(22 เม.ย. 49) ไปบรรยายใน “หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง
สถาบันวิทยาการตลาดทุน” (หลักสูตร วตท.) รุ่นที่ 2 จัดโดย
“สถาบันวิทยาการตลาดทุน” (Capital Market Academy)
ซึ่งเป็นองค์กรในสังกัดและสนับสนุนโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บรรยายในหัวข้อ “ธุรกิจกับความรับผิดชอบต่อสังคม” (Corporate Social
Responsibility-CSR) โดยใช้ Power Point
และเอกสารดังต่อไปนี้ประกอบการบรรยาย
คำนิยม
หนังสือแปล
“ปลดปล่อยวิญญาณธุรกิจ
สู่การเป็นยอดองค์กร”
ผู้แปล ไพโรจน์
ภูมิประดิษฐ์
จากต้นฉบับ Liberating the Corporate Soul:
Building a Visionary Organization
เขียนโดย Richard
Barrett
ผมดีใจที่ได้อ่าน Liberating the Corporate Soul:
Building a Visionary Organization เขียนโดย
Richard Barrett และแปลเป็นไทยโดย ไพโรจน์
ภูมิประดิษฐ์ ใช้ชื่อหนังสือภาษาไทยว่า
ปลดปล่อยวิญญาณธุรกิจ สู่การเป็นยอดองค์กร
ผมอ่านแบบไม่อยากวาง เพราะประทับใจและจุใจเอามากๆ
เป็นหนังสือน้อยเล่มเกี่ยวกับธุรกิจที่มองเรื่องคุณค่า ปรัชญา คุณธรรม
และการมุ่งประโยชน์ส่วนรวม
ว่าเป็นปัจจัยสำคัญมากที่จะนำพาธุรกิจสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนและยาวนานในคริสต์ศตวรรษที่
21
โลกทุกวันนี้ถูกครอบงำด้วยระบบทุนนิยมเสรี
ซึ่งทำให้เกิดความก้าวหน้าทางวัตถุและการเติบโตทางการเงินอย่างต่อเนื่องชนิดยั้งไม่อยู่
แต่ขณะเดียวกันก็นำมาซึ่งความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน
โดยที่คนจนยังคงมีจำนวนมากกว่าคนรวย
การแก่งแย่งแข่งขันแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา หรือใครเก่งใครได้
ใครไม่เก่งก็ต้องอด ความแตกแยกขัดแย้งภายในสังคมและระหว่างสังคม
การเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ
ธุรกิจภายใต้ระบบทุนนิยมเสรี
ซึ่งมีบทบาทและทรงอิทธิพลมากขึ้นเป็นลำดับ
โดยเฉพาะในยุคสมัยที่เรียกว่าโลกาภิวัตน์
จึงถูกมองว่าเป็นต้นเหตุหรือมีส่วนเป็นต้นเหตุของสภาพการณ์อันไม่พึงปรารถนาดังกล่าวข้างต้น
หรืออย่างน้อยที่สุดก็ถือว่าธุรกิจไม่ได้มีส่วนช่วยเท่าที่ควรในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเหล่านั้น
หนังสือแปล ปลดปล่อยวิญญาณธุรกิจ
สู่การเป็นยอดองค์กร
ฉบับนี้จึงถือว่าเหมาะกับความต้องการของยุคสมัยเป็นอย่างยิ่ง
ผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและเข้าใจง่ายว่าธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จในคริสต์ศตวรรษที่
21 จะต้องเป็นธุรกิจที่มี “จิตสำนึก”
(Consciousness) สูง และเป็น “จิตสำนึก” ที่ได้ดุลยภาพระหว่าง
“จิตสำนึกภายใน”
ซึ่งเกี่ยวกับความสำเร็จในเชิงผลการดำเนินงานขององค์กร และ
“จิตสำนึกภายนอก”
ซึ่งได้แก่การมุ่งสร้างความสำเร็จในฐานะเป็น
“สมาชิก” ที่ดีของชุมชนและสังคม
รวมถึงการสร้างสรรค์ประโยชน์อันเป็นส่วนรวม
การมีส่วนร่วมแก้ปัญหาและพัฒนาสังคมให้เกิดความสันติสุขที่ถ้วนทั่วและยั่งยืน
เป็นต้น
จุดเด่นอีกประการหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ คือ
การชี้ให้เห็นถึงคุณค่าและพลังของการผสมผสานระหว่าง “จิตสำนึก”
“คุณค่า” “พันธกิจ” “เป้าหมาย” ของ “พนักงาน” ของ “หน่วยงาน” และของ
“องค์กร” เข้าด้วยกันอย่างผสมผสานกลมกลืน
สามารถทำให้เกิดพลังสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่พนักงานและผู้บริหารมีความสุขและแรงบันดาลใจสูง
ทุ่มเทความพยายามและใช้ศักยภาพเต็มที่ให้แก่ภารกิจขององค์กร
ทำให้องค์กรมีความเข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ มีคุณธรรม
ประสบความสำเร็จสูงทั้งในเชิงธุรกิจ (ได้แก่การเติบโตและผลกำไร
เป็นต้น) และการมีบทบาทสร้างสรรค์ในชุมชนและสังคมไปพร้อมกัน
หนังสือเล่มนี้ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่มีคุณค่า
รวมถึงการอธิบายขั้นตอนวิธีปฏิบัติที่จะนำไปสู่การเป็น
“องค์กรแห่งวิสัยทัศน์” หรือ “องค์กรแห่งอุดมทัศน์” (Visionary
Organization) ความแตกต่างระหว่าง “ผู้นำ” กับ “ผู้จัดการ”
และวิธีการพัฒนาผู้นำในองค์กร เป็นต้น
ประเทศไทยเราทุกวันนี้กำลังต้องการ “ผู้นำ”
ที่มีคุณภาพในทุกวงการไม่ว่าจะเป็นวงการภาครัฐ วงการภาคธุรกิจ
หรือวงการภาคประชาสังคม-ภาคประชาชน โดยเฉพาะเราต้องการ “ผู้นำ” ที่มี
“จิตสำนึกสูง” ซึ่งมีคุลยภาพระหว่าง “จิตสำนึกภายใน”
(เกี่ยวกับตนเองและองค์กรที่ตนบริหาร) และ “จิตสำนึกภายนอก”
(เกี่ยวกับส่วนรวม
ชุมชนและสังคม)
ขณะเดียวกัน เราก็ต้องการ “องค์กรแห่งวิสัยทัศน์-อุดมทัศน์”
(Visionary Organization) ทั้งในภาครัฐ ภาคธุรกิจ
และภาคประชาสังคม-ภาคประชาชน
ทั้ง “ผู้นำที่มีจิตสำนึกสูง” และ “องค์กรแห่งวิสัยทัศน์-อุดมทัศน์”
จะช่วยให้ประเทศไทย สังคมไทย
มีความเจริญก้าวหน้าไปในทิศทางแห่งความสันติสุขถ้วนทั่วที่มั่นคงและยั่งยืน
ได้ดียิ่งขึ้น
ต้องขอบคุณ Richard Barrett ผู้เขียน และไพโรจน์ ภูมิประดิษฐ์ ผู้แปล
ที่ช่วยให้เราได้อ่านหนังสือดีมากๆแห่งยุคสมัยอีกเล่มหนึ่ง
โจทย์สำหรับการประชุมกลุ่ม
เรื่อง
“ธุรกิจกับความรับผิดชอบต่อสังคม”
(Corporate Social Responsibility – CSR)
1.
คิดตามลำพัง ค้นหากรณีความสำเร็จ หรือ
เรื่องน่าชื่นชมว่าด้วย
“ความรับผิดชอบของธุรกิจต่อสังคม” (Corporate Social
Responsibility – CSR) ที่ท่านได้เกี่ยวข้องหรือประสบหรือรับรู้
กรณีหรือเรื่องที่ว่านั้น เป็นอย่างไร เกิดขึ้นเมื่อไร
ที่ไหน ใครทำ ทำอย่างไร ได้ผลอย่างไร สำเร็จอย่างไร
หรือน่าชื่นชมอย่างไร ฯลฯ
ท่านอาจบันทึกย่อๆไว้
เพื่อสะดวกในการลำดับความคิดและจดจำก่อนนำไปเล่าให้ผู้อื่นฟัง
2. ผลัดกันเล่าเรื่องตามข้อ 1.
ใช้เวลาคนละประมาณ 1.5 – 2 นาที โดยเล่าอย่างกระชับที่สุด
เน้นสาระสำคัญเท่านั้น
ควรมีสมาชิกกลุ่มหรือผู้ช่วยกลุ่มช่วยบันทึกสาระสำคัญของเรื่องที่เล่า
และหรือเขียนบน ฟลิปชาร์ท (Flip Chart)
เพื่อประโยชน์ในการเข้าใจและพิจารณาเรื่องร่วมกัน
3.
ร่วมกันพิจารณาสังเคราะห์ข้อเท็จจริงและความเห็นจากเรื่องที่เล่าทั้งหมด
4.
ร่วมกันพิจารณากำหนดเป้าหมายและยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมความรับผิดชอบของธุรกิจต่อสังคม
ภายในขอบเขตที่กลุ่มเลือก
(Corporate Social Responsibility – CSR)–(Flip Chart)
ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม
25 เมษายน 2549
ขอบคุณคะ สำหรับเรื่องที่น่าสนใจ
ต้องทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับ ISO 26000
ต้องหาความรู้อีกมากคะ
ขอบคุณมากค่ะสำหรับความรู้ดีๆ แบบนี้
ขออนุญาตนำไปอ้างอิงกับรายการการศึกษาของดิฉันนะคะ
และดิฉันจะอ้างอิงถึงที่มาค่ะ
ขอบพระคุณในความกรุณาอีกครั้งค่ะ
Buskorn