ทำไมเวลาที่หลักสูตร หรือมหาวิทยาลัยจะลงทุนทำสิ่งใดสักอย่าง ถึงคิดแต่เพียงว่า "คุ้มค่า" กับ "เงิน" ที่จะลงไปไหม
อยากทำสิ่งนั้นให้นะ แต่ไม่คุ้มกับเงินลงทุน
อยากทำสิ่งนี้ให้นะ กลัวว่าจะขาดทุน ไม่คุ้ม
ตกลงการศึกษาบ้านเรากลายเป็นธุรกิจการศึกษาไปแล้วหรือนี่
ตั้งหลักสูตรมาเพื่อหวังหากำไรไปแล้วเหรอ
คำถามที่ได้รับมีแต่การถามว่า เมื่อไหร่คุณจะลงทะเบียน ทำไมคุณถึงไม่ขึ้นทะเบียนสักที
แต่ไม่มีการถามเลยว่า "คุณจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร" "คุณจะอยู่ได้ไหม" "เย็นนี้คุณจะเอาอะไรกิน" "คุณไม่คิดถึงบ้านเหรอจะกลับบ้านอย่างไร"
สนใจแต่เฉพาะเรื่อง "เงิน" ลงทะเบียน ค่าหน่วยกิตเท่านั้นเหรอ
เจ้าหน้าที่มีหน้าที่หลักคือเจอหน้าแล้วก็ "ทวงเงิน"
ถ้าไม่มี "เงิน" เขาคงจะไม่คุยกับเราเลยมั๊ง
ตกลงเขาจะ "พัฒนา" เราหรือว่า "จะหากำไร" หรือผลประโยชน์จากเรากันแน่
ชักเริ่มไม่แน่ใจ
เป็นบันทึกอยากให้ความคิดเห็นค่ะ
อยากคิดอย่างนี้ค่ะว่า 1 การหารายได้ด้วยตัวเองเป็นความจำเป็นหนึ่งของสถานศึกษาค่ะโดยเฉพาะถ้าจะเป็นมหาวิทยาลัยนอกระบบ ซึ่งจะต้อง "ยืน" ได้ด้วยตัวเอง
2 ดูเหมือนว่ามีความพยายามจะทำ healthy university ในมหาวิทยาลัยต่างๆ แต่ตอนนี้ในรูปธรรมมักไปลงที่ "กิจกรรมการออกกำลังกาย" ยังไปไม่ถึง "คุณภาพชีวิต" ของผู้ที่อยู่ในองค์กรทั้งหมด
3 ไม่ว่าในแง่ใดๆ ชีวิตนักศึกษามีค่ากับสถานศึกษามากค่ะเพราะเป็นลูกค้าที่มีพลังมาก ถ้าไม่มีนักศึกษาสถานศึกษาอยู่ไม่ได้ และถ้าผลผลิตไม่ดีจบไม่ตามเกณฑ์ สถานศึกษาก็อยู่ไม่ได้ แต่นักศึกษาอาจจะยังไม่คิดอย่างนั้นเพราะระบบต่างๆที่ยังยึดแนวปฏิบัติเจ้าขุนมูลนายเช่นเรื่องการต้องไปกรอกเอกสาร ต้องยื่นเรื่อง ต้องเดินตามระบบโดยไม่มีอำนาจต่อรอง
4 ลองมองรอบๆ ตัวซิคะ คนที่ทวงเงินก็คงหน้าตาไม่ได้แจ่มใส เพราะคนทำงานเองก็คงคุณภาพชีวิตไม่ดี จึงมุ่งแต่ทำงานของตนให้เสร็จโดยไม่คิดจะถามถึงความเป็นอยู่ของคนอื่น
ขอให้มีกำลังใจ
มีกำลังใจมากขึ้นเยอะเลยครับ สำหรับคำแนะนำทั้งสี่ข้อครับ
ขอบพระคุณมาก ๆ ครับ
ผมเคยนึกถึงสมัยก่อนที่ผมเรียนอยู่ชั้นประถม การศึกษาควบคู่ไปกับวิถีชีวิต ช่วงฤดูกาลทำนา ผมยังจำได้ว่า โรงเรียนที่ผมเรียนปิดให้ นร.ช่วยเหลือพ่อแม่ 10 วัน เพื่อช่วยเฝ้าบ้าน ดูแลน้อง เลี้ยงดูวัวควาย หมูเป็ดไก่ ช่วงผมเรียนมัธยม (โรงเรียนเรียนเอกชน) เพื่อนผมที่เป็นนักเรียนเชื้อสายจีน ต้องกรีดยาง ผู้ปกครองมาขออนุญาตให้ลูกมาโรงเรียนช้ากว่าปกติ 1 ชั่วโมง โดยชั่วโมงแรกไม่เข้าเรียนเพราะยังทำยางแผ่นไม่เสร็จ
ทางโรงเรียนเขาก็ให้ ทุกคนก็ยิ้มแย้มแจ่มใส และเพื่อน ๆ ผมทุกคนก็ประสบความสำเร็จ เป็นหมอก็หลายคน เป็นตำรวจ เป็นครูอาจารย์ เป็นพยบาล ฯลฯ เพราะความเอื้ออาทรกัน ค่าเทอมก็พูดคุยกันได้ถ้าหามาไม่ทัน ผิดกับสมัยนี้เยอะมากจริง ๆ ครับ อะไรที่เปลี่ยนแปลงไปมากมายขนาดนี้ จริงหรือเปล่าครับที่ว่าเราพัฒนาแล้ว