คน คน คน... ความคิดวันนี้


เช้านี้ตื่นขึ้นมาระลึกรู้ได้ว่า เป็นวันวิสาขบูชา   ก่อนนอนตอนค่ำก็ตั้งสัจจะอธิษฐานว่า พรุ่งนี้เราจะนั่งสมาธิอย่างน้อย 1 ชั่วโมง   เมื่อนึกขึ้นได้ก็รีบปฏิบัติตามสัจจะอธิษฐานที่ตั้งไว้  ทำครบตามกำหนดแล้วก็สบายใจ  ได้ทำตามที่ตั้งใจไว้

    เมื่อเิปิดหน้าต่างห้อง วันนี้ก็เหมือนวันก่อนๆ ที่คนงานก่อสร้างยังคงทำงานเหมือนเดิมตั้งแต่เช้า   เราเห็นสภาพแบบนี้หลายๆ ครั้ง   ตั้งแต่สมัยเราทำงานอยู่ที่ชุมพร มองเห็นคนงานก่อสร้างซ่อมแซมถนน มีทั้งผู้หญิงผู้ชายที่ทำงานกันอย่างขมักเขม้น แม้จะเที่ยงวัน แดดร้อนจัด  พวกเขาก็ยังต้องทำงาน   เราคิดว่า หากถามว่าเขาปรารถนาสิ่งเหล่านั้นหรือไม่  ก็หยั่งจิตตนเองดูได้คำตอบว่า  "ทุกคนเกลียดความทุกข์ ปรารถนาสุข"   หากเลือกได้ทุกคนก็อยากที่จะมีความสุขตามประสบการณ์ของตน    ดังนั้น สิ่งที่คนงานเหล่านั้นประสบอยู่  เราจะตัดสินว่า เขาทุกข์ก็คงไม่ได้    เพราะ แต่ละคนกมีประสบการณ์ต่างกัน   แต่ที่แน่ทุกข์อันเกิดจากเวทนาทางกายย่อมมี  แต่หากเขามีเครื่องรักษาจิตตน  คือ มีปัญญาเป็นเครื่องพิจารณาแล้ว  ในความเหนื่อยยากลำบากกาย ก็คงจะพอประทังชีวิตให้ทนได้ ต่อทุกข์เวทนานั้น

เมื่อเราเห็นความแตกต่างกัน  ระหว่างเราซึ่งเป็นครู  กับ เขาเป็นคนงานก่อสร้าง  
สำหรับเราแล้วคิดว่า เราได้รับโอกาสดีๆ  ที่ได้เป็นครู  ได้มีโอกาสทำความดีโดยการให้ความรู้แก่ศิษย์  พร้อมทั้งยังมีเงินเดือนใช้จ่ายทุกเดือน  มีโอกาสได้นั่งทำงานห้องแอร์   ในขณะที่เขาต้องทำงานที่ต้องใช้หยาดเหยื่อแรงงาน  เงินเดือนที่ได้ก็คงจะได้ตามแรงงานที่ออกไป หากวันไหนไม่ได้ทำงานก็คงจะไม่ได้เงิน   เห็นความแตกต่างกันดังนี้แล้ว  ก็อดที่จะสงสารไม่ได้    หากเรามีโอกาสทำได้ ก็อยากให้ทุกคนได้รับสิ่งที่ดีงาม อยากที่จะให้ความช่วยเหลือเผื่อแผ่ความสุขสบายทั่วๆ กัน

      คนเราต่างกันเพราะ กรรม  คือ การกระทำ  ไม่มีใครหลีกพ้นกฏของกรรมไปได้  ผู้ใดทำสิ่งใดไว้ย่อมได้สิ่งนั้น     เราระลึกถึงกฏข้อนี้ขึ้นมา    ก็เลยสามารถที่จะละวางความคิดลงได้  จึงได้เริ่มพิจารณาความจริงว่า   สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม     การกระทำทุกอย่างมีผล  คนเราเกิดมานับชาติไม่ถ้วน  และ เราก็เป็นมาหมดแล้วไม่ว่าจะคนร่ำรวย หรือยาจก  คนดี คนเลว  สัตว์ เทวดา  ฯลฯ  เมื่อนึกได้ดังนี้  จึงระลึกรู้ว่่า  ที่พระท่านบอกว่า  ทุกชีวิตเป็นเพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายนี่จริงๆ   แล้วเราจะอิจฉากันทำไม   เราจะรังเกียจกันทำไม   เพราะในวัฏสงสารที่ไม่มีความแน่นอนนี่  ตราบใดที่เรายังไม่ถึงนิพพาน ยังคงเวียนว่ายตายเกิดอยู่เราต้องประสบสิ่งเหล่านี้

    เราพิจาณาสิ่งนี้ซ้ำๆ  จึงได้รู้ว่าที่พระพุทธเจ้าบอกว่า "ปัญญา คือ รัตนะของคนทั้งหลาย" (รัตนะ คือ แก้ว  ในที่นี่คือ สิ่งมีค่ายิ่งของคนเรา เป็นความบริสุทธิ์ที่ปราศจากมลทิน)    เราจึงเห็นว่า ปัญญา นี่แหละ หากมีในผู้ใด ผู้นั้นจะสามารถนำพาชีวิตไปสู่ความเจริญ  และออกจากวัฏสงสารที่ไม่เที่ยงแท้นี้ได้  ด้วยเหตุที่  ผู้มีปัญญาย่อมตามรักษาจิต  จิตเป็นใหญ่  จิตเป็นตัวกำหนดกรรมของแต่ละคน 

    เราปรารถนาปัญญา  เราจึงต้องฝึกฝน พิจารณา  เรียนรู้ และ ปฏิบัติเพื่อมีปัญญา   ...  แต่ในขณะนี้เรายังเป็นเสมือนเด็กน้อยที่พายเรือในอ่าง    ความเข้มแข็งเรายังไม่มี  แรงเรายังไม่พอ  แต่เราก็พยายามที่จะไม่ย่อท้อ  ด้วยเราหวังว่า ศรัทธาที่เรามี  หากเราประกอบความเพียรไม่ลดละ เราจะไปถึงฝั่งที่เราตั้งใจไว้

   เรานึกถึงคำสอนที่เราเห็นเป็นประจำเวลาเิดินทางกลับบ้าน ที่สะพานลอยที่สวนโมกข์ ติดป้ายไว้ว่า "ถ้าศีลธรรมไม่กลับมาโลกาจะพินาศ"  และ ก็ท่องได้ขึ้นใจ     ทำให้เราได้ย้อนกลับมาพิจารณาซ้ำว่า  ศีลธรรมนี่หละ จะเป็นตัวที่ควบคุมความเปลี่ยนแปลงของโลก  ศีลธรรม เกิดจากจิตที่เป็นใหญ่ของเราๆนี่แหละ  จิตของคนทุกคน จิตของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย  เป็นพลังงานมหาศาลที่สามารถควบคุมความเปลี่ยนแปลงของโลก   โลกจะสงบสุข หรือพินาศก็เพราะดวงจิต ของเราๆ เป็นตัวกำหนด   ดวงจิตที่ไม่มีประมาณ นับไม่ถ้วนนี้  แปลสภาพจากสิ่งหนึ่งไปสู่สิ่งหนึ่ง  คนเราตายแล้วก็เกิดใหม่ แปลสภาพกันไปเรื่อยๆ

     ถึงวันนี้ โลกของเราค่อยข้างจะเข้าสู่ความไม่สมดุลทางจิตวิญญาณมากขึ้นทุกวัน  นั้นคือ ศีลธรรมลดหายไปเยอะ  การเฆ่นฆ่า  การแย่งชิง แรงริษยา อาฆาต  เหล่านี้ เป็น พลังงานของดวงจิตที่ไม่ดี ไม่มีศีลธรรมมีมากขึ้นเรื่อยๆ    หากวันหนึ่งที่ พลังงานจากดวงจิตที่เลวร้ายน มากกว่าดวงจิตแห่งความดี อันได้แก่ เมตตา กรุณา มุติตา อุเบกขา  และมีมากพอแล้วก็คงจะถึงคราวที่โลกจะเข้าสู่ความพินาศ

    โลกจะเป็นอย่างไร  เราไม่สามารถควบคุมได้  แต่สิ่งที่ทำได้คือ  ควบคุมตนเอง  ฝึกตนเอง เท่านั้น   เรามาฝึกตนกันนะคะ   โดยการพิจารณาให้เห็นความจริง  เพื่อให้เกิดปัญญามารักษาคุ้มครองตนกัน

คำสำคัญ (Tags): #ข้อคิด
หมายเลขบันทึก: 183268เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2008 17:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีครับ

ดีใจกับธรรมะวันหยุดครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท