เก็บผัก


เมื่อสัปดาห์ก่อน...ไปดูที่สวนผักที่เด็กที่ศูนย์ช่วยกันปลูกเห็นมะระเริ่มโตแล้ว และตั้งใจว่าสัปดาห์นี้หลังจากเดินทางกลับมาที่ยโสธร พระอาจารย์และเด็กๆ ตั้งใจจะเก็บไปฝากแม่ข้าพเจ้าโดยเฉพาะมะระเพื่อทำแกงคั่วมะระ

เมื่อตอนเย็นหลังเลิกงานจึงได้แวะไปที่วัด เด็กๆ เพิ่งกลับจากวัด วันทั้งวันเรียนรู้การทำงานสร้างกุฏิ พอได้เวลาประมาณสี่โมงเย็นก็ช่วยกันกวาดลานวัดก่อนร่วมกับพระ-เณรในวัด แล้วค่อยทยอยกันกลับบ้านพัก

เจ้าชาติและเจ้าท้อป ทำหน้าที่ทำกับข้าวให้เพื่อนๆ ทาน วันนี้เห็นขมักเขม้นทำแกงคั่วไก่และส้มตำ เจ้าชิงกวาดบ้านเสร็จก็เข้ามาช่วยงานครัว ส่วนที่เหลือก็ลงสวนรดน้ำต้นไม้ คนที่ดูมีความสุขในการทำงานสวนมากเห็นจะเป็นชาตรี ... จดจ่ออยู่กับการทำสวนพริก พระอาจารย์จะแบ่งพื้นที่ให้แต่ละคนรับผิดชอบดูแล พื้นที่ที่นี่ค่อนข้างเป็นดินทราย ปลูกพืชผักค่อนข้างจะให้ผลผลิตยาก หลังจากที่รุ่น ๑๕ เข้ามาอยู่ที่วัด พระอาจารย์ก็ได้ให้เด็กๆ ขยายพื้นที่ทำสวนและปรับปรุงฟื้นฟูดินเป็นการใหญ่ หลายครั้งที่พากันไปขนปุ๋ยคอกที่บ้านเด็กๆ มาปรับลงบำรุงดิน และนำตอข้าวมาปกคลุมดินให้ชุ่มชื่นขึ้น

ผลผลิตจากการทำสวนค่อนข้างได้ผลดีขึ้น มะเขือเทศจำนวนมากที่ทยอยเก็บไปให้แม่ออกทำกับข้าว หรือผักนานาชนิดที่ทยอยเก็บไปทำกับข้าวถวายพระและทำอาหารทานกัน

แม้จะเหน็ดเหนื่อยกับกิจกรรมที่พระอาจารย์นำพาในการฝึกฝนจิตใจผ่านวิถีการทำงาน แต่เด็กๆ ก็ดูสดชื่นและมีความสุข รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ การพูดหยอกเย้า ใบหน้าที่เซื่องซึมแปรเปลี่ยนเป็นเบิกบานมากขึ้น รูปร่างแม้แต่ใบหน้าดูอิ่มเอิบมากกว่าซูบผอมไม่เหมือนเมื่อครั้งเข้ามาวันแรกๆ...

หลังทานข้าวก็ยังมีเรี่ยวแรงเหลือพอที่จะไปเตะตระกร้อ หรือฟุตบอลกันอีก ถือว่า การเข้ามาอยู่เพื่อฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจในสองเดือนนี้เป็นโอกาสที่เด็กๆ ได้รับเมตตาบารมีจากหลวงปู่และพระอาจารย์...

ข้าพเจ้าสังเกตว่าเด็กๆ หลายๆ รุ่นที่ผ่านออกไป ได้แนวคิดต่อการใช้ชีวิตมากขึ้น โดยเฉพาะความอดทนต่อความทุกข์ที่บีบคั้น

เมื่อเย็นนี้ก็เช่นกัน...

ข้าพเจ้าได้ไปทันที่เด็กๆ รดน้ำต้นไม้ เจ้ารันอาสาเก็บบวบ มะระ ผักแมงลัก และอะไรอีกบ้างข้าพเจ้าก็จำไม่ได้ แบ่งมะระมาฝากแม่ข้าพเจ้า และนำที่เหลือไปให้คุณยายแม่ชีโก ทำกับข้าวถวายพระในวันพรุ่งนี้ คุณยายโกดีใจมากที่เห็นพืชผักอันเป็นผลิตผลจากน้ำพักน้ำแรงของเด็กๆ...

ส่วนมะระที่ข้าพเจ้าได้มานั้น แม่นำไปทำแกงคั่วมะระเพื่อเตรียมใส่บาตรถวายพระในวันพรุ่งนี้ (๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๓ - วันเกิดเจ้าอะตอมพอดีเลย)...

นอกจากเจ้ารันจะมาช่วยแล้ว เจ้าสันต์ก็ขันอาสาขมีขมันเก็บผักพร้อมแอคชั่นถ่ายภาพไปด้วย

เท่านี้...ก็ดีแล้วสำหรับชีวิต ณ ขณะ

 

หมายเลขบันทึก: 345388เขียนเมื่อ 18 มีนาคม 2010 22:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ดีจังเลยค่ะ ทานผักที่เราปลูก มั่นใจและปลอดภัยดี

เห็นแล้วอยากทานผักขึ้นมาเลยค่ะ :-))

อยากทานแกงเลียงบวบ ใส่พริกไทเยอะๆ นะคะ

ดีจังค่ะ เก็บผักที่ปลูกเอง เป็นการสร้างความพอและเพียงต่อครอบครัวค่ะ

เมื่อเช้าก่อนมาทำงาน ทานข้าวกับแกงคั่วมะระที่แม่เหลือไว้ให้ และผัดผักบุ้งเพิ่ม และข้าวฮาง ต้องเติมข้าวอีกจาน อร่อย ความอร่อยนั้น คือ วิญญาณหารที่บุคคลอันเป็นที่รักของเราต่างสานสัมพันธ์ความงดงามทางจิตใจผ่านอาหารที่ทำ สื่อออกมาให้เราได้สัมผัสผ่านอาหารที่เราทาน...

แล้วเรายังต้องการอะไรอีกเหรอใน "ชีวิต"

ความเรียบง่าย และความธรรมดา คือ การเคลื่อนไปแห่งสภาวะจิตที่เราพึงน้อมลงทำและยอมรับมัน...

  • ขอบพระคุณ คุณ Baby นะคะ ผักที่เก็บไปนี่คือ น้ำพักน้ำแรงของเด็กๆ ที่ช่วยกันปลูกและดูแล การปลูกผักทานเองนี่ถือว่าเป็นการลดสารเคมีที่เรานำเข้าร่างกายได้ดีมากทีเดียวนะคะ
  • ค่ะคุณ nui แกงเลียงบวบ น่าทานค่ะ บวบที่เราปลูก เป็นบวบงู ตอนที่เก็บสนุกสนานมาก เพราะดูคล้ายงูมาก เด็กยังตกใจเลยว่าคิดว่าไปจับงูเขียวเข้า...
  • อย่างน้อยเด็กที่มาอยู่ที่วัดเขาก็ได้รู้ซึ้งในตนเองว่า เขานั้นยังมีคุณค่าอยู่ ขอบพระคุณคุณ berger0123 ค่ะ นี่แหละที่เรียกว่า ความพอเพียงอย่างที่คุณ berger0123
    Zen_pics_007 


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท