ปวดท้องสามปี-กับคำตอบ

 

เคยมีอาการปวดท้องเป็น ๆ หาย ๆ

ถ้าไล่เลียงแล้ว ปวดตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2549 โน้น

 

ครั้งกระโน้น เรายังไม่ขี้กลัว  ตรวจอะไรเราก็ตรวจ  ส่องกล้องหรือ อืม..ส่องเลย

อดข้าว อดน้ำ-เช้า ส่องกล้องตรวจ-บ่าย

หายใจไม่ค่อยออก อึดอัด แต่ความอยากรู้มีมากกว่า จึงตรวจ

 

ปี 2549 ตรวจหนึ่งครั้ง

ปี 2550 ยังไม่หายปวดท้อง ตรวจอีกหนึ่งครั้ง

 

ผลการตรวจ สิ่งที่พบไม่เท่ากับอาการที่เป็น ไม่น่าใช่สาเหตุ

 

เพราะพบเพียงแต่จุดเลือดออกเล็ก ๆ บนพื้นผิวของเยื่อบุของกระเพาะอาหาร  ไม่มีแผลของกระเพาะอาหาร

 

ตรวจโดยการใช้คลื่นเสียง U/S ก็พบเพียง เซลล์ไขมันแทรกเข้าเป็นพันธมิตรกับเซลล์ตับ แบบเพื่อนที่ไม่สนิทนัก (mild degree)

 

มีตำหนิให้เห็นอย่างเดียว คือ น้ำดีค่อนข้างข้น และผนังของถุงน้ำดีเริ่ม ๆ ที่จะหนาตัว 

“หนาเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่ะพี่” 

รุ่นน้องบอกมาอย่างนั้น

 

สรุปข้อมูลเก่า(ปีพ.ศ.2549)

                 1.กระเพาะอาหารมีจุดเลือดออกเล็ก ๆ

                 2.มีไขมันแทรกเซลล์ตับ ระดับน้อย

                 3.น้ำดีข้น ผนังของถุงน้ำดีเริ่มหนาตัวนิดหน่อย

 

เมื่อปวดอีก

ในปีถัดมา(พ.ศ. 2550) ตรวจร่างกายแบบเดิมครบชุด พบ 

                 1.กระเพาะอาหารมีจุดเลือดออกเล็ก ๆ

                 2.มีไขมันแทรกเซลล์ตับ ระดับน้อย

                 3.น้ำดีข้น ผนังของถุงน้ำดีเริ่มหนาตัวนิดหน่อย

 

         เพิ่ม 4.มีสิ่งน่าหวาดระแวงคือ หมอรุ่นน้องทั้งสามคน (หมอเอ็กซเรย์)  เห็นคล้าย ๆ เงา อะไร ราง ๆ เลือน ๆ ในตับด้วย!!!

 

ตอนนั้นกำลังจะปีใหม่ เราจะไม่ทำอะไรต่อ  แล้วก็รู้สึกเอาเองว่า ไม่ปวดท้องแล้ว พอดีกว่า ตรวจมากก็เครียดมาก

 

หนึ่งในสามคนนั้นไม่ยอม

 

ส่งเราไปตรวจร่างกายทุกระบบ  ด้วยสนามแม่เหล็ก

 

พร้อมเหตุผลว่า พี่จะได้เที่ยวปีใหม่แบบสบาย ๆ

(หรือเครียด..สุดขีด-เราแอบคิด)

 

เรามีคุณหงุ่นเป็นเพื่อนรัก

และมีพี่เหมย(ขอออกชื่อแล้วกัน ขออนุญาตเธอมาแล้ว)เป็นเพื่อนซี้

แถมพกด้วยรุ่นน้องนอกวงการ อีกหนึ่งซึ่งบอกว่า ไป ไปกัน ตรวจมันให้รู้ดำรู้แดงเลย

 

คุณหงุ่นบอกว่า ก่อนไป นั่งสมาธิกันก่อน

เพื่อนเราน่ะเขาคงนั่งสมาธิ แต่ของเราเองนั้น คิดว่าคงเป็นเพียงนั่งภาวนา ตามลมหายใจ และ นั่งถึงแค่ สมถะ..

 

พี่เหมย กอดและพูดว่า “ขอพระเจ้าทรงอวยพระพร”

 

น้องที่น่ารัก นั่งไปเป็นเพื่อน เนื่องจากต้องเข้าไปตรวจในเมืองกรุง

ผลการตรวจในครั้งนั้น.....

(มาเฉลยเลยดีกว่าค่ะ )

ผลการตรวจในครั้งนั้น.....มันแปลกและไม่น่าเชื่อว่า เงานั้นเมื่อเราไปตรวจด้วยสนามแม่เหล็ก-กลับไม่พบเงาอะไรเลย  !!!

 

อาจารย์ที่เมืองกรุงอธิบายว่า...อาจเป็น technical error หรือ instrumental error ค่ะ

ดีใจมาก ๆ เลยค่ะในตอนนั้น