เป็นความสุขเล็กเล็กในใจ ที่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้เดินทางไปกับญาติพี่น้องในครอบครัว เพื่อเยี่ยมหลานหลานที่จังหวัดระยอง
จังหวัดระยองเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีพี่น้องชาวอิสานอยู่ที่นั่นกันมาก เพราะมีเขตอุตสาหกรรมและโรงงานนั่นเอง
ลูกชายน้าชาย ก็อยู่ระยอง ลูกสาวและลูกเขยของพี่สาวก็อยู่ระยอง เมื่อหลานจะคลอด หลานจะเข้าโรงเรียน พ่อแม่ที่ว่างๆ ก็ขอไปเยี่ยมกันหน่อย
เนื่องจากว่าพี่สาว ยังไม่เคยเดินทางตามเส้นทาง หนองคาย - เขาใหญ่ เลยนัดกันว่า เราใช้เส้นทางเขาใหญ่กันดีกว่า ไกลหน่อยก็ไม่เป็นไร แวะดูลิงดูช้างดูกวางกัน
เราออกเดินทางกันตั้งแต่ ตีสี่ครึ่ง ขนข้าวขนของไปกันอย่างมากมาย ครั้งนี้เรา(ป้าแดง)ไม่ได้จ่ายค่าอาหารเช้าเลย เพราะน้าและพี่เตรียมอาหารไปกินกันเอง อร่อยมากมาย รสชาดคุ้นลิ้น
การเดินทางครั้งนี้ ดูผ่อนคลายมากมาย อาจจะเป็นเพราะเดินทางทุกครั้งมักจะห่วงใยผู้อยู่ทางบ้าน อากาศตอนเช้าไม่ร้อนมากนัก เจอด่านตำรวจบ้าง แต่ก็ผ่านไปด้วยดี
เราผ่านอำเภอสีคิ้ว เราพูดคุยกันถึงเรื่อง คุณสรพงษ์ ชาตรี ที่มาสร้างวัดหลวงพ่อโต เลยแวะเข้าไปกัน เกือบเที่ยง อากาศและแดดจึงร้อนมาก แม้ว่า บรรยากาศและสิ่งแวดล้อมภายในวัดจะสวยงามมากมาก แต่...ก็ต้องยอมรับว่าไม่ผิดหวังที่แวะเข้าไป
จัดสวนได้สวยมาก ดอกไม้ก็สวยงามเหลือเกิน ค่าบำรุงรักษา คงมากทีเดียว
ทำบุญกันเล็กน้อย เดินชมสถานที่ ไหว้หลวงพ่อโต แล้วก็เดินทางกันต่อ มาครั้งนี้ มีคนบอกว่า "ไม่เจอคุณสรพงษ์ กับ คุณดวงเดือนเลย"
ใครที่ผ่าน เส้นทาง สีคิ้ว-โคราช อย่าลืมแวะทำบุญ นะคะ
จากสีคิ้ว เรามุ่งสู่ปากช่อง แวะซื้อ กระหรีปั๊บ ร้านค้าที่ตั้งอยู่ข้างทางก่อนถึงทางเข้าเส้นทางเขาใหญ่ ไม่ได้แวะร้านอาหารของน้องที่ทำงานดั่งที่ตั้งใจ "ร้านตะโขง" เพราะจำพิกัดร้านไม่ได้
โทรหาน้อง น้องบอกว่า ที่บนที่ทำการก็มีอีกร้าน "งั้นไปต่อกันที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่"
ฝนตกหนักพอสมควร มองไม่เห็นทาง ทำให้หวั่นใจเรื่องถนนเลื่อนเล็กน้อย แต่ไม่บ่นออกนอกใจ เกรงว่าผู้โดนสารจะไม่สบายใจ
ที่ร้านอาหาร บนอุทยาน เราหาร้าน "ตะโขง" ไม่เจอ แต่ไปเจอร้านสวัสดิการและร้านอาหาร อีก 2-3 ร้าน แวะกันที่นี่แหละ เพราะเที่ยงกว่าแล้ว เจอเด็กนักเรียนนานาชาติ ที่มาทัศนศึกษา สวมถุงเท้ากันทากกันทุกคน บอกว่า "ทากเยอะมาก"
