ขอเก็บเจ้ามาปลูก...ต้นไม้


...ความน่าจะเป็น มันเท่าไหร่หนอ..

(กาล)ครั้งหนึ่ง ในช่วงกลางเดือนเมษายน พ.ศ. 2553

เราตัดสินใจเดินเท้าออกจากที่ทำงาน โดยชวนกันเดินมากับเพื่อนร่วมงานหนึ่งคน

ที่เป็นเพื่อนใหม่ในวันเวลาที่ย้ายมาทำงานที่นี่ เกือบหนึ่งปี

แต่เป็นคนที่รู้จักจนรู้ใจกันมานาน แสนนาน ตั้งแต่สมัยที่เราทั้งสองเป็นนักเรียนของที่ทำงานแห่งนี้

เราเดินเพราะสาเหตุเป็นเลิกงานของวันศุกร์หนึ่ง

เป็นช่วงมีงานกาชาดอีกหนึ่ง

เป็นระยะเวลาของการชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง จากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง อีกหนึ่ง

รถจึงติด แสนติด

 

และเหตุผลที่เดินจริง ๆ เพราะ เป็นวันอยากเดิน

 

เราสองคนเดินข้ามถนน ออกจากที่ทำงานทางประตูหลังบ้าน

เดินข้ามถนน ข้ามไม้หมอนของทางรถไฟ แล้วลัดเลาะ เลียบไปตามสุมทุมพุ่มไม้ริมทางรถไฟ

ข้ามถนนอีกหนึ่งสาย มาใช้เส้นทางรอบ ๆ พระราชวังจิตรลดา โดยเดินเลียบริมฝั่งวัง

เป็นทางเท้าริมถนน สายที่มุ่งหน้าตรงไปถนนราชวิถี วางแผนว่าจุดหมายของการเดินเท้า คือจุดทางขึ้นสะพานกรุงเทพฯ(ซังฮี้)

ถ้ารถเบาบางลง เราจะเรียกแท้กซี่เพื่อไปยัง สถานีขนส่งสายใต้ เพื่อกลับจังหวัดนครปฐม ทั้งสองคน

 

อากาศวันนั้น ร้อน อบอ้าวมาก

เดินกันแบบช้า ๆ เดินทอดน่อง คุยเรื่องราวความหลัง ความปัจจุบัน ความยุ่งวุ่นวายของเหตุการณ์บ้านเมือง คุยกันพลางเดินพลาง

เราเอง เดินไป สองตามองดินที่มีไม้สวยงามที่ปลูกไม้ประดับ รอบ ๆ พระราชวังไปด้วยตลอด ส่วนใหญ่เป็นไม้ล้มลุก ไม้ดอกต้นเล็ก ๆ อายุไม่นาน

 

"เอ๊ะ นั่นต้นอะไรนะ" เราชี้ถามเพื่อน

ใบเขียวอ่อน และเข้ม ใบมันปลาบ ลำต้นตรง แข็งแรง สูงประมาณแปดเซ็นติเมตรเห็นจะได้ มีใบทั้งใบอ่อนแรกผลิจากเมล็ด และใบรอง ๆ รวม ๆ กันได้หกถึงเจ็ดใบ

"ต้นอะไรนะเธอ ดูคุ้น ๆ จัง"

"เอ ไม่แน่ใจ"

"ไทร หรือเปล่า..ม่านไทรย้อยห้อยระย้า.."เราฮัมเพลงขึ้นมานิดหนึ่ง

"โอยอยากได้ อยากได้ เก็บไปดีกว่า คิดว่าขอพระราชทานไปปลูกเป็นศรีแก่บ้านใหม่ของเรา"

ปลูกและเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เกือบปีแล้ว แต่ในความรู้สึก บ้านอันเป็นวิมานของเรา ยังดูใหม่  อบอุ่นเสมอ

"เธอจะเก็บยังไง" เพื่อนถาม เพราะเธอไม่ใช่นักเก็บต้นไม้แบบเรา

 

"เก็บสิ เก็บสิ ฉันจะช่วย" แม้เธอไม่เคยเก็บ ไม่รู้ลู่ทาง แต่แรงเชียร์มีพลังเชียว

"เอ้าเธอดูนะ ขอสำรวจก่อนว่ามีอะไรในกระเป๋านี้บ้าง กล่อง..ไม่มี..มีกระดาษโน้ตแข็ง ๆ มีกระดาษทิชชู เอาล่ะ ได้การ.."

 


 

 

 


*ขอพักไว้นิดนะคะ น่าเอารูปมาลงประกอบ
อยากทราบด้วยว่า จริง ๆ แล้ว คือต้นอะไร

ใครทราบบอกด้วยค่ะ
โปรดรอดูภาพต้นไม้ ค่ะ

 

 

เหตุการณ์นี้ คิดแบบคณิตศาสตร์ เปรียบความน่าจะเป็นที่เราจะเห็นเจ้า

ได้โอกาสที่จะขุด กล้าขุดจริงเพราะมีคนลุ้น

เก็บเดินทางข้ามจังหวัดโดยไร้ภาชนะ หอบหิ้วใส่กระเป๋าสะพาย...

จวบกระทั่งวันนี้

วันที่เจ้าผ่านปฐมวัย จนได้ลงกระถางใบโต  ความน่าจะเป็นมันเท่าไหร่หนอ

หมายเลขบันทึก: 360697เขียนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2010 20:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2014 22:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

สวัสดี ครับคุณภูสุภา

 

"เธอจะเก็บยังไง"  เพราะเธอไม่ใช่นักเก็บต้นไม้แบบเรา

 ...

 แม้จะไม่เคยเก็บ ไม่รู้ลู่ทาง แต่แรงเชียร์มีพลังเชียว  "เก็บสิ เก็บสิ ฉันจะช่วย"

 

ทำให้...

คิดถึงภาพวัยเด็กที่นครปฐม  วิ่งเล่นตามสวนหลังบ้านคนอิ่น

แล้เพื่อนก็คอยเชียร์ แบบนี้เหมือนกันครับ แต่..เชียร์ให้ปีนไปเก็บผลมะม่วงในสวนหลังบ้านคนอื่น

...

เป็นความสุข..สมัยเด็ก ๆ ที่ไม่เคยลืมเลย ครับคุณภูสุภา

...

บันทึกนี้เป็นบันทึกที่เจือปนไปด้วยความสุข นะครับ

ขอบพระคุณ นะครับ

P

มาตายี

ขอบคุณค่ะ ใบเหมือนภาพไทรทองที่ไปหามาจากเน็ต ภาพต้นจริงที่ถ่ายไว้ในโทรศัพท์มือถือ ต้องใช้เวลานำไฟล์ขึ้น ยังไม่เคยโหลดภาพจากโทรศัพท์มือถือเลยค่ะ

ทำเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยเป็น แต่เรื่องบริบาลต้นไม้เล็ก ๆ ที่ขึ้นเอง เก็บมาจากที่ต่าง ๆ จะจำเรื่องเหตุการณ์ได้ดี และเขาและหล่อนมักแข็งแรง ดีกว่าต้นที่ซื้อมาปลูกค่ะ

(อิ อิ ชอบตั้งชื่อให้ต้นไม้ กำหนดเพศให้ด้วยค่ะ)

 

ใบแบบนี้ค่ะ ไม่ผิดแน่นอน สำหรับนักเก็บต้นไม้อย่างเรา

สวัสดีค่ะ

ต้นไทรทอง  เมื่อโตขึ้นจะเป็พุ่มสวยและแข็งแรงมากค่ะ  ยิ่งโดนแสงแดดมาก ๆ จะยิ่งสวยค่ะ

P

แสงแห่งความดี

คุณแสง เก้าอี้ตัวนี้พี่นั่งบ่อย ๆ และคิดว่ามีคนหลายคนในนครปฐม ที่อยากนั่ง ได้นั่ง ประทับใจเก้าอี้ตัวนี้

พี่ที่สนิทกัน เคยจับภาพมุมนี้ในเวลาที่ แสงเย็นย่ำรำไรไล่กลับบ้าน...

ค้นพบจะนำมาลงให้ดูเทียบค่ะ

คนชอบต้นไม้ก็อย่างนี้แหละค่ะ เห็นต้นอะไรที่ดูเข้าท่าก็อยากจะเก็บมาปลูกที่บ้าน พี่ก็เหมือนกันค่ะ

หากเป็นต้นไทรทองปลูกแล้วคงได้ชมใบที่งอกงามเป็นพุ่ม สมความตั้งใจและความอุตสาหะที่หอบเขากลับมาบ้านนะคะ

พี่เคยเก็บต้นมะแว้งเครือในป่าละเมาะข้างทางมาปลูก พอเขาเป็น ออกดอก ออกผลดีใจกิ๊วก๊าวน่าดู ราวกับว่ามาขึ้นอยู่ในบ้านเรานั้นมันสวยกว่าที่เห็นข้างทาง ^___^

คนไม่รู้จักพอ คือคนไม่รู้จักเกิด

P
ครูคิม
เเต่ต้นที่น้องเก็บมา ค่อนข้างโตช้า พรุ่งนี้ว่าจะเปลี่ยนเอาหินแตก ๆ ใส่เพิ่มให้ด้วย
เห็นเพื่อนคนที่ รู้จักต้นไม้ แนะนำมาค่ะ

7.

*คนชอบต้นไม้ก็อย่างนี้แหละค่ะ เห็นต้นอะไรที่ดูเข้าท่าก็อยากจะเก็บมาปลูกที่บ้าน พี่ก็เหมือนกันค่ะ

จริงค่ะ มันไม่ใช่แค่ไม่อยากเสียเงินซื้อหรอกนะคะ บางต้นที่ซื้อ น้องไม่เคยต่อราคาเลย เขาลดให้ ก็ไม่อยากรับ ยกเว้นสนิทกันมาก ๆ หลัง ๆ เขาแถมต้นที่คิดว่าเราจะชอบให้แทนค่ะ

เวลาเราปลูกและดูแลต้นไม้เอง จะเข้าใจว่า สิ่งนี้ตีค่า หรือ แทนค่าเป็นเงินยาก เท่าไรหนอจึงจะเพียงพอ

บางต้นต้องการ การดูแลทุ่มเท ยิ่งกว่าดูแลทรัพย์สิน สิ่งของอื่น ๆ ด้วยซ้ำไป

แต่ที่เก็บเพราะ พรหมลิขิตให้เราเห็นเขา อยากดูแลเขา และเขามักจะแข็งแรงเป็นพิเศษ

ในลิสต์ที่เก็บมา มักเก็บจากสถานที่ เหมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธ์คุ้มครอง หรือธรรมชาติมอบให้โลกเป็นของขวัญ

เช่น ต้นไกรNO.1 และต้นฝรั่ง-เก็บจากองค์พระปฐมเจดีย์

ไทรทองจากรอบ ๆ รั้วพระราชวังสวนจิตรฯ

ต้นไกรNO.2, ต้นตาเบบูญ่าและต้นส้ม-จากบ้านพี่ชาย

ขี้เหล็ก1 และ 2 จากถุงปุ๋ย จากร้านขายต้นไม้ที่สนิทกัน

กาหลงNO.1, กาหลงNO.2 เก็บมาจากบ้านเก่า

ต้นเลี่ยนหลาย ๆ ต้น ติดที่ดินแปลงนี้ ที่เรามาซื้อได้แบบฟลุ้ค ๆ

ปาล์ม เก็บมาจากบ้านแม่

อีกมากค่ะ สงสัยต้องบันทึก ;P

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท