจชีวิตได้อย่างไร

หากไม่เคยรู้จักความทุกข์ แม้ในยามทุกข์อาตมาก็ยังคงสงบเย็นได้

จนยากที่ใครจะเชื่อได้ว่า อาตมากำลังเผชิญกับทุกข์ที่ใหญ่หลวงอยู่

 

        เป็นธรรมดาครับที่คนเรามักจะรักสุข เกลียดทุกข์ จึงมีการต่อต้าน ดึงดัน ขัดขืน

เพื่อตีฝ่าออกจากวงล้อมแห่งความทุกข์ โดยหารู้ไม่ว่ายิ่งพยายามดึงดันขัดขืนมากเท่าไร ก็ยิ่งทุกข์มากขึ้นเท่านั้น

วิธีการที่นุ่มนวลแต่เด็ดขาดและราบคาบที่สุด คือ การเข้าไปทำความรู้จัก คุ้นเคย และยอมรับกับความทุกข์ที่เกิดขึ้น
โดยไม่มีการผลักไสไล่ส่ง กีดกัน ต่อต้าน
ความมหัศจรรย์จะพลันเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา คือ ความทุกข์นั้นพลันมลายหายไป

จับต้องไม่ได้ ประหนึ่งเอาไฟสปอตไลท์เข้าไปส่องสัตว์ในยามกลางคืน สัตว์นั้นก็วิ่งหนีหายไปทันทีโดยที่ไม่ต้องทำอะไร

 

หากคุณมีสติ ความทุกข์จะช่วยให้คุณเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างลุ่มลึก

 

        ควรอยู่หรอกที่เราจะมีอุดมการณ์บางอย่างในชีวิต จะได้มีเป้าหมายหรือทิศทางที่จะเดิน

แต่อย่าถึงกับบ้าอุดมการณ์จนฟั่นเฟือน อุดมการณ์ที่ประเสริฐสุด คือ มีสติอยู่เสมอเป็นนิตย์

 

        คนเรามักมีอะไรทำมากมายจนลืมว่าสักวันตัวเองก็ต้องตาย 

เรานึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ แต่มันคือภาพลวงตา

 

เราอยากจะเป็นคนสำคัญในชีวิตของคนอื่น อยากจะรู้สึกว่าเราเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนอื่นได้มากมาย

 

สิ่งที่พึงทำ คือ ทำในสิ่งที่ตนทำได้โดยไม่ต้องคาดหวังว่าจะมีใครจำได้เมื่องานเสร็จ  

การปล่อยให้คนอื่นมีอิสระที่จะโง่งมบ้าง เป็นก้าวสำคัญและยากที่สุดในการพัฒนาจิต เห็นด้วยหรือไม่ครับ!

หมายเลขบันทึก: 217149เขียนเมื่อ 17 ตุลาคม 2008 12:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:48 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

การปล่อยให้คนอื่นมีอิสระที่จะโง่งมบ้าง เป็นก้าวสำคัญและยากที่สุดในการพัฒนาจิต เห็นด้วยหรือไม่ครับ!

เห็นด้วยค่ะ...เมื่อทำถึงที่สุดแล้ว การปล่อยให้ผู้อื่นเกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเอง...ขณะที่ตัวเราค่อยๆ ถอยออกไปยืนข้างๆ คือสิ่งที่ยากแต่ต้องทำ..นะคะ อาจารย์ POP...

นกที่บินไปไม่ว่าเป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม...ไม่เคยบินใกล้กันเกินไปนัก...แต่จะบินห่างกันมากพอที่ปีกของแต่ละตัวจะสยายได้ ประคองตัวเองได้..และต่างก็เติบโตได้เช่นกัน..จริงไหมคะ

สิ่งที่พึงทำ คือ ทำในสิ่งที่ตนทำได้โดยไม่ต้องคาดหวังว่าจะมีใครจำได้เมื่องานเสร็จ  

ผู้ที่สามารถยืนสงบอยู่หลังฉาก และอวยพรให้ผู้ที่ยืนอยู่หน้าฉากที่ได้รับเสียงปรบมือนั้น...ยอดเยี่ยมและน่านับถือจริงๆค่ะ

ยกตัวอย่างให้เห็นเด่นชัด "ถ้าเข้ามาตอบกระทู้นี้แสดงว่า จิตยังไม่ได้พัฒนา เพราะไม่ได้ปล่อยให้คนอื่นมีอิสระที่จะโง่งมใช่หรือไม่ครับ"

ขอบคุณครับคุณจันทรรัตน์ และคุณกวิน ที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้

ในความคิดเห็นส่วนตัว การตระหนักรู้ว่าจิตของเราพัฒนาเพียงใด ขึ้นอยู่กับโอกาสที่เรานั้นไตร่ตรองว่าจิตของเราได้ส่งเสริมความคิดสู่จิตที่ดีงามของกัลยานมิตรได้อิสระเพียงใด มิได้คาดหวัง มิได้กังวล แต่คิดด้วยจิตที่ร่วมกันพัฒนาการเรียนรู้แห่งเพื่อนมนุษย์ครับ

อาจารย์ POP ตอบได้กระจะกระจ่าง เหมือนแหวกม่านมองเห็นดวงตะวัน เหมือนพลิกของที่คว่ำให้หงาย ขออภัยที่ได้กล่าววาจาล่วงเกิน ตั้งใจทดสอบสภาวจิตของอาจารย์ดูน่ะครับ :)    

พี่ป๊อบสุดยอดๆๆๆไปเลย

ขอบคุณครับน้อง PTPT

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท