วันนี้เล่าเรื่องเมืองหงสา มาในแนวชวนชิมอาหารครับ
ระยะนี้มีโอกาสได้ไปพบปะพี่น้องในหมู่บ้านถี่หน่อย ไปแต่ละคราวก็ได้ยินได้รับฟังเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวหงสามามากมายตามประสาคนที่ซอกแซกชอบคุยกับผู้เฒ่าผู้แก่ ที่มักนั่งเหงาๆจักตอกสานกระบุงอยู่ตามใต้ถุนบ้าน เช่นในคราวที่ไปบ้านจำปา ผมได้แอบกระซิบถามคุณตาถึงเรื่องราวของ “เจ้าปู่เจ้าโคตร” ที่ชาวบ้านเคยนับถือ ที่ว่าแอบกระซิบก็เนื่องจากว่า พอถึงยุคปลดปล่อยแล้วทางรัฐได้สั่งให้ลบล้างความเชื่อเหล่านี้ทั้งหมด (แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีคนยังนับถือกันอยู่)
แต่อย่างไรก็ตามในฐานะที่จะต้องไปทำงานกับชุมชน ก็ต้องศึกษาหาความรู้ถึงสิ่งที่มีอิทธิพลต่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือไม่ก็ตาม จากการพูดคุยได้ทราบว่า วิถีชีวิตและความเชื่อของพี่น้องชาวหงสาสมัยก่อน ก็ไม่ได้แตกต่างจากพี่น้องชาวไทบรูดงหลวง หรือชาวไทอีสานทั่วไปเลย เช่นการเปิดประตูเล้าข้าวในวันขึ้นสามค่ำเดือนสาม การไหว้เจ้าปู่ก่อนที่จะถางไร่ ดำนา เกี่ยวข้าวเม่า ข้าวฮาง และข้าวสุก แต่คุณตาบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีใครทำกันแล้ว (ดีใจที่พี่น้องไทบรูดงหลวงของผมยังสืบทอดกันอยู่)
เกริ่นมายืดยาวก็เพื่อจะนำเข้าสู่ ข้าวฮางนั่นเอง (ไม่รู้ว่าจะนำเข้าประเด็น หรือว่าพาหลงทางเสียก่อน) ข้าวฮาง เป็นข้าวที่ชาวนาเกี่ยวในระยะเกือบแก่จัด ส่วนข้าวที่เกี่ยวในระยะอ่อนกว่าข้าวฮางเรียกว่า ข้าวเม่า และข้าวที่แก่กว่าข้าวฮางก็คือข้าวเปลือกทั่วไปที่ชาวนาเกี่ยวกันนั่นเอง ทั้งข้าวฮางและข้าวเม่าจะมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ เพื่อนฝูงผู้หวังดีต่อสุขภาพผมเคยให้ข้าวกล้องข้าวฮางมาให้หุงกินอยู่พักหนึ่ง แต่การหุงต้องใช้เวลานานสักหน่อยเพราะข้าวออกจะแข็ง เมื่อหุงสุกแล้วหอมมากจนไม่รู้จะทานกับอาหารคาวอย่างไหน เลยต้องนั่งทานข้าวเปล่าๆหรืออย่างมากก็ทานกับถั่วกับงาไปเสียอย่างนั้น ท่านใดสนใจลองไปหาดูที่ศูนย์เครือข่ายอินแปง สกลนครนะครับ
วันนี้ได้ลิ้มรสข้าวฮางอีกครั้งที่เมืองหงสา แต่ที่นี่ปรุงเป็นอาหารหวานครับ “ข้าวเหนียวฮางเปียกบวบ” แม่ครัวบอกอย่างนั้น ชิมคำแรกรู้สึกเสียดาย เสียดายว่าเขายกมาช้าไป เสียดายที่กินข้าวเหนียวกับลาบปลาดุกไปเยอะแล้ว ของเขาทำอร่อยจริงๆครับ เขาใช้บวบพื้นบ้านที่เรียกว่าบวบหอม (ชนิดที่เราใช้ไส้ข้างในของผลแห้งมาถูตัวอาบน้ำ หรือที่บ้านผมเคยใช้ล้างจาน) นำบวบที่แก่พอดี (เมล็ดข้างในยังไม่แข็ง) มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ (หากเป็นบวบอ่อนไม่ต้องปอกเปลือกจะได้สีเขียวของบวบด้วย) ต้มให้เปื่อยแล้วใส่ข้าวฮางลงไป เติมน้ำตาลพอมีรสหวาน ยกลงแล้วจึงเติมกะทิสด
หอมทั้งข้าวฮาง หอมทั้งบวบ มันกะทิสด หวาน(นิดหน่อย) คุณเอ๊ย... อย่าเพิ่งไปไหนไกลเกินหงสานะครับแวะมาชิม ข้าวเหนียวฮางเปียกบวบหอมที่นี่เสียก่อน นี่ผมลงทุนเสี่ยงกับการถูกป้าแดง กับพ่อน้องสบายดุเอาที่แอบกินขนมหวานนะนี่ ไม่รักกันจริงไม่บอกนะเอ้า (หลังมื้อเย็นกิน metfomin เพิ่มอีกหนึ่งเม็ดแล้วนะ)
หมายเหตุ ข้าวเหนียวฮางเปียกบวบเป็นขนมหวานประจำลาวเหนือครับ ท่านใดไปแถวหลวงพระบางลองหาทานได้ โดยเฉพาะฤดูที่มีบวบกำลังงามในเดือนสิงหากันยานี้ครับ
..(ข้าวฮาง..อันเดียวกับข้าวระยะพลับพลึงหรือเปล่าครับ!!)
เปลี่ยน
พี่เอา blog นี้ไปรวมใน ชมรมฅนฟื้นฟูแล้วที่ http://gotoknow.org/planet/proiadex เป็นการรวมเรื่องชาวเกี่ยวกับชนบทและงานพัฒนาชนบท เอาไว้ให้ คฟป.เข้ามา ลป.รร กัน
ตามมาอ่านของเปลี่ยนย้อนหลังเพราะไม่ได้เข้า g2k มานานแล้ว