ป่วย ป่วยครั้งนี้ยืดเยื้อกว่าที่คิด เพราะไม่ยอมลางาน เป็นห่วงงานที่ยังค้าง
ในที่สุดร่างกายก็ประท้วง ตื่นไม่ไหวแม้ตั้งนาฬิกาปลุก และเมื่อตื่น(สายมาก)แล้ว ก็ยังโงหัวขึ้นมาไม่ไหว หัวหนักมาก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
ได้แต่นอนฟังแผ่นซีดีธรรมของพระอาจารย์ พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตโต)
แปลกที่ว่า
ได้เรียนรู้ทำความเข้าใจคำสอนที่เคยฟังแล้วฟังอีก คราวนี้ได้ข้อคิดเพิ่มเติมไปอีก
การฟังแต่ละครั้งได้ข้อคิดไปคิดไม่เคยซ้ำ
คำสอนง่าย ๆ ประโยคเดียวสั้น ๆ ก้องอยู่ในหู
สมัยเริ่มทำงาน มีเงินเดือนพอเลี้ยงตัว ทั้งสองคน เราเดินเที่ยว ดูหนัง ดูของ ซื้อหนังสือ เรามีความสุข
กลางคน เรามีเงินสะสม มีบ้าน มีรถยนต์ มีเงินออม เรามีความสุข แต่บ่อยครั้งเรามีความกังวล เรื่องนั้นนิด เรื่องนี้หน่อย
ก่อนมีลูก เราวาดฝัน วางแผน คิดไว้ก่อนว่าลูกน่าจะชอบแบบนี้ ชอบแบบนั้น ไม่ทำแบบโน้นฯลฯ
เรื่องบางเรื่อง เราไม่มีความสุขเพราะคิดเกินไปก่อน
และ เราคิดเรื่องเราคนเดียวไม่พอ ว่าอย่างนั้นเถอะ
เมื่อเปลี่ยนงานครั้งแรก ต้องย้ายของ อพยพสิ่งของในบ้าน ในที่ทำงาน ไปบ้านใหม่ ไปที่ทำงานใหม่
โชคดีที่ ครั้งนั้นเราฟังธรรม เราฝึกความคิดมาบ้าง เราปล่อยวางมาก
เราขนของออกจากที่ทำงานที่อยู่มาสิบกว่าปี ด้วยกล่องกระดาษขนาดขวดใส่น้ำเกลือ ใบกลาง เพียงสองใบ
คอมพิวเตอร์ ปริ๊นเตอร์ พัดลม ตำรา เครื่องใช้ไฟฟ้า กาต้มน้ำร้อน ชุดกาแฟฯลฯ เราให้น้อง ๆ หมด
เฟอร์นิเจอร์ในบ้านเช่นเดียวกัน เราให้น้อง ๆ ผู้ช่วย คนงาน มาเลือกหาไปไว้ใช้
เสื้อผ้าเรา ผ้าหลายชิ้นที่ยังไม่ได้ตัด เสื้อผ้าลูกและสามี ของเล่นลูก หนังสือ(เพียงส่วนเดียว-ส่วนใหญ่ขนไป) โต๊ะกินข้าว เตียงนอน เครื่องปรับอากาศ และเครื่องนอน
ไม่ขน
เป็นการย้ายที่ค่อนข้างง่าย เร็ว
เป็นจริง จริงจริง
มาก็มาตัวเปล่า...ไปก็ไปตัวเปล่า
นี่แหละชีวิต อย่าไปยึดติดกับสิ่งใดจะก่อเกิดทุกข์ขึ้นในใจ
แต่...ร่างกายป่วยนี่อย่าวางใจ
ควรดูแลเพื่อจะได้อยู่สู้ต่อไปและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆต่อไปนะคะ
ขอให้หายป่วยโดยเร็ววันค่ะ
สวัสดีค่ะ
ชื่นชมคำสอนของท่าเช่นเดียวกันค่ะ
โดยเฉพาะหนังสือพุทธธรรม
ขอบคุณค่ะ
ได้ถ้อยความ คำสอนที่สำคัญมาฝากอีกหน่อยค่ะ
ในท่ามกลางโลก สังคมที่ขยายเติบโต คับคั่งมั่งคั่งมากขึ้น
แต่ผู้คนกลับโดดเดี่ยวอ้างว้างเงียบเหงามากขึ้น..
ย่อสังคมลงมาเป็นบ้าน ในบ้านมีเครื่องมือวัตถุปรนเปรอความสุขเพียบพร้อม
หากใจเจ้าของบ้านยังว่างเปล่ากลวงโบ๋ จนต้องออกจากบ้านเพื่อแสวงหาความสุขมากขึ้น..
พระอาจารย์สอนว่า แต่ละคนต้องฝึก หัด จิตจนเต็ม เข้มแข็ง สงบ สบาย สามารถมีความสุขในตัวเองได้
เมื่อนั้น เราแต่ละคนจึงจะเต็มไปด้วยความสุข ปัญญา และช่วยผู้อื่นและโลกได้ในที่สุด
สรุปมาได้ทำนองนี้นะคะ
krugui Chutimaเช้าป่วย หัวหนัก นอนเกือบทั้งวัน ดื่มน้ำมาก ๆ กินยาลดไข้ ลดอาหาร
ตอนนี้เริ่มดีขึ้นมาก ๆ แล้วค่ะ
ขอบคุณนะคะ
สามสักปลายปีจะไปเรียนในแดนไกลอีกแล้วค่ะ คงได้เมล์มาถามความรู้เรื่องการเกษตร นะคะ จะทดลองปลูกต้นไม้ที่นั่นดูค่ะ ไปอยู่นานคราวนี้:P
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
มีก็ดี ไม่มีก็ได้ .. แต่หนุ่มโรแมนติกสักคน นี่ ไม่มีไม่ได้กระมังค่ะพี่หมอเล็ก .. รออ่านเรื่องโร ๆ ของคู่รักหวานแหวว อย่างสม่ำเสมอ ค่ะ ;)
สวัสดีค่ะคุณภูสุภา ชื่นชมคำสอนของท่านพระพรหมคุณาภรณ์ด้วยเหมือนกัน ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่เล่าขานค่ะ อ่านแล้วนึกถึงบทความสั้นๆที่เคยผ่านตามา จากหนังสือ The greatness Guideของ Robin Sharma ตอนแรกที่อ่านผ่านก็ไม่ได้คิดอะไรมาก พออ่านเรื่องราวของคุณและคำสอนของท่าน ป.อ.ปยุตโต
ทำให้อดคิดมิได้ว่าผู้เขียนอาจเรียนรู้มาจากท่านด้วยเหมือนกัน ขอนุญาตแบ่งปันค่ะ
"ความพึงใจมาจากแรงกระตุ้นภายนอก ความสุขเกิดมาจากความรู้สึกภายใน ความพึงใจเกิดได้จากกายสัมผัสทั้งห้า แต่บังเอิญว่ามันไม่จีรัง ความสุขเกิดจากการตัดสินใจการเลือกที่จะมีความสุข คนบางคนอาจมีความสุขแม้ในยามที่ร่างกายกำลังเจ็บปวดหรือกำลังเดินผ่านมรสุมแห่งชีวิต ซึ่งอาจไม่มีร่องรอยของความสุขสบายภายนอกเลยแต่ภายในเขากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกสำราญ ในทางตรงข้ามคนมากมายที่กำลังถูกแวดล้อมด้วยวัตถุที่สร้างความพึงใจหลากหลาย แต่ก็มิอาจหาความสุขจริงๆได้สักที ดังนั้นเราจึงควรเลือกที่จะมีความสุข เพราะเราควบคุมชีวิตภายนอกมิได้ทั้งหมด แม้ความยากลำบากจะเกิดขึ้นแต่เราก็สามารถควบคุมความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในได้ และคนที่ทำได้เช่นนั้นคือคนที่ประสบความสำเร็จ"
ฝนตก รักษาสุขภาพด้วยค่ะ ขอบคุณที่กรุณาแวะไปเยี่ยมเยียน ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ...
มีก็ดี ไม่มีก็ได้ .. แต่หนุ่มโรแมนติกสักคน นี่ ไม่มีไม่ได้กระมังค่ะพี่หมอเล็ก .. รออ่านเรื่องโร ๆ ของคู่รักหวานแหวว อย่างสม่ำเสมอ ค่ะ ;)
น้องปูจ๋าpoo
สองคนตายาย นั่งรถไปทำงานแต่เช้ามืดด้วยกันทุกวัน ตอนนี้มีเรื่องโรมันคาธอลิคซึ่งใคร ๆ ที่บังเอิญเดินผ่านทางเท้าหน้าคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล จะได้เห็น หนุ่ม(น้อย..แล้ว) หอม(จุ๊บ) แก้มของสาว(น้อย..แล้วเช่นกัน) ทุกวันหนึ่งจุ๊บสั้น ๆ ก่อนสาวก้าวลงจากรถ
แล้วเราก็อวยพรกันว่า
"ทำงานดี ๆ นะ"
และ
"ชับรถดี ๆ ปลอดภัยนะ"
เริ่มมาจีบกันใหม่ค่ะ
ว้าว..ยุงชุม.
...ปิริมารจ ทัดบุปผา...ความคิดเห็นที่กรุณามาฝากไว้ ต้องขอขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ
คืนนี้อยู่ดึกเพราะงานเอกสารยังไม่เสร็จ และพรุ่งนี้ไปดูงานศิริราช ใกล้บ้านเดินทางง่ายหน่อย จึงมีเวลาแว่บมาอ่านบันทึก
ยินดีค่ะที่ได้รู้จัก จริง ๆ
ป่วยกายอีก ไข้หวัดใหญ่มั้ง
เป็นตามตำรา กายป่วยพาใจป่วย ได้
จึงมาจดไว้หน่อย ว่ามาอ่าน "ยา"แก้ป่วย
ไม่รู้ต้องใช้เวลานานอีกกี่ปี กว่าจะเห็นตามได้(ทุกข้อ)แบบที่ทุกท่านกล่าวมา ... ต้องฝึกใจตัวเองอีกหลายเพลา
สาธุ สาธุ สาธุ เห็นจริงตามอย่างกระจ่างชัดค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประสบเหตุการณ์มหาอุทกภัย รอดชีวิตมาด้วยเสื้อติดตัว กางเกงว่ายน้ำ และกระเป๋าสตางค์ "มีก็ดี ไม่มีก็ได้"