น้องกวางที่ร้านอาหารคุ้นกับคนมากมาก ทำให้คิดไปถึงภูกระดึง อยากไปอีกแล้ว ได้แต่เก็บไว้ในใจ นอกใจเมื่อไร เป็นเจอบ่นว่า "เที่ยวเก่ง เที่ยวอีกแล้วหรือ"
เส้นทางเขาใหญ่ทำให้ป้าแดงและพี่สาวต้องกินยาแก้เมารถเพิ่มอีกเม็ด น้าชายบอกว่า "นี่..ชิวชิว..นะ หากไปอ่างขางละก็ กว่านี้" อืมม....เคยไปแล้ว คัทไหม้เลยละ อิอิอิ
เดินทางครั้งนี้ รู้สึกว่า เราทุกคนคุยกันสนุกสนานมาก แม้ว่า..บางครั้งบางคราว จะมีการเมือง แทรกให้บรรยากาศเปลี่ยน
การเดินทางจึงดูเหมือนว่า ถึงที่หมายเร็วมาก แม้เวลาจะเย็นเข้าทุกทีก็ตาม
เราถึงระยอง กัน ห้าโมงเย็น พุดคุยกันนิดหน่อย ก็ไปต่อกันที่ ชายทะเล หาดแม่รำพึง เพื่อทานอาหารทะเลกัน........เพราะฉะนั้น ถึงเวลากิน จะคุยและเขียนต่อไปไม่ได้ หายไปกิน ปูนึ่ง หมึกย่าง กุ้งเผา ก่อนน๊า.........
สวัสดีค่ะ
น้องแดง..ถ่ายภาพสวยมากค่ะ จะชมมานานแล้ว คุยไปเรื่องอื่น ๆ ทำให้ลืมไปเลย
วันนี้ถือโอกาสชมด้วยใจจริงค่ะ พี่คิมเห็นทีจะต้องเอาจริงกับการฝึกถ่ายภาพแลวนะคะ
คิดถึงค่ะ
ยินดีมากค่ะ พี่ครูคิมและครูป้อม แวะเข้าไปแล้วอีกรอบแล้วค่ะ
พี่คิม รูปป้าแดง ไหวเป็นส่วนใหญ่ค่ะ เลยดูรูปไม่คมชัด เพราะ มือไม่นิ่งพอ แม้จะเป็นเลนส์กันสั่น
เพราะฉะนั้น เราต้องมือนิ่งค่ะ ต้องยืนให้มั่นคงด้วย
ลองกันใหม่นะคะ เดี๋ยวไปถ่ายบน ภูหินร่องกล้ากันค่ะ
สวัสดีค่ะป้าแดง
มาชมภาพทะเลระยอง ด้วยคนค่ะ สวย ชอบ ชอบมากค่ะ
สวัสดีค่ะ ป้าแดง
สวัสดีค่ะ
คำว่า "อุทธยาน" แปลว่าอะไรครับ? ต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมยังทำใจไม่ได้ครับ ...ผมชอบกวาง มายืนเต๊ะท่าท้ายรถเครื่อง น่ารักดี แต่ก็ดูแปลกๆกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป
สวัสดีค่ะ พี่ครูอรวรรณ
คิดถึงอยู่นะคะ
คงมีกิจกรรมให้เราได้ร่วมงานกันอีกแน่ๆค่ะ
ต้องหาโอกาสค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
แวะมาเที่ยวด้วยคนค่ะ...หายเครียดค่ะได้สัมผัสบรรยากาศที่สวยงาม..อารมณ์ดีด้วยค่ะ...ทริปหน้าป้าแดงอย่าลืมไปชวนด้วยนะคะ...ไปล่ะค่ะ
ปล. ความเห็นที่ 10 ยังเขียนผิดจนได้ ..เฮ้อออ
สวัสดีครับ
เห็นด้วยกับพี่คิมครับ
ภาพถ่ายสวยมาก ๆ ...
มาชวนไปอ่านบันทึกนี้ครับ
ศรัทธากับแสงหิ่งห้อย ตอนที่ 1
ศรัทธากับแสงหิ่งห้อย ตอนที่ 2
แม่แพ ถึงแม่กลอง "ความทรงจำจากสายน้ำ"