แปลกแต่จริง จากภาวะที่อากาศร้อนมาก ๆหรืออย่างไร
ดิฉันสังเกตุเห็นว่าการเล่นน้ำสงกรานต์แบบไทย ๆ เดิม ๆ นั้น สูญหายไป หายไปเมื่อไหร่ใครพอนึกออกบ้างคะ
วัฒนธรรมแบบเดิม ที่เริ่มด้วยสรงน้ำพระที่บ้าน วัด และสถานที่สถิตย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์
บางครอบครัวถือเป็นวาระโอกาส สำคัญ ทำบุญบังสกุลบรรพบุรุษ* ซึ่งมีรายละเอียดอย่างไร ขอยอมรับว่าไม่ทราบ
(ซึ่งดิฉันอยากทราบรายละเอียดนี้*ทำบุญบังสกุล*...ถ้ามีผู้ให้ความรู้...ขอขอบคุณล่วงหน้าด้วยค่ะ)
จากนั้น ผู้เยาว์ หรืออายุน้อยกว่า ก็เดินทางมาขอรดน้ำ ขอพร ด้วยความเคารพจากญาติ หรือผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตนนับถือ เรียกว่า"รดน้ำดำหัว" ผู้หลักผู้ใหญ่ท่านนั้น ๆก็จะให้ศีล ให้พร เป็นพิธี วัฒนธรรมอันอบอุ่น กรุ่นกลิ่นหอม จิตใจชุ่มฉ่ำเย็นจาก "น้ำ" ที่เตรียมมาเป็นพิเศษ
"น้ำ" นั้นบรรจุด้วยขันเงินใบน้อย ลอยด้วยดอกมะลิ ดอกพุด หรือดอกไม้หอมอื่น ๆ
หรือหอมเพราะร่ำด้วยน้ำอบที่ปรุงกลิ่นหอมไว้ให้ชื่นใจ
ผู้น้อยมักใช้ "การรดน้ำ" หลังประณมมือไหว้ทำความเคารพผู้ใหญ่ แล้วรดน้ำนั้นเพียงเล็กน้อยบนมือ..ของผู้ใหญ่
ส่วนผู้ใหญ่หรือผู้เสมอ ๆ กันอาจใช้ "การพรมน้ำ" แก่กันและกัน พรมที่ต้นคอ ไหล่ แขน มือ สุดแต่ระดับความสนิทสนม ดูเอาว่า คงตามความพอเหมาะพอควร
ให้เหมาะสมกับวัยวุฒิ คุณวุฒิ แก่ผู้ที่เรา "รดน้ำ ดำหัว" หรือ "พรมน้ำ"
แต่วัฒนธรรม "สงกรานต์" แบบเดิม ๆ แบบนี้แทบไม่มีให้เห็น มีบ้างแต่น้อยลงมาก ถ้ายังมีก็พบข่าว เห็นว่ามีในส่วนหน่วยงานราชการ
ไม่มีในหมู่บ้าน เพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงเสียแล้ว
ตามหมู่บ้าน ท้องถนน เรา ๆ จะเห็นประชาชน พลเมืองเป็นจำนวนมาก เล่น"สงกรานต์" กันแบบ
ถึงผู้ถึงคน เอาเป็นเอาตาย..
กระหาย..การเล่น"สงกรานต์"
เล่นเอาสนุก คึกและครื้น เข้าว่า
เล่นแบบลูกผสม...ผสมผสาน...ด้วยการสาดน้ำ หรือ ทำสงครามกันด้วย "การสาดน้ำ" เข้ากับวัฒนธรรม..ดิบ (เถื่อน) ตามที่มีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์
ใช้คำแรงไปต้องขอโทษด้วย
ที่นี่..จังหวัดที่มาอาศัยอยู่..ก็เช่นกัน
ภายในอาณาเขตขัณฑสีมาแท้ ๆ....เล่นสาดน้ำกันไป มีเรื่องกันขึ้นมา (จากเหตุเดาเอาว่าน่าจะจากครองสติกันน้อยไป ครองไม่อยู่..เพราะ..ดื่มไปเล่นไป)
มีการยกทัพจับศึก เข่น สู้รบบีฑากันเกิดขึ้น...ยำใหญ่ใส่สารพัด...ขนาดเท้า
จนต้องมีตำรวจมาจัดการ
มีหยด เลือด...เปรอะเปื้อนพื้นในเขตสถานที่สถิตย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์...ในวันสงกรานต์ เห็นมากับตา
เพื่อนดิฉันเห็นเหตุการณ์ชัดกว่า บอกว่า เห็นแล้ว มวลอาหารที่เพิ่งรับประทานเข้าไป ก่อกวนระบบย่อยขึ้นมา แทบพากันเดินแถวออกจากท้องไส้
ดิฉันเองคิดไปอีกนิด..ว่า..พวกเรา ค่ะ พวกเรา ชาวไทยใจดี นี่แหละ "เล่นสงกรานต์"กันน่ากลัวขึ้นทุกที ๆ
การจราจรเป็นจลาจล
โดยเฉพาะแบบที่เพิ่งเห็นคือ มีการตั้งด่าน ดื่มสุรา กลองยาว แล้วมีการเรี่ยไรเงิน อ้างว่า "บำรุงวัด" (ถือบาตรพระเลยค่ะ) แต่ดิฉันไม่เชื่อ ไม่อยากให้เงินแม้แต่บาทเดียว คนเหล่านี้(เมาหรือเปล่านะ น่าจะใช่น่ะ..เดินและรำป้อขนาดนั้น) เมื่อควักเงินขึ้นมาช้า ก็ยืนหันรีหันขวางขวางรถเรา แล้วเราจะทำอย่างไรได้
เฮ้อ....
หาเรื่องคิดมาก และ เขียน ให้เป็นเรื่อง จนเกิดเรื่องเกินไป....หรือเปล่าหนอ....
แม้เป็นเพียง"ฝัน"
ก็ขอให้เรา ๆ ท่าน ๆ ช่วยกันนะคะ
อยากให้ฝัน....เป็นจริง
ขอบคุณค่ะ
เขียนได้ดีครับบทความนี้ยังใช้ได้อีกหลายปี