ครึ่งขมครึ่งหวาน
วันนี้คุณพ่อขายาวตื่นแต่เช้า อ้อ ที่จริงเขาตื่นเช้ากว่าเราทุกวันค่ะ
เขาพูดให้เราแม่ลูกฟังบ่อย ๆ ว่า
“ตื่นเช้า ๆ ชูแขน หันหน้าเข้าหาดวงตะวัน ยืนใต้ต้นไม้ใหญ่ แล้วสูดดมผ่อนเอาลมหายใจเข้าช้า ๆ ออกช้า ๆ อย่างแผ่วเบา
เอาความมีชีวิตของต้นไม้ ลม ความอบอุ่นจากตะวันแรกขึ้น ให้ได้”
ทำแบบนี้ทุก ๆ วันหมายถึง ตื่นเช้าก่อนตะวันขึ้น ออกกำลังกาย ทำสมาธิ กำหนดลมหายใจ รับรองว่า สดชื่น และ
ชีวิตคนคนนั้นจะเจริญ
คุณพ่อขายาวพูดบ่อย จนกระทั่งคนชอบนอนมาก ๆ อย่างดิฉันเอง ละอายในใจ
เพราะคนต้นคิด คนเริ่มเอาวิธีนี้มาปฎิบัติแรกเริ่มคือดิฉันเอง
มาห่างไปเพราะนอนดึก ตื่นเช้าไม่ไหว
จึงเริ่มใหม่พยายามเข้านอนก่อนสี่ทุ่มครึ่งให้ได้ ตื่นก่อนหกนาฬิกาเช้าจนได้
แล้วจึงเข้าสู่วงจร คนตื่นเช้า ได้
สองวันหยุดนี้ เราสองคนพ่อแม่อยู่กันตามลำพัง ลูกเปิดเทอมแล้ว
ตื่นเช้าและนั่งคุยกันถึงเรื่องจิปาถะ
วันนี้เราสองคนนั่งคุยกันได้นาน
แปลกนะคะ แม้ว่าจะอยู่กันมานาน บางสิ่งบางอย่างเราเพิ่งเปิดใจคุยกัน อย่างใกล้ชิด ในลักษณะของผู้ใหญ่จริง ๆ
ใช่ เพราะชีวิตการงานที่เร่งรีบ การงานที่อยู่ภายใต้การดูแลของเขามาก ไกล(ต้องเดินทาง)เป็นอุปสรรคส่วนใหญ่
ที่ทำให้เราคุยกันน้อยลง
ยิ่งเมื่อลูกเล็ก ๆ เราเองสถานภาพความเป็นแม่ ทำให้เรามีแต่เรื่องการเตรียมอาหาร การรับส่งลูกไปโรงเรียน และการงานอาชีพตัวเอง
สองวันหยุดนี้ เราคุยกันเรื่องเศรษฐกิจ การวางแผนการศึกษาคร่าว ๆ ของลูก การวางแผนทางการเงินของครอบครัว ฯลฯ
และสิ่งสำคัญ
การมีร่างกายที่แข็งแรง จิตที่สงบ แต่แข็งแกร่ง
การระลึกถึง คำนึงถึงความตาย
การไม่ประมาทต่อการใช้ชีวิต
พยายามเปิดใจให้กว้าง
ยึด ธรรม เป็นสรณะ ของการดำรงชีวิต
และ
หมั่นศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ ๆ
ทุกทุกวัน
เราสามคนพ่อแม่ลูก กำลังมีย่างก้าวแต่ละก้าว อาจเดินทางไปต่างเส้นทาง ต่างแห่งหนตำบล ต่างประเทศ ในบางคราว
แต่เรามั่นใจว่า เราจะมาพบกัน มาร่วมนั่งกินข้าว นั่งคุย ปรึกษาหารือ ถกกันถึงเรื่องการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ และอื่น ๆ กันอีก
เราสองคน พ่อและแม่ ต้องปฎิบัติเช่นที่ว่านี้ก่อน
ก่อนจะพยายาม เดินทางไปในทาง ที่เราหวังว่ามันจะมั่นคง เจริญก้าวหน้า ทั้งในการงานของเราสองคนเพื่อเป็นต้นแบบของลูก ลูกศิษย์คนแรก และคนสำคัญของเรา
การศึกษาของลูก เราจะไม่ปิดกั้นเขา เราจะไม่บังคับเขา เรามั่นใจว่าเขามีความ ทรนง ค่ะดิฉันขอใช้คำนี้
เนื่องด้วยเขาพูดกับแม่-ผู้ซึ่งเป็นแม่ เป็นเพื่อนสนิทว่า
“ขอรับรองด้วยเกียรติของเขาว่า เขาจะมีอาชีพที่มั่นคง เป็นคนดี และเลี้ยงดูพ่อและแม่ให้ได้ และเขาจะดูแลเราตลอดต่อไปในอนาคต”
นี่คือคำพูดของเขาเอง
เป็นสิ่งที่พ่อแม่ภูมิใจ
แม้มันยังมาไม่ถึง
หรือแม้มันจะไม่เป็นไปอย่างนั้น
เพียงแค่ครั้งหนึ่งลูก ตระหนักรู้ เข้าใจได้ กล้าหาญที่พูดออกมา
เพียงพอแล้ว
วันนี้อาทิตย์ที่24/5/2552 เราพูดคุยกันเรื่องนี้ ดิฉันจึงขอบันทึกเอาไว้
“เอ้าพ่อ กาแฟเย็นสูตรใหม่”
ดิฉันยื่นแก้วกาแฟใส ๆ ทรงสูง ด้านล่างเป็นน้ำหวานรสและกลิ่นผลไม้ที่เขาชอบ ตระกูลเบอร์รี่ที่ผสมมาต่างหาก แบบเย็น
ครึ่งบนเป็นกาแฟดำแต่น้อย(เขาไม่ได้เป็นกาแฟชนเช่นดิฉัน ดื่มกาแฟดำร้อนไม่ค่อยเป็น) เป็นกาแฟดำเย็นที่ชงต่างหากเช่นกัน แล้วค่อย ๆ รินให้ส่วนหนึ่งของน้ำหวานยังคงนิ่ง ๆ หวาน ๆ อยู่ที่ส่วนครึ่งล่างของแก้ว
เสียบหลอดดูด
กำชับเขาว่า
“ค่อย ๆ ดูดแต่ละส่วนนะพ่อ”
“ให้ความหวานและความขม มันผสมกันเองตามธรรมชาติ”
“เหมือน ชีวิต ไง”
แค่ฟังและรับรู้ ในความตั้งใจมั่นของลูกที่บอกคุณพ่อคุณแม่มาแล้ว ทั้งปลื้มใจและภูมิใจแทนค่ะ
ขอบอกว่า เหมือนลูกพี่ค่ะ...พูดแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก จนป่านนี้ ยังรักษาคำพูดอย่างคงเส้น คงวาค่ะ
1. Sasinand
ค่ะ เมื่อเราคุยกันถึงคำพูดของลูก น้องเป็นปลื้มขนาด ต้องรีบมาบันทึกเอาไว้ แล้วรีบโกยอ้าวไปเรียนภาษาญี่ปุ่นกันสองคนตายาย
ลูกต้องเรียนเป็นสัปดาห์เว้นสัปดาห์เพราะเปิดเทอม
เกือบไปไม่ทันคลาส เรียนเก้านาฬิกาตรง
และคุณครูชาวญี่ปุ่น ตรงเวลามากค่ะ
วันนี้ก็เรียนกันสนุกค่ะ จะค่อย ๆ เรียบเรียงเท่าที่มีเวลา
คุณพี่สบายดีนะคะ คิดถึงค่ะ
ช่วงนี้เข้าอนุทินน้อยลง มีงานเข้า อิ อิ
สวัสดีค่ะพี่ภูสุภา
บันทึกนี้น่ารัก ผ่อนคลายดีค่ะ....
คนไม่มีรากเป็นคอกาแฟ....ติดกาแฟค่ะ...ฮา...
จะลองทำตามวิธีที่พี่ว่าไว้ค่ะ....
ระยะหนึ่งเคยดื่มกาแฟโดยไม่เติมน้ำตาล แต่ช่วงหลังน้ำหนักลดลงมาก เลยหันกลับมาดื่มกาแฟใส่นมสดและน้ำตาลเพิ่มขึ้นค่ะ
....อร่อยสู้แบบไม่ใส่น้ำตาลและนมไม่ได้เลย....
(^___^)
2. . แสงแห่งความดี
เห็นแก้วกาแฟเปี่ยมจิตวิญญาณ แล้วอยากนำไปร่วมดื่มกับขนมเค็ก ในงานโกทูโนฟอรั่ม ค่ะ
หมั่นศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ ๆ
ทุกทุกวัน
กำลังคิดจะไปเรียนอีกแล้วววว....ค่ะ
หมั่นศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ ๆ ทุกทุกวัน กำลังคิดจะไปเรียนอีกแล้วววว
เป็นไปได้หรือเปล่านะั