จดหมายถึงพ่อ
๑๖ มกราคม
๒๕๕๑
กราบสวัสดีวันครู
ค่ะ..พ่อ
“วันครู” เวียนมาอีกปีหนึ่งแล้วค่ะ..หนูขอบคุณที่วันนี้ยังมีชีวิตอยู่
ได้ส่งจดหมายถึงพ่อ พูดคุยกับพ่อในวันสำคัญนี้
คิดถึงพ่อมาหลายวันแล้วค่ะ หนูเปิดค้นดู CD
เพลงวันครูที่หนูได้รับเป็นรางวัลในปีที่แล้ว
และเปิดฟังเวลาขับรถไปทำงาน ไพเราะทุกเพลงค่ะ เพลงแม่พิมพ์ของชาติ ..
พระคุณที่สาม.. ค่าควรเมือง.. เปลวเทียนที่ต้านลม.. ใครหนอใคร..
ครูผู้ให้คุณ.. ทำให้หนูคิดถึงพ่อที่สุด
อยากร้องเพลงให้พ่อฟังค่ะ..พ่อไม่เคยได้ฟังหนูร้องเพลง..หนูได้แต่ฟังพ่อร้องฝ่ายเดียว
พ่อขา..หนูมีวันนี้เพราะพ่อและแม่
วันนี้ที่หนูอยู่อย่างสง่างามในหนทางชีวิตการเป็นข้าราชการ
พ่อเป็นครูคนแรกในชีวิตของหนู พ่อให้ “ต้นทุนชีวิต” แก่หนูมากมาย
ภาพชีวิต ครั้งที่หนูยังมีพ่ออยู่
กระจ่างชัดอยู่ในความทรงจำของหนูอย่างไม่มีวันลบเลือนได้เลย
หนูจำได้ถึงความรักความอบอุ่นที่พ่อมีให้หนู ตั้งแต่หนูจำความได้
หนูไม่เคยลืมว่าหนูมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้กอดเอวพ่อ
ซ้อนท้ายจักรยานคันโก้ของพ่อไปโรงเรียนนานตั้ง ๔ ปี
ตั้งแต่แขนของหนูสั้นกอดไม่รอบเอวพ่อ
พ่อจะสอดแขนมาโอบหนูไว้ด้านหลังด้วยเพราะพ่อกลัวหนูจะตกรถ
พ่อจะขี่รถโดยใช้มือเดียว หนูชอบเอาแก้มแนบกับหลังของพ่อ
เปลี่ยนแก้มซ้ายบ้าง ขวาบ้าง พ่อจะร้องเพลงให้หนูฟังด้วย หนูชอบเพลง
น้ำตาลก้นแก้ว เพลงโสนน้อยเรือนงาม และเพลงดาวน้อย
ทุกเพลงพ่อร้องได้ไพเราะที่สุด
“แม่..น้ำตาลก้นแก้วเขาลืมเจ้าแล้ว...จึงหยดถึง..มือพี่...”
"แม่..ฮึม..โสนน้อย..เรือนงาม...ใคร ๆ
เขาเฝ้าติดตาม..เพราะว่าน้องงามเหลือล้น.."
..ดาว..เอ๋ย…ดาวน้อย..เจ้าลอยสูงเด่น..”
น้ำเสียงของพ่อเวลาเอื้อนช่างไพเราะจับใจหนูที่สุด
หนูลายมืองาม เพราะพ่อสอนหนู คุณครูขันทอง บานนิกุล
เป็นคุณครูภาษาไทยคนแรกที่อยู่ในดวงใจของหนู
เมื่อหนูเรียนอยู่ชั้น ป.๔ ครูให้คัดโคลงสยามานุสสติ
ด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดส่งครูในตอนเช้าของทุกวัน
ครูบอกว่าคนที่ได้คะแนนเต็ม ๑๐ จะให้หยุดคัด กว่าหนูจะได้คะแนนเต็ม ๑๐
ใช้เวลาถึง ๑ ปีเต็มๆ กุศโลบายของคุณครูขันทองยอดเยี่ยมมาก
ถ้าหนูไม่มีพ่อคอยให้กำลังใจ คอยช่วยหนู ดูแลหนู
ตลอดปีหนูคงไม่ได้คะแนนเต็ม ทั้ง ๆ
ที่คุณครูก็บอกว่าลายมือของหนูสวยกว่าใครในห้อง
ครูจะหาจุดที่ต้องแก้ไข โน่นนิด นี่หน่อย “ทำไม ตัว ส กับ ล
เขียนเหมือนกัน” “ ตัว พ ยังไม่ถูก
เส้นกลางต้องลากขึ้นให้เท่ากับเส้นหน้าและหลัง ” “ตัว ช
เขียนหัวยังไม่ถูก” “ ตัว ม ยังไม่สวย ผอมไปค่ะ..” “สระ โ
ทำไมเขียนสั้นนิดเดียว ไม่ได้สัดส่วน ไม่สวย
”
คุณครูขันทองเก่งจริงนะคะพ่อ
เมื่อหนูเป็นครูหนูก็ใช้วิธีของคุณครูขันทองนี้แหละค่ะ
นักเรียนของหนูลายมือสวยทุกคน เมื่อหนูเป็นศึกษานิเทศก์
หนูจะบอกคุณครูภาษาไทยที่ต้องการสอนให้นักเรียนคัดลายมืองามด้วยวิธีการของคุณครูขันทอง
มีคุณครูหลายคนประสบความสำเร็จค่ะ....ทำให้หนูภูมิใจมาก
และหนูก็คิดว่าวิธีการสอนแบบนี้แหละ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตาม
พรบ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ จริงๆ
มีมาตั้งนานแล้ว และ การสอนแบบย้ำ ซ้ำ ทวน ทำบ่อย ๆ นี่แหละค่ะ
ที่จะทำให้นักเรียนเขียนได้จริง ๆ
พ่อสอนหนูให้เป็นคนมุ่งมั่นในการทำงาน
ตั้งใจจะทำอะไรแล้วต้องทำให้สำเร็จ อย่ายอมแพ้อะไรง่าย ๆ
เวลาจะทำอะไรก็ตามให้เอา “ใจ”
ใส่ลงไปด้วยจะทำให้ทุกอย่างสำเร็จได้และอย่างดีด้วย
พ่อจำได้ไหมคะ..พ่อให้หนูหาบน้ำใส่โอ่งและหม้อทุกใบในบ้านตั้งแต่หนูตัวเล็ก
ๆ แขนหนูสั้นนิดเดียว ขนาดเหยียดจนสุดแล้วยังจับน้ำคุยังไม่ถึงเลย
(“น้ำคุ” คือ “ถังน้ำ”) เพราะไม้คานยาวกว่าแขนของหนู
พ่อสอนว่าเวลาเดินในการหาบน้ำ เอวต้องอ่อนไม่แข็งกระด้าง
เพราะจะทำให้น้ำกระฉอกออกในเวลาเดินแต่ละก้าว
พ่อสอนวิธีตักน้ำจากบ่อว่าเวลาหย่อน “น้ำถุ้ง”
ลงในบ่อต้องปล่อยลงเบา ๆ
และใช้เทคนิคในการตวัดเพื่อให้ปากน้ำถุ้งคว่ำลงได้ พ่อไม่ให้โยนลงไป
เพราะจะต้องใช้เวลานานและหลายครั้งกว่าที่จะตวัดให้น้ำเข้าไปอยู่ในน้ำถุ้งได้
หนูท้อแท้ ปวดบ่า ปวดหลังไปหมด เพราะในแต่ละวันต้องหาบน้ำหลายเที่ยว
หนูจะหยุดพักหลายครั้งกว่าจะถึงบ้าน
พ่อบอกให้อดทน ไม่ให้ยอมแพ้ต่อความเหน็ดเหนื่อย
พ่อบอกว่าหาบน้ำไม่ตายหรอก หนูยังจำคำพูดของพ่อได้ดี
หนูหาบน้ำทุกวันจนโต ให้พ่อ แม่ และน้องได้ใช้อาบ ดื่มกิน และใช้สอย
รวมทั้งหาบน้ำรดผักที่ทุ่งนาหลังบ้านที่พ่อแม่ปลูกไว้ขายด้วย
จนกระทั่งหนูไปเป็นครู
หนูยังได้ไปตักน้ำและหาบให้เพื่อนๆที่อยู่บ้านพักครูด้วยกันใช้ดื่มและอาบค่ะ..พ่อ
เพราะเพื่อนๆ หนูเขาหาบไม่เป็น
หนูหัวเราะท่าทางของเพื่อนหนูคนหนึ่งค่ะ..เขาพยายามจะช่วยหนู
เวลาเขาเดินซ้ายที ขวาที เดินหน้าบ้าง ถอยหลังบ้าง
กว่าจะถึงบ้านพักน้ำเหลือครึ่งถังเอง..เพื่อน ๆ
ชมหนูว่าหนูหาบน้ำเก่งที่สุด หนูก็ยอขึ้นด้วย
ยิ่งได้รับคำชมยิ่งชอบค่ะ
หนูคิดว่าที่หนูตัวเตี้ยเพราะหาบน้ำนี่แหละค่ะ...แต่สิ่งที่หนูได้กลับคืนมาและฝังแน่นอยู่ในตัวเอง
คือ..วิธีการทำงานอย่างไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก..ที่พ่อเพียรสอนหนู
เมื่อพ่อจากหนูไป..หนูยิ่งลำบากกว่าเดิม
หนูต้องช่วยแม่ทำงานทุกอย่าง หนูเป็นพี่สาวคนโต
แม่ต้องทำงานหลายอย่างเพื่อส่งพี่ชาย หนูและน้องเรียนหนังสือ
ทั้งขายกับข้าว ปลูกผัก ทำนา หนูถูกครูทำโทษทุกวัน
เพราะหนูไปโรงเรียนสาย หนูต้องหาบของไปตลาดให้แม่
หนูต้องช่วยแม่ขายของ หนูไม่เคยทันเข้าแถวเคารพธงชาติกับเพื่อนๆ
หนูต้องแอบยืนอยู่ข้างถนนหน้าโรงเรียน
เมื่อกิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จเรียบร้อยแล้วหนูถึงจะวิ่งเข้าโรงเรียน
หน้าที่หลักของหนูคือล้างห้องน้ำ เป็นโทษที่หนูได้รับ แรก ๆ
หนูก็อายค่ะ..แต่นานไปก็ชิน หนูรู้ว่าหนูทำผิดเพราะอะไร
คุณครูทุกคนท่านก็เข้าใจค่ะ
แต่เป็นกฎระเบียบของโรงเรียนที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม
หนูกลายเป็นคนขยัน ขยันทำงาน ขยันเรียน
เมื่อไหร่หนูก็ไม่รู้ตัว เพราะหนูต้องดิ้นรนต่อสู้ช่วยแม่
หนูทำงานทุกอย่าง หนึ่งวันมี ๒๔ ชั่วโมง
หนูจำได้ว่าหนูจะได้พักต่อเมื่อเข้านอนอย่างเดียว
ผลการเรียนของหนูทำให้แม่ภาคภูมิใจโดยตลอดมา
พ่อขา..ผลการสอบของหนูไม่เคยได้ต่ำกว่าที่ ๓ ของห้องค่ะ
หนูอยากเรียนหมอ แต่แม่ไม่ให้หนูเรียน แม่บอกว่าเงินมีไม่มาก
ต้องส่งลูกเรียนถึง ๓ คน แม่บอกว่าเรียนครู “ปันได้กิ๋น” (ได้เงินเร็ว
,ได้งานเร็ว) หนูเสียใจมาก หนูไม่อยากเป็นครู
แต่หนูก็เชื่อฟังแม่ค่ะ..หนูเป็นคนว่านอนสอนง่าย..และหนูก็สงสารแม่มากด้วย
แม่ไม่ค่อยพูดเล่นกับหนูเหมือนพ่อค่ะ..แม่เอาแต่ทำงาน..ทำงานทั้งวัน
ทั้งคืน เดี๋ยวนี้แม่สบายแล้ว..แม่ได้พักชั่วนิรันดร์... แม่เป็น “ครู
สอนวิชาชีวิต” ให้หนูค่ะ
หนูเรียนครู ๔ ปี หนูจำได้เทอมแรกของการเรียนครูปี ๑
หนูได้เกรดเฉลี่ย ๓.๖๙ ชื่อของหนูได้ขึ้นบอร์ดหน้าห้องวิชาการ
หนูภาคภูมิใจที่สุด หนูจำที่พ่อเคยพร่ำสอนหนู ทำอะไรต้องทำจริงจัง
ทำให้ดีที่สุด พ่อบอกว่าเกิดเป็นคนทั้งทีต้องเอาดีให้ได้
เพราะคำสอนของพ่อนี่แหละค่ะ
ที่ทำให้หนูเหมือนขึ้นหลังเสือแล้วลงไม่ได้
หนูต้องท่องหนังสืออย่างหนัก
เพื่อรักษาชื่อให้อยู่บนบอร์ดไว้ตลอดทุกเทอมใน ๔ ปี
หนูจำได้เมื่อหนูเรียนปี ๓ ท่านอาจารย์พรชัย สวนปาน
ที่สอนวิชาประวัติศาสตร์ เรียกหนูเข้าไปคุยด้วย ท่านถามว่า
“ท่องหนังสืออย่างไรถึงจำคำพูดของครูได้ทุกคำพูด” เมื่ออยู่ปี ๔
หนูก็ได้รับคำถามเช่นเดียวกันนี้จาก อาจารย์บพิตร โกมลตรี
ท่านบอกว่าทึ่งหนูค่ะ..
เทคนิคการท่องหนังสือของหนูไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ..พ่อ
หนูก็อ่านเยอะ ๆ อ่าน หลาย ๆ รอบ
รอบแรกหนูจะอ่านแบบผ่านสายตาให้หมดก่อน รอบที่ ๒
หนูจะขีดเส้นใต้คำสำคัญไว้ รอบที่ ๓
หนูจะคัดประโยคและข้อความที่หนูขีดเส้นใต้ไว้ในสมุดบันทึก รอบที่ ๔
เป็นต้นไปหนูก็จะอ่านในสมุดที่หนูบันทึกใหม่เป็นภาษาที่หนูสรุปความเอง
วิชาหนึ่งๆ หนูอ่านมากกว่า ๑๐ รอบค่ะ ..พ่อว่าหนูขยันไหมคะ..
หนูอ่านทุกวัน อ่านทุกครั้งที่มีเวลา ตลอด ๔
ปีหนูนั่งรถประจำหนูไม่เคยคุยกับใครเลยค่ะ..ขึ้นนั่งรถได้ก็ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ
หนูมีเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งค่ะ..เราเรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยม
นั่งรถประจำด้วยกัน ท่องหนังสือเหมือนกัน
เดี๋ยวนี้เขาเป็นผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาแล้วค่ะ..ก็เราขยันเหมือนกันนี่คะ
เพื่อน ๆ ทุกคนกลัวการท่องหนังสือของหนูค่ะ
เมื่อหนูสอบบรรจุเป็นครู หนูก็สอบได้ที่ ๑ ค่ะ
สอบเรียนต่อปริญญาโท หนูก็ได้ที่ ๑ ด้วย หนูรู้ตัวว่าหนูไม่ใช่คนเก่ง
แต่หนูเป็นคนขยัน ขยันนี่เหมือนคนบ้าหรือเปล่าคะพ่อ
หนูจะเล่าให้พ่อฟังค่ะ..ว่า..ครั้งหนึ่งหนูนอนอ่านสมุดโน้ตในตอนกลางคืนหลังจากทำงานช่วยแม่แล้ว
หนูเอาตะเกียงวางไว้ข้างๆ ตัว ใช้สองมือจับสมุดไว้ แล้วหนูก็ง่วงค่ะ
สมุดตกใส่ตะเกียง ไฟไหม้สมุดและไหม้ผมหนูด้วย...แม่ตกใจมากค่ะ..หนู
หายง่วงเลย..จนถึงขณะนี้หนูยังเก็บสมุดเล่มนั้นไว้เลยค่ะ
..วิธีการแก้ง่วงของหนูในการท่องหนังสือมีหลายวิธีค่ะ
วิธีหนึ่งคือหนูจะเอาถังใส่น้ำมาวางและเอาเท้าไปแช่ในน้ำค่ะ..เพื่อให้ตาสว่าง..พ่อว่าหนูทรหดไหมคะ..
เทคนิควิธีการท่องหนังสือของหนู
มีคนนำไปเป็นตัวอย่างเยอะแยะมากมายค่ะ.. คุณครูที่ลาศึกษาต่อหรือน้องๆ
ครูอัตราจ้างที่จะสอบบรรจุครู หรือคุณครูที่สอบเรียนต่อ
ต่างมายืมสมุดโน้ตย่อของหนูซึ่งมีอยู่หลายเล่มเพื่อเอาไปอ่านประสบผลสำเร็จกันหลายคนค่ะ...ล่าสุดหนูได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายในเรื่องเทคนิคการอ่านตำราในเวลาที่จำกัด
สำหรับคุณครูที่จะต้องสอบเพื่อเลื่อนวิทยฐานะให้สูงขึ้น
มีคุณครูหลายคนที่ใช้วิธีการของหนูได้สำเร็จต่างดีใจกันใหญ่ค่ะ..หนูภาคภูมิใจมาก
ในช่วงนี้มีคุณครูนำช่อกล้วยไม้สัญลักษณ์
ของ“วันครู”มาขอบคุณหนูหลายคน
มีทั้งคนที่อายุมากกว่าหนูด้วย..พ่อกับแม่ภูมิใจกับหนูไหมคะ..
เมื่อหนูเป็นครู หนูก็ทำหน้าที่ของหนูอย่างดีที่สุด
หากหนูตั้งความหวังไว้ว่าจะทำอะไร ที่เป็นประโยชน์ต่องานในหน้าที่
หนูก็ตั้งใจทำอย่างเต็มความสามารถ และก็สำเร็จได้อย่างที่หวังไว้ค่ะ
คนรอบข้างยอมรับหนูจากผลงานของหนูที่ปรากฏชัดเจน ต่อเนื่องตลอดมา
หนูเปลี่ยนงานเป็นศึกษานิเทศก์เพราะหนูต้องการใช้ความรู้ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ในการร่วมกับคุณครูพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเด็กและเยาวชนของชาติ
โดยเฉพาะในเรื่องของภาษาไทยค่ะ..พ่อ
คุณครูบอกหนูว่าศึกษานิเทศก์เป็นครูของครูแต่หนูว่าไม่ใช่
เป็นเพื่อนมากกว่า
เพื่อนที่แสนดี..คำนี่มีคุณครูบอกหนูค่ะ...
ความสำเร็จสูงสุดในชีวิตของหนู
ที่หนูอยากบอกให้พ่อกับแม่ดีใจด้วย หนูได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ
รางวัลผู้ประกอบวิชาชีพคุรุสภาดีเด่น ในปี ๒๕๕๐
ที่ผ่านมาค่ะ...หนูเป็น ๑ ใน ๙ คน
จากคุณครูทั้งหมดเจ็ดแสนคนทั่วประเทศ โดยเป็นคุณครูผู้สอน ๕ คน
ผู้บริหารสถานศึกษา ๒ คน ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา ๑ คน
และศึกษานิเทศก์ ๑ คน
หนูได้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในการประชุมคณะรัฐมนตรี
ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๐
ผลงานของหนูได้รับการเผยแพร่ ในรายการ “ตามรอยพระยุคลบาท :
ครูของแผ่นดิน" ด้วยค่ะ..
หนูมีวันนี้ได้ วันแห่งความสง่างามในชีวิต เพราะ
หนูเป็นลูกพ่อ เป็นลูกแม่ ที่สอน “วิชาชีวิต” ให้หนู
จาก..ต้นกล้าเล็ก
ๆ..จนกระทั่งเป็น..ไม้ที่แข็งแรง
ในวันนี้..หนูกราบพ่อกับแม่ค่ะ.. กราบสวย ๆ
ด้วย..วันครูปีหน้าหนูจะเขียนจดหมายถึงพ่ออีกนะคะ..แม่ขา..หนูไม่เสียใจแล้วค่ะ..ที่หนูไม่ได้เป็นหมอ..ณ
วันนี้หนูภาคภูมิใจกับการเป็น "ครูของแผ่นดิน"
ที่สุดค่ะ..หนูจะทำหน้าที่ของหนูให้ดีที่สุด..หนูให้สัญญาค่ะ
ด้วยความเคารพรักและเทิดทูนพ่อกับแม่ที่สุดค่ะ
จาก..ลูก
เนื่องในวันครู
๑๖ มกราคม ๒๕๕๑
หนูขอกราบคารวะคุณครูทุกท่านที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้หนู
..ค่ะ..ทุกท่าน ตั้งแต่หนูเรียนชั้นอนุบาล คุณครูสงวน ครูคนที่ ๓
ในชีวิตของหนู คุณครูขันทอง บานนิกุล
คุณครูภาษาไทยคนแรกในดวงใจของหนู
คุณครูทุกท่านเมื่อหนูเรียนชั้นประถมถึงมัธยม
ระดับปกศ.ต้น ปกศ.สูง ปริญญาตรีและปริญญาโททุกท่านค่ะ
รวมทั้งคุณครูที่ให้ความรู้ใน Gotoknow และคุณครูทุก ๆ
ท่านค่ะ...
กราบคารวะคุณครูทุกท่านด้วยดวงใจค่ะ..
วัชราภรณ์
นมัสการมาตาปิตุคุณ
-
ข้าขอนบชนกคุณ
ชนนีเป็นเค้ามูล
-
ผู้กอบนุกูลพูน
ผดุงจวบเจริญวัย
-
ฟูมฟักทะนุถนอม
บบำราศนิราไกล
-
แสนยากเท่าไรๆ
บคิดยากลำบากกาย
-
ตรากทนระคนทุกข์
ถนอมเลี้ยงฤรู้วาย
-
ปกป้องซึ่งอันตราย
จนได้รอดเป็นกายา
-
เปรียบหนักชนกคุณ
ชนนีคือภูผา
-
ใหญ่พื้นพสุนธรา
ก็บเทียบบเทียมทัน
-
เหลือที่จะแทนทด
จะสนองคุณานันต์
- แท้บูชไนยอัน
อุดมเลิศประเสริฐคุณ
(พระยาศรีสุนทรโวหาร
:
น้อย
อาจารยางกูร)
นมัสการอาจริยคุณ
-
อนึ่งข้าคำนับน้อม
ต่อพระครูผู้การุญ
-
โอบเอื้อและเจือจุน
อนุสาสน์ทุกสิ่งสรรพ์
-
ยัง บ
ทราบก็ได้ทราบ
ทั้งบุญบาปทุกสิ่งอัน
-
ชี้แจงและแบ่งปัน
ขยายอัตถ์ให้ชัดเจน
-
จิตมากด้วยเมตตา
และกรุณา
บ เอียงเอน
-
เหมือนท่านมาแกล้งเกณฑ์
ให้ฉลาดและแหลมคม
-
ขจัดเขลาบรรเทาโม-
หะจิตมืดที่งุนงม
-
กังขา ณ
อารมณ์
ก็สว่างกระจ่างใจ
-
คุณส่วนนี้ควรนับ
ถือว่าเลิศ ณ
แดนไตร
-
ควรนึกและตรึกใน
จิตน้อมนิยมชม
(พระยาศรีสุนทรโวหาร
:
น้อย
อาจารยางกูร)