อันดนตรีมีคุณทุกอย่างไป(วันแรกที่พบเจอGotoknow 2)


ดิฉันเองตอนนั้น อาการป่วยเป็นมากแล้ว พูดคุยทางโทรศัพท์ ฟังไม่ค่อยชัดแล้ว ...ครูตกใจมากเพราะคิดว่า เอ พิการขนาดนี้จะเรียนไวโอลินไหวหรือ

วันแรกที่พบเจอGotoknow (2)

 ตอน อันดนตรีมีคุณทุกอย่างไป

 

  

ความเดิม *เมื่อป่วยใช้สายตาไม่ได้สะดวก โดนบังคับหยุดงาน  ทำอะไรดีล่ะ

จึงคิด อ้อไม่เพียงแค่คิด เรียนจริงเลยล่ะ เรียนไวโอลินเพื่อพัฒนา(ฝึกสมาธิด้วย)หู และทักษะสมองซีกขวา เป็นสิ่งแรก *

 

*********************************

 

เมื่อแรกที่ติดต่อคุณครูสอนไวโอลิน พูดคุยกันทางโทรศัพท์ คุณครูเกิดอาการงง เล็กน้อย เพราะปกติส่วนใหญ่ลูกศิษย์ของครู จะอายุประมาณหกขวบขึ้น ยังไม่เคยมี ลูกศิษย์ที่อายุสี่สิบขวบขึ้น

 

 

  

ดิฉันเองตอนนั้น อาการป่วยเป็นมากแล้ว พูดคุยทางโทรศัพท์ ฟังไม่ค่อยชัด จึงขออนุญาตคุณครูว่า เรานัดพูดคุยกันต่อหน้าดีมั้ย เผื่อว่าถ้าครูเห็นว่าพอเรียนไหว หรือเรียนเครื่องดนตรีอะไรไม่ได้ ก็จะขอแค่เรียน อ่านโน้ต ดิฉันบอกครูเลยว่า ดิฉันยังไม่เคยเรียนดนตรีเลย 

 

ตอนนั้นยังไม่กล้าบอกความจริงว่า จริง ๆ แล้ว แค่ร้องเพลงก็ยังร้องไม่เป็น มักจะผิดคีย์และผิดจังหวะ เรียกได้ว่า ให้ร้องเพลง ขอร้องไห้ แทนจะดีกว่า

  

 

ครูมาบอกทีหลังว่า ฟังเสียงแล้วเกิดความรู้สึกว่า

 

 

 

ผู้พูดอยากเรียนมาก ๆหนึ่ง


ผู้อยากเรียนที่มีอายุแล้วก่อให้เกิดความรู้สึกท้าทายต่อผู้สอนอีกหนึ่ง 


 จะสอนคนไม่เคยเรียนดนตรีมาเลยได้ไหมอีกหนึ่ง 


และประการที่สี่ ครูเกิดความรู้สึกอะไรบอกไม่ถูก แต่ อยากสอน

 

  

 

ครูจึงแต่งตัวและให้ลูกชายของครูพ่วงรถจักรยานยนต์มาพบว่าที่ลูกศิษย์คนนี้ 


เมื่อครูและลูกศิษย์พบหน้ากันครั้งแรก

 

........

 

 

 

 

มีต่อตอนสาม

 

 

 

(ครูตกใจมาก !!! เพราะคิดว่า...เอ พิการขนาดนี้จะเรียนไหวหรือ !!!)

 

 

หมายเลขบันทึก: 233387เขียนเมื่อ 5 มกราคม 2009 07:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2014 22:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

อ่านแล้ว น่าทึ่งมากค่ะ รอตอนต่อไปค่ะ
มีภาพมาฝาก ชอบภาพนี้ ดูเงียบ สงบดี ชอบบรรยากาศแบบนี้ ทำให้ความคิดตกตะกอนดี เพื่อย้อนดูตัวเอง และคิดพัฒนาตัวเองค่ะ

สวัสดีค่ะ

* มาดูเด็กสี่สิบขวบเรียนดนตรีค่ะ

* บันทึกนี้มีคุณค่าของคนตรีระหว่างครูกับศิษย์

* ที่สำคัญความรู้สึกที่มีต่อกัน

* ขอให้สุขกายสุขใจค่ะ

เขียนจบแบบนี้น่าติดตามมากค่ะ

สวัสดีปีใหม่นะคะ ดีใจที่พี่หมอได้ไปอัมพวากับครอบครัว : )

P  ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่า ชอบภาพดอกไม้สีสันงดงามนี้มากค่ะ

แต่เกิดความรู้สึกคิดถึงเวลาเปิดมาแล้วไม่เห็นใบหน้า พี่ศศิ ค่ะ

อย่าว่าแต่คุณพี่ ทึ่ง เลยนะคะ ตัวเองมาหวนคิด รู้สึกว่าเรากล้า(จริง ๆ เพราะเบื่อต้องอยู่เฉย ๆ นาน ๆ)ที่หาญขอเรียนไวโอลินในขณะที่

หนึ่งตาข้างซ้ายปิดไม่ได้
สองหน้าซีกซ้ายทั้งหน้าไม่มีแรง
สามปากเบี้ยว น้ำลายยืดและบางครั้งหยดถ้าพูดมาก ๆ
สี่กลืนข้าวลำบากเพราะลิ้นทำหน้าที่ไม่ครบสมบูรณ์
ห้าเมื่อสี ๆ ไวโอลินไป มีฝุ่นผงของคันชักกระเด็นเข้าตา ต้องหยุดเรียนพักหนึ่งเพื่อหยอดน้ำตาเทียมหรือป้ายเจลแทนน้ำตา

.....ฯลฯ

จะค่อย ๆ เล่าให้ฟังค่ะ...ขอบคุณที่ติดตาม บันทึกออกช้าเพราะงาน..ตรึมค่ะ !!!

P พี่พรรณา คะ แปลกแต่จริงค่ะ

คุณครูเคยขอตัวหยุดสอนเพราะ..ลูกศิษย์เก่งแล้ว..อิ อิ ม่ายช่ายค่ะ

เพราะคุณครูเหนื่อย อายุ..ไม่มากไม่น้อย

เมื่อเริ่มการเรียนการสอนกัน สามสี่ปีที่แล้ว ครูอายุ 74 ขวบค่ะ มากกว่าลูกศิษย์ไม่เท่าไร

วันนี้โทรไปสวัสดีปีใหม่ แล้วขอครูเรียนต่อ

ครูบอกว่า "โอ"

ภาษาวัยรุ่นซะด้วย!!! 

P  โอ อัมพวา นี่หนางามจริง...

เชียร์ให้ไปค่ะ ไปทานข้าว, อาหารทะเล ที่ดอนหอยหลอดก่อนนะคะ แล้วเดินตลาดอัมพวา แวะสวนหลวงร.สองก่อนกลับ

หรือจะพักชมหิ่งห้อยก็น่าสนุกค่ะ

พี่ไม่ได้แวะสวน เพราะลูกเพิ่งสร่างไข้

หิ่งห้อยเคยไปพักชมทั้งครอบครัวที่ดำเนินสะดวก หลายปีมาแล้ว

น้องภู ชอบมาก

น้องมัทพุงโตต้องไปตอนที่ไม่ใช่เทศกาลนะคะ อ้อ หรือไปช่วงเช้า ๆ หน่อยคนจะยังไม่มากค่ะ

เอ เจ้าตัวเล็กจอมผจญภัย คงเตะเก่งแล้ว แน่ ๆ เลย ;P

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท