ในการประชุมกรรมการคณะฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ธ.ค ที่ผ่านมา ศ.นพ.ธาดา ยิบอินซอย อดีตคณบดี ได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับ R2R เพราะเห็นว่าคณะกำลังจะสนับสนุน R2R ส่วนหนึ่งมาจากที่อาจารย์ไปเป็นที่ปรึกษาให้กับโครงการ R2R ที่ศิริราช แต่อาจารย์ก็ออกตัวว่าไปช่วยตอนโครงการเริ่มไปเยอะแล้ว
R2R เริ่มอย่างไร
อาจารย์บอกว่า เริ่มจากงานประจำ (routine) อะไรก็ได้ แต่เห็นว่าแปลกตา แล้วอยากปรับ แล้วก็ศึกษา และปรับอย่างเป็นระบบ แล้วก็ทบทวน วนเป็นวงจร
ว่าไปแล้ว ก็เป็นวงจร PDCA ในการพัฒนางานประจำนั่นเอง แต่อาจารย์ธาดาเน้นว่า บริบท R2R คือการทำงานเป็นทีม คือทุกคนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันใช้ความรู้ อยากร่วม และการร่วมกันนั้น ต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ประเด็นสำคัญยิ่งของ R2R คือ ผู้ปฏิบัติมองเห็นปัญหา ไม่ใช่สั่งให้ทำ และทำเป็นทีม (อาจารย์ย้ำหลายครั้งมาก)
คณะได้อะไรจากการทำ R2R (หมายถึงในแนวทางข้างต้น)
ผู้ปฏิบัติได้อะไร
งานวิจัย vs งานประจำ
อีกประเด็นที่อาจารย์ชวนให้คิด คือ จำเป็นหรือไม่ที่ต้องแยกระหว่าง การเป็นวิจัยล้วน หรือ เป็น routine ล้วน ประเด็นนี้ เชื่อมต่อไปถึงว่า พอคิดว่าเป็นวิจัย คนก็จะคาดหวังว่า output คือผลงานตีพิมพ์
จึงมักเกิดคำถามตามมา ว่า ทำ R2R แล้ว ต้องเขียนตีพิมพ์หรือไม่
ดูเหมือนอาจารย์ก็ไม่ได้ฟันธงว่า จะต้องลงเอยด้วยผลงานตีพิมพ์ แต่อย่างน้อย ต้องเขียนรายงาน เพราะว่า การเขียนรายงาน จะทำให้เรารู้ว่า อะไรที่ยังขาด อะไรได้ และ มีคำถามอะไรอีก ที่เราต้องหาคำตอบต่อไป
สำหรับตนเอง.....
ฟังอาจารย์แล้ว รู้สึกอย่างไร
รู้สึกอิ่มเอิบใจ และ ภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก คิดถึง Patho OTOP ของเรา สิ่งที่เราชาว Patho OTOP ทำมา เหมือนกับแนวคิดของอาจารย์มากๆ เลย อยากจะตะโกนบอกอาจารย์ และ กรรมการคณะฯ ในวันนั้น ว่าในคณะแพทย์แห่งนี้ อย่างน้อย ก็มีเราชาวพยาธิ หนึ่งหน่วยงานหละ ที่ทำแล้ว และ ยังเดินหน้าในแนวทางดังกล่าวต่อไป
ฟังแล้ว เกิดความอยาก ?
คุณโอ๋คะ บรรยากาศไม่ให้ค่ะ ที่จริงก็เคยเล่าเรื่อง Patho OTOP ให้ที่ประชุมฟังแล้ว แต่....
เราคงต้องทำงานให้ออกมาเป็นผลที่คนอื่นเห็นได้ชัดเจน (เช่นผลงานตีพิมพ์)
เรียน ท่าน อ.ปารมี
คุณชาญวิทย์
เรียนอาจารย์ปารมีได้อ่านเกี่ยวกับ R2R ที่อาจารย์เล่าให้ฟังอยากร่วมวงสนทนาด้วยค่ะ เพราะตัวเองสนใจการทำ R2R มากแต่ไม่ทราบจะเริ่มอย่างไร ตรงไหน ได้เคยเข้าไปอ่านในเวปของศิริราชซึ่งมีอาจารย์ท่านหนึ่งได้เขียนและนำผลงานเกี่ยวกับR2Rของต่างประเทศมาให้อ่านเห็นแล้วทำให้เกิดไอเดียจึงได้มาทองทำในหน่วยงานดู แต่เพิ่งเริ่มค่ะ โดยจะทำเกี่ยวกับการเปลี่ยนตำแหน่ง HL ในผู้ป่วยเด็ก ได้ผลอย่างไรจะนำเสนอให้ทราบนะคะ
เรียนอ.สมบูรณ์
เรียน อ.สมบูรณ์
เรียน อ.สมบูรณ์
RCT ใน R2R ในความคิดเห็นส่วนตัว น่าจะเป็นกรณีที่แพทย์จะเอายานั้นเข้ามาใช้อยู่แล้ว ไหนๆ ก็จะนำมาใช้เป็น routine อยู่แล้ว ก็หา gap เพื่อตั้งคำถาม และ เก็บข้อมูลพร้อมกับการ practice ปกติ กรณี อาจารย์ธาดา หรือ ไม่แน่ใจว่า อาจารย์สีลม ท่านบอกว่า ทำ research ให้เป็น routine practice