โรงพยาบาลระนองเผาท.ร.1/1 ของเด็ก : ด.ญ.ซุซุไล


ขอให้นางพยาบาลผู้ที่มีสัญชาติญาณของความเป็นแม่คน เป็นแม่ให้แก่เด็ก ๆ ทุกคนที่เกิดบนโลกดวงนี้ โดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ และสัญชาติ หรืออย่างใดเลย

แทบจะไม่น่าเชื่อเลยว่าโรงพยาบาลระนองที่ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการออกหนังสือรับรองการเกิด ท.ร.1/1 ให้กับเด็กมาก่อน

 

บัดนี้เกิดอาการเปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กที่เกิดเกิน 10 ปี ไปแล้ว วันนี้ 20 กรกฎาคม 2552 เวลาประมาณ 13.30 น. ผมได้ยินด้วย 2 หู อย่างชัดเจนจากนางพยาบาลผู้ซึ่งน่าจะมีบุตรกับเขามาก่อน ว่าเอกสารของเด็กหญิงซุซุไล ที่ผมนำสมุดสีชมพู

 http://gotoknow.org/file/paper-moon/ZuZuLai.pdf

ไปให้เธอช่วยค้นหาในเวลา 12.00 น. นั้น ได้กลับมาพร้อมกับคำตอบว่าเอกสารที่เด็กหญิงซุซุไล ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2538 ไม่สามารถที่จะค้นหาเอกสารได้เนื่องจากโรงพยาบาลได้เผาไปแล้ว

 

ผมได้เพียรพยายามที่จะบอกเธอ เพื่อหาคำตอบที่แท้จริงของการไม่ได้มาซึ่งท.ร.1/1 จากเธอ เธอก็ยืนยันตามเดิม ทั้ง ๆ ที่ ผมบอกเธอว่าการที่เธอตอบเช่นนี้ กระทรวงสาธารณสุข และผู้ใหญ่จะมาหาเธอถึงที่ เธอก็ว่าเช่นเดิมเอกสารเกิน 10 ปี เผาแล้ว

 

ผมจึงเดินออกมาอย่างสงบ และบอกแม่เด็ก ๆ ที่รออยู่ข้างนอกซึ่งมาขอเอกสารท.ร.1/1 เกิน 10 ปี และไม่เกิน 10 ปี รวมทั้งแม่ของซุซุไล ว่านางพยาบาลไม่ออกท.ร.1/1 ให้เพราะเผาเอกสารไปหมดแล้ว

 

ข้อสังเกต และน่าเป็นห่วงกังวลดังนี้

ประมวลกฎหมายอาญา

1.โรงพยาบาลระนอง, เจ้าหน้าที่ผู้เผาทำลายเอกสาร, นางพยาบาลห้องคลอด อาจจะทำผิดตามม.142 หรือไม่ เพราะได้ทำลาย หรือทำให้สูญหายซึ่งท.ร.1/1 ๆ เพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000.- บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

2.โรงพยาบาลระนอง, เจ้าหน้าที่ผู้เผาทำลายเอกสาร, นางพยาบาลห้องคลอด อาจจะผิดตามม.157 เพราะได้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด เนื่องจากได้เผาท.ร.1/1ดังกล่าวไป ต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

3.โรงพยาบาลระนอง, เจ้าหน้าที่ผู้เผาทำลายเอกสาร, นางพยาบาลห้องคลอด อาจจะผิดตามม.158 เพราะได้ทำลายท.ร.1/1ที่ตนรักษาไว้ หรือยินยอมให้ผู้อื่นเผาท.ร.1/1 ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000.- บาท

 

4.โรงพยาบาลระนอง, เจ้าหน้าที่ผู้เผาทำลายเอกสาร, นางพยาบาลห้องคลอด อาจจะผิดตามม.358 เพราะได้ทำลายซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000.- บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.. 2526

1.หนังสือรับรองการเกิด ท.ร.1/1 เป็นหนังสือชนิดหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ทำขึ้นหรือรับไว้เป็นหลักฐานในราชการ ตามระเบียบส่วนที่ 6  การทำลายหนังสือต้องปฏิบัติตามระเบียบด้วย

 

2.ตามระเบียบนั้นเจ้าหน้าที่จะทำลายได้ต้องทำลายหลังสิ้นปี 2552 การที่นางพยาบาลผู้นั้นมากล่าวอ้างว่าท.ร.1/1 ที่เกิน 10 ปี ไปได้เผาทำลายนั้น จึงเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญาม.157, 158 เนื่องจากไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบ ฯ ในข้อ 66 ครั้นจะมากล่าวอ้างว่าทำลายไปตั้งแต่ปี 2551 เป็นไปไม่ได้ เพราะผมมีหลักฐานว่าก่อนหน้านี้เด็กหลายคนที่เกิดเกิน 10 ปี แล้วสามารถหาท.ร.1/1 นึ้ได้จากโรงพยาบาลระนอง

 

3.หากเจ้าหน้าที่อ้างว่าปี 2551 ได้มีการเผาท.ร.1/1 ไปแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องมีแบบ 25 ทั้งต้นฉบับและสำเนาคู่ฉบับ และลงลายละเอียดในการเผาท.ร.1/1 ไว้อย่างน้อย 11 หัวข้อ ไว้เป็นหลักฐานด้วย หากไม่มีก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามระเบียบ ฯ ในข้อ 66.1 ถึง 66.12 ด้วย

 

ทางออก และหนทางแก้ไข

1.ผมทราบมาว่าการที่เด็กคนหนึ่งคลอดมานั้น ได้มีการเก็บบันทึกไว้ใน งานทะเบียนห้องคลอด ซึ่งการออกท.ร.1/1 ให้ใหม่ก็จะคัดมาจากงานทะเบียนห้องคลอด อย่างเช่นกรณีเด็กหญิงเบญ เป็นต้น ซึ่งน่าจะมีการแก้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.. 2548 เรื่องการเก็บท.ร.1/1 หรือบันทึกจากห้องคลอดไว้ให้นานที่สุดอย่างน้อย 100 ปี ไม่ต้องให้จนท.ทำลาย เพราะถึงเวลานั้น คงจะไม่มีใครมาตามขอท.ร.1/1 อีกแล้ว

 

2.คณะกรรมการทำลายหนังสือมีสิทธิใช้ดุลยพินิจที่จะไม่ควรทำลาย ท.ร.1/1 หรือบันทึกจากทะเบียนห้องคลอดได้ และสามารถลงความเห็นในการขยายเวลาการเก็บไว้ต่อไปอีก ตามระเบียบนี้ ฯ ข้อ 68.2 ได้

 

3.สุดท้ายขอให้นางพยาบาลผู้ที่มีสัญชาติญาณของความเป็นแม่คน เป็นแม่ให้แก่เด็ก ๆ ทุกคนที่เกิดบนโลกดวงนี้ โดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ และสัญชาติ หรืออย่างใดเลย อย่างไรเขาก็เป็นเด็ก ควรจะเห็นออกเห็นใจให้สมกับการเป็นนางพยาบาลเถอะ

 

หมายเลขบันทึก: 278528เขียนเมื่อ 20 กรกฎาคม 2009 22:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2012 22:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  1. ชาติชายคะ ถึงเวลาแล้วมังที่จะใช้ประโยชน์ข้อมูลที่บันทึก เรื่องนี้ร้อนดี ช่างเหมาะกับคู่มือที่จะทำเสียกะไร จะเยียวยาผลร้ายให้ซุซุไลอย่างไรดี จะป้องกันผลสำหรับกรณีในอนาคตอย่างไร ???? จะมีการเผา ท.ร.๑/๑ กันอีกเมื่อไหร่คะ ต้องห้ามปรามกันแล้วนะคะ
  2. ด๋าวคะ อ่านแล้วยัง น่าจะไปเยี่ยมใครดีในกระทรวงสาธารณสุขเพื่อป้องกันมิให้มีการเผาหลักฐานการคลอดของเด็กที่มีแนวโน้มจะไร้รัฐ
  3. ไหมคะ คำถามที่จะใช้ในคู่มือ สรุปจากงานของชาติชาย ก็ได้มากมายแล้วนะคะ
  4. อ.วีนัสคะ เตรียมคิดแก้ปัญหาไว้เลยนะคะ
  5. คุณสุรัตคะ การทำงานครั้งนี้ คงเตรียมปรับระบบการคุ้มครองเด็กที่ดีขึ้นสำหรับกระทรวงสาธารณสุขนะคะ
  6. ฮิฮิ... หลักฐานการทำคลอดนั้น สำคัญมากค่ะ จะเผาทิ้งกันง่ายๆ ได้อย่างไร .....

 

ขอความรู้หน่อยคะ

ถ้าชายไทยอยู่กินกับหญิงไทใหญ่สัญชาติพม่าโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส

ต่อมามีลูกด้วยกันอยากถามว่าเด็กจะได้สัญชาติไทยไหมค่ะ

ถ้าฝากครรณ์กับโรงพยาบาลเอกชนอยู่จะต้องขอสูติบัตรอย่างไรค่ะ

แล้วจะมีวิธีไหนบ้างที่เด็กจะได้เป็นคนไทย 100% รบกวนช้วยตอบด้วยนะค่ะ

จะเป็นพระคุณอย่างมาก ตอบที่

[email protected]

ครับคุณอาร์ม

ลูกได้สัญชาติไทยตามพ่อครับ แม้จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสก็ตาม แต่ขอแนะนำว่าให้พ่อไปจดทะเบียนรับรองบุตรด้วยนะครับ

ฝากครรภ์กับโรงพยาบาลเอกชน แต่ว่าเด็กเกิดที่โรงพยาบาลไหนครับ เด็กเกิดที่ไหนก็ต้องขอหนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.1/1) ที่นั้น มิใช่เป็นการขอสูติบัตร

การไปขอสูติบัตรต้องไปขอ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือเทศบาล ที่โรงพยาบาลนั้นตั้งอยู่สะดวกกว่าครับ

หากไปแจ้งยังที่ซึ่งพ่อมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านซึ่งไม่ใช่ที่เดียวกับที่ลูกเกิด จะต้องนำพยานไม่น้อยกว่า 2 คน เพื่อยืนยันว่าท่านเป็นพ่อของเด็กด้วย และที่แน่ ๆ หากไปแจ้งที่บ้านพ่ออาจจะไม่สำเร็จนะครับ เพราะกฎหมายนี้ยังเป็นของใหม่ครับ

สำหรับกรณีนี้ เด็กเป็นเด็กไทย 100 % ขอรับ

ตอนนี้เด็กยังไม่เกิดคะอีกหนึงเดือนถึงจะเกิด

ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำแนะนำ

เด็กเป็นผู้หญิงนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท