จากการที่ได้กลับไปอ่านซ้ำและใคร่ครวญ ในความที่ปรากฏในตนเองจากเรื่องราวอันเป็นห่วงโซ่แห่งความสัมพันธ์ต่อเด็กที่มาฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด เพียงดินก้อนหนึ่ง ==> ก่อเกิดเป็นความปรากฏในเช้านี้ว่า...
"ต้นไม้ที่เหี่ยวเฉา หากได้รับน้ำ บำรุงดูแลรักษา ด้วยความปรารถนาดีที่จะให้ต้นไม้ดังกล่าวฟื้นตัวขึ้นมา ก็ย่อมนำพาการมีชีวิตอยู่ให้ปรากฏได้"
หากจะว่าไปแล้วข้าพเจ้าอาจได้คิดจาก การที่เคยละทิ้งต้นไม้ที่ปลูกไว้ที่บ้านพักที่ขอนแก่นเป็นเวลาหลายวันมาก แล้วต้นไม้เหี่ยวเฉา เพราะไม่ได้น้ำ แต่ด้วยความแข็งแกร่งและอดทนที่จะมีชีวิตอยู่ ทำให้เขาไม่ตาย หากแต่เป็นเพียงต้นไม้แห้งๆ เหี่ยวๆ และแคะแกรน...
เมื่อข้าพเจ้าได้กลับมาดูแล รดน้ำ ใส่ใจและพูดคุยด้วยในยามเช้า บำรุงรักษามากขึ้น เจ้าต้นไม้เหล่านี้กลับฟื้นตัวขึ้นมาภายในไม่กี่วัน และใบดูสดชื่น เขียวฉ่ำ หลายวันผ่านไปความแคะแกรนแปรเปลี่ยนเป็นต้นไม้ใหญ่ที่มีรูปทรงอันเปี่ยมด้วยพลังของการมีชีวิตอยู่
จากเรื่องราวของต้นไม้...และเรื่องของ ต้น ที่แม้ล้มลุกคลุกคลาน ทำผิดซ้ำบ้าง ชนะใจตนเองได้บ้าง แต่อารมณ์ ความรู้สึก นึกคิดในใฝ่ดีของต้นก็ยังมีอยู่ หากเราให้แรงใจต่อ ต้น ช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อให้ต้นกล้าต้นนี้เติบโตและยืนหยัดด้วยตนเองได้ เชื่อแน่ว่า...วันข้างหน้าเขาจะนำพาตนเองและผู้อื่นให้ไปถูกทางได้
หลายครั้งต่อหลายครั้ง...
ที่ต้นมักพูดถึงสิ่งดีดี และปรารถนาที่อยากจะทำ หากแต่ขาดแรงใจ หากว่าคนในครอบครัวและคนรอบข้าง ได้ร่วมการบ่มเพาะด้วยความเข้าใจ เปี่ยมด้วยความรัก และการให้อภัย แรงใจที่ขาดไปจะมีเพิ่มพูนและเหนี่ยวนำให้เขากลับมาสู่เส้นทางแห่ง "มรรค" อันเป็นเส้นทางที่นำพาเราให้หลุดออกจากสิ่งดึงดูดที่นำไปสู่ความเป็นอกุศลกรรมได้
ไม่มีใครอยากได้ยินคำพูดที่บั่นทอนจิตใจ...
ไม่มีใครอยากได้ยินคำตำหนิ...หรือด่าทอ
หากแต่...ทุกคนปรารถนาที่อยากได้การนำทางอันนำพาไปสู่...วิถีแห่งภาวะใจที่เบาบางหากแต่เป็นพลังที่เต็มเปี่ยมให้สามารถพาชีวิตตนเองผ่านปัญหาและอุปสรรคไปได้
ไม่มีความเห็น