ช่วงหนึ่ง สอง สัปดาห์นี้ตื่นเช้าเป็นพิเศษ ตีสาม บ้าง ตีสี่บ้าง
เพราะคิดถึง "เพื่อนรัก"คนหนึ่ง
เขาประสบอุบัติเหตุร้ายแรงค่ะ
หลาย ๆ ห้วงเวลาของวันยังนึกภาพของเพื่อนได้ติดตาติดใจ
เจ้าตัวยังไม่ฟื้นคืนมาร้อยเปอร์เซ็นต์ เก้าวัน สิบวันเข้าแล้ว
นึกภาพ ระลึกถึงเขา แล้วคลื่นความจำก็วิ่งเข้าสู่ใจเราเป็นระลอก ๆ
ท่วงท่า ท่าทางการสตาร์ทรถมอร์เตอร์ไซค์ สมัยเป็น นักเรียนด้วยกัน
ท่าทางอมยิ้ม ไม่ค่อยพูด (ไม่เหมือนใครบางคนอีกสอง สาม คนเคียงข้าง ในแก๊งเดียวกัน...ซึ่งพูดเก่งจนเพื่อนคนนี้พูดไม่ทันก็เป็นไปได้)
แล้วก็ท่าทางเอาจริงเอาจังกับชีวิต..การเรียน..เสียเหลือเกิน
ซึ่งในที่สุด เขาก็เป็นอาจารย์ นักวิชาการ
ท่าเต้นแร้งเต้นกา เวลามีกิจกรรม ท่าทางตลก ๆ ซึ่งไม่เข้ากันเลยกับบุคลิกของเจ้าตัว เมื่อลงหนังสือรุ่นพวกเรา...มีคนตั้งชื่อท่าไว้เจ็บ ๆ ประมาณว่า..ท่า"ไอ้แก่"
แล้วก็...ล่าสุด
เราเอง บังเอิญได้นั่งคุยกับเขา ลงลึกในรายละเอียดมาก ๆ เรื่อง แง่มุม ชีวิต ครอบครัว บนเครื่องบินตอนขากลับจากไปเลคเชอร์ นักเรียน (หมอบ้านนอกก็ได้มีโอกาสสอนแฮะ)
ดีใจ...แต่กลัว ระแวง วิตก ว่าจะได้คุยกันยาว ๆ อย่างนี้อีกหรือเปล่า
ก่อนนอนเราสวดมนต์(อยู่แล้วทุกคืน)
เดี๋ยวนี้พยายามสวดให้จบ ทุกวัน ก่อนเผลอหลับ (เคยเป็นบ่อย ๆ)
พยายามเผื่อแผ่ ส่วนกรรมดีของเราที่ (พอมีอยู่บ้าง) มีแก่เพื่อนรักของเรา
ขอให้เธอนำไปใช้ให้หมดก็ได้ ค่อยมาผ่อนส่งกัน
ตื่นเช้าก็ คิดถึงเธอก่อนคิดถึงสิ่งอื่น ๆ ทุกวัน
ตื่น ตื่น ตื่น ลุก ขึ้นมาไว ๆ ..เพื่อนรัก
ใคร ๆ เขารอคุยกับเธอ รอเธอลุกมาทำงานทำการ อันเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ไม่มีความเห็